ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
“ป้ามีนาค่ะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
หญิงสาวหน้าเรียวสวยรวบผมตึงเรียบร้อย ในชุดเสื้อแขนกระบอกสีงครีมและผ้าถุงสีแดงเข้มเดิมแกมวิ่งเข้ามาในห้องแต่งตัวและร้องเรียกหาคนที่เป็นป้าเสียงดังลั่นบ้าน
“หนูอัญ ใจเย็นๆ มีอะไร ค่อยๆพูดลูก”
ป้ามีนาพูดปลอบใจหญิงสาวที่กำลังร้อนรนหน้าตาตื่น
“พี่..พี่ฟ้า..ค่ะ..” เธอไม่รู้ว่า ควรพูดยังไงดี แต่อย่างน้อยต้องบอกความจริงไปก่อนที่เรื่องราวจะบานปลาย
“หนูฟ้า..หนูฟ้าเป็นอะไรไปหรือจ๊ะ”
ท่านลุกขึ้นพร้อมจะเดินไปหาน้องสาวของว่าที่ลูกสะใภ้
“ป้ามีนา ฟังหนูอัญ ก่อนค่ะ”อัญชันพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติและพูดเสียงแผ่วเบาออกไป
“พี่ฟ้าหายตัวไปค่ะ หนูอัญตามหาทั่วบ้านแล้วไม่เห็นแม้แต่เงาค่ะ”
หลังจากเธอพูดจบ ป้ามีนาก็ยกมือขึ้นทาบอก หน้าเริ่มซีดปากสั่น
ทำหน้าตาตื่นขึ้นมาทันที
“ตายแล้ว... นี่มันเกิดอะไรขึ้น ตาสิงห์รู้เรื่องนี้หรือยังเนี่ย”
แทนคำตอบหญิงสาวส่ายหน้าและมีสีหน้าที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวมีความกังวลเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินชื่อ ‘นายสิงห์’
“เรื่องใหญ่แน่ๆ เลย งานนี้ฉันจะทำยังไงดี ตาสิงห์ต้องอาละวาดบ้านแตกแน่ๆ “
ป้ามีนาเอ่ยขึ้นด้วยความกังวล เธอรู้สึกว่าพายุใหญ่กำลังจะพัดถล่ม ‘ไร่สิงห์ราช’ อย่างไม่ต้องพึ่งการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาเลยด้วยซ้ำ
บรรยากาศบ้านพักไม้สักหลังใหญ่ภายในไร่สิงห์ราช แขกที่ได้รับเชิญมาร่วมงานแต่งงานระหว่างสิงห์ราชเจ้าของไร่สิงห์ราช ไร่ส้มและไร่ สตอเบอร์รี่ที่กว้างขวางในจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ กับอิงฟ้าแฟนสาว แสนสวยดีกรีนางงามระดับอำเภอ เป็นด้วยความเรียบร้อย
นายอำเภอมาเป็นประธานในงานแต่งงานครั้งนี้ แขกทุกคนทักทายปราศรัยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
แต่ก็ยังมีบางคนที่นั่งคุยยิ้มๆไปด้วย แต่แววตามีความเจ้าเล่ห์และสะใจอยู่ในที คนนั้นคือนายจอมทัพ ช่วงโชติ นักการเมือง ผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่นี่ ต่อหน้าเขาทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใจดี แต่ลับหลังเขาทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน รวมทั้งงานผิดกฎหมายต่างๆ
‘ยิ้มไปเถอะไอ้สิงห์ ไอ้ลูกหมา เดี๋ยวมึงจะยิ้มไม่ออก’เขานึกในใจ
สำหรับหน้าบ้านมีแต่ความสดชื่นแจ่มใสสมกับงานแต่งงาน แต่ภายหลังบ้านกำลังเกิดเหตุการณ์โกลาหล เมื่อเจ้าสาวของงานหายตัวไป
“ทุกคนช่วยกันออกตามหาอิงฟ้าให้ทั่วไร่เลยนะ”
โมกหัวหน้าคนงานในไร่และพ่อของว่าที่เจ้าสาวสั่งการเสียงเฉียบขาด เมื่อรู้เรื่องอิงฟ้าหายไปจากห้องจากอัญชันลูกสาวคนเล็กที่วิ่งมาบอก เขาคิดว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกสาวแน่ๆ เพราะการแต่งงานนี้เกิดจากความเต็มใจของทั้งเจ้าบ่วและเจ้าสาวที่รักกันมานานแล้ว ไม่มีทางที่เจ้าสาวจะหนีงานแต่งงานที่ตัวเองเป็นคนรบเร้าให้จัดขึ้น
“ยายฟ้าทำอย่างนี้ได้ยังไง เวลาอยากแต่งงานก็เร่งเร้า อยากแต่ง เร็วๆ แต่เวลานี้หายตัวไปได้ไง”
นายโมกบ่นออกมาเมื่อตามหาจนทั่วทั้งไร่ก็ไม่มีใครเจอว่าที่เจ้าสาว
“คุณค่ะ ใจเย็นๆ ลูกคงออกไปทำธุระข้างนอก เดี๋ยวคงกลับมาค่ะ” เอื้องแม่ของอิงฟ้าเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แม้จะไม่แน่ใจในคำพูดของตัวเอง
“นายสิงห์จะว่ายังไง ยายฟ้า หนอ ยายฟ้า ทำอะไรไม่เคยคิดถึง พ่อแม่ว่าจะเดือดร้อนกับการกระทำของมันเลย”
นางเอื้องบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อแน่ใจว่าเจ้าสาวหนีงานแต่งงานไปแล้วจริงๆ
นายโมทยังไม่ลดล่ะ พยายามให้คนงานออกค้นหาต่อไป จนพบว่าอิงฟ้าได้ปั่นจักรยานออกไปที่ปากทางเข้าไร่ และได้ยกรถจักรยานขึ้นรถกระบะ 4 ประตูคันใหญ่ออกไป
รถที่ใครก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ เพราะเจ้าของรถเป็นคนมีชื่อเสียงในพื้นที่ไม่แพ้กัน และทุกคนในไร่ก็รู้จักคนคนนั้นในฐานะ
ศัตรูคู่แค้นของนายสิงห์
ภายในห้องนายสิงห์แห่งไร่สิงห์ราช
ชายหนุ่มรูปงามสูง 185 ซม.หน้าตาคมเข้มเพราะทำงานตากแดดตากลม เขาคือนายสิงห์ของคนงานกว่า 100 คนของไร่สิงห์ราช คนที่เวลาทำงานมีความตั้งใจจนเป็นเข้มงวด ดุ โหด เถื่อน กับคนที่ทำผิดกฏ แต่จะเป็นนายสิงห์ผู้ใจดีของทุกคนที่ตั้งใจและขยันทำงาน
สิงห์ราชส่งรอยยิ้มขี้เล่นออกไปเมื่อเห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในห้องนอนของเขา เขาเดินไปตรวจความเรียบร้อยของชุดตัวเอง ในนั้นจะพบชายที่มีใบหน้าคมเข้ม ผมตัดสั้น หนวดเคราถูกโกนออกจนหมดตามความต้องการของว่าที่เจ้าสาว รวมๆแล้วคือชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดโจงกระเบนสีแดงเข้ม เสื้อราชปะแตนสีขาวนวล
“ได้ฤกษ์แล้วใช่ไหมครับคุณแม่”
เมื่อเช็กความพร้อมเสร็จก็หันมาถามคนเป็นแม่ ก่อนจะแปลกใจที่เห็นใบหน้าของแม่ที่มีความกังวลแทนที่จะเป็นใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จนเขาอดได้ไม่ได้ที่จะต้องถามขึ้นมา
“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแม่”
มีนาเดินเข้ามาหาลูกชายที่ยืนอยู่ ก่อนจะพูดออกไปและรอฟัง
“ตาสิงห์ ฟังแม่นะลูก....ตอนนี้หนูฟ้าหายไป”
“อะไรนะครับ คุณแม่พูดเล่นใช่ไหม ฟ้าต้องกำลังแต่งตัวอยู่ที่บ้านลุงโมทซิครับ” แววตาชายหนุ่มที่มีความสับสน เขาไม่คิดว่าแม่จะพูดโกหก
“มันคือเรื่องจริง หนูฟ้าหายตัวไปจ๊ะ แม่ให้คนงานของค้นหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ “
“ผมไม่เชื่อ มันต้องมีอะไรผิดพลาด ผมจะไปดูเอง”
ชายหนุ่มเดินแกมวิ่งผ่านผู้คน ที่ยิ้มแย้มตั้งใจทักทายเขา ไปอย่างรีบร้อน จุดหมายคือบ้านหัวหน้าคนงานที่เป็นพ่อเจ้าสาว ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังใหญ่ของเขานัก
ปัง
สิงห์ราชดึงบานประตูที่เขารู้ว่าเป็นห้องนอนของอิงฟ้าออก ก่อนจะ เข้าไปดูในห้องนอน เขาเห็นเพียงความว่างเปล่า และชุดเจ้าสาวที่แขวนไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า
กระดาษสีขาวเล็กๆสอดอยู่ในชุดเจ้าสาว สิงห์ราชหยิบขึ้นมาอ่าน มือไม้สั่นด้วยความตกใจ ก่อนจะกลายเป็นความโกรธแค้น
“พี่สิงห์ ฟ้าขอโทษ ฟ้ามาทบทวนแล้ว ฟ้ากับพี่สิงห์มีอะไรแตกต่างกันมากเกินไป ฟ้าขอยกเลิกงานแต่งงานในวันนี้ ขอให้ฟ้าไปตามหาความฝันของตัวเองนะคะ หวังว่าพี่สิงห์จะเข้าใจฟ้า อิงฟ้า”
ชายหนุ่มขยี้กระดาษแผ่นเล็กขาดคามือ แววตาเกรี้ยวกราด หน้าตาแดงก่ำ พร้อมทำทุกอย่างให้พังลง
โครม เพลั้ง..
ชายหนุ่มใช้มือดึงผ้าปูโต๊ะ ที่วางเครื่องแต่งกาย และต่อยที่กระจกอย่างแรง ข้างของในห้องโดนทำลาย
รวงทั้งภาพหญิงสาวกับชายหนุ่มคู่กันที่วางอยู่ที่หัวเตียงนอน
ทุกอย่างพังลงในพริบตา เศษกระจกเต็มพื้น ที่มือชายหนุ่มมีบาดแผลที่โดนกระจกบาด เลือดกระเด็นโดนชุดเจ้าบ่าวจนเต็มไปหมด
“ สิงห์ ..ลูกอย่าทำอย่างนี้ลูก อย่าทำร้ายตัวเอง สิงห์ไม่ผิดเลยสักนิด อย่าทำร้ายตัวเอง”
คุณมีนาในชุดผ้าถุงยาว เสื้อลูกไม้ขาว ขับผิวให้สดใส ท่านเดินอย่างระมัดระวังเศษกระจก ท่านสวมกอดบุตรชายลูบเนื้อตัวที่สั่นเทาอย่างพยายามระงับความโกรธ นางกอดเขาไว้ให้อาละวาดไปมากกว่านี้
นายโมก นางเอื้อง รวมทั้งอัญชัน ได้แต่ยืนตัวสั่นเทาอยู่หน้าห้อง ไม่มีใครกล้าห้าม เพราะรู้ว่าเวลานายสิงห์โมโหน่ากลัวขนาดไหน
“ อิงฟ้าทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง ผมเข้าใจ”
เสียงสิงห์ราชเอ่ยลอดไรฟันออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่บาดเจ็บสาหัส
“อาโมกต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
แววตาแดงฉาน น้ำเสียงเกรี้ยวกราด มองทุกอย่างขวางหูขวางตาไปหมดเดินออกมายืนประชันหน้ากับนายโมกและนางเอื้อง ส่วนอัญชันรีบแอบเดินเข้าไปในห้องที่ระเนระนาดไปด้วยการพังของนายสิงห์
นายโมกได้แต่ยืนก้มหน้าลง ยอมรับความผิดที่นายสิงห์จะพิพากษาเพราะไม่มีอะไรจะมาแก้ต่างให้ลูกสาวตัวเอง
“ผมขอโทษครับนายสิงห์ ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง นายสิงห์จะให้ผมทำอะไรสั่งมาได้เลยครับ ผมจะยอมทำทุกอย่างที่นายสิงห์สั่ง”
“ดี จำคำพูดตัวเองไว้ให้ดีๆนะอาโมก เรื่องนี้ มันไม่จบง่ายๆแน่”
สิงห์ราชเอ่ยออกไปด้วยเสียงดังลั่นบ้าน จนแม้กระทั่งคนที่เก็บเศษกระจกที่แตกอยู่ในห้องยังตกใจจนโดนเศษกระจกบาดนิ้ว
“อุ้ย...” อัญชันร้องอุทานขึ้นมา ก่อนจะยกนิ้วตัวเองขึ้นมาดู
“สิงห์ ลูกใจเย็นๆ ก่อน อิงฟ้าหายตัวไปไหน พวกเราก็ไม่รู้จะให้ อาโมกรับผิดชอบยังไงจ๊ะ”
มีนาใช้น้ำเย็นเข้าลูบ มือก็ลูบหลังลูกชายไปด้วย
“งานแต่งยกเลิกไปก่อนดีกว่านะ พ่อจะแจ้งแขกว่าเจ้าสาวไม่สบาย”
สินธุชายผมสีดอกเลา แววตาเด็ดเดี่ยวไม่แพ้ลูกชายเอ่ยขึ้น เขามองลูกชายที่นิ่งเงียบสงบลงแล้วจึงเสนอแนวทาง
“แม่ว่าก็ดีเหมือนกันนะจ้ พวกเราไม่ต้องไปตอบคำถามแขกที่มาร่วมงานมาก แม่เอื้องก็ไม่ต้องไปที่งาน เดี๋ยวฉันจะบอกว่าไปเฝ้าลูกที่โรงพยาบาล “ นางมีนาเห็นด้วยกับสามีและเสนอแนะเพิ่มเติม
“พวกเราต้องขอโทษนายท่าน นายแม่และนายสิงห์ด้วยนะครับ ยายฟ้ามันทำเรื่อง ผมจะรีบตามตัวมันกลับมาให้เร็วที่สุด “
โมกบอกยกมือไหว้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว และรับปากจะตามลูกสาวกลับมาให้ได้ แต่ทว่า......
ทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อชายหนุ่มที่ยืนกำมือแน่นที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก มันเย็นจนทุกคนที่ได้ยินตัวแข็งทื่อ และรู้ว่าเข้าใจผิดที่คิดพายุสงบไปแล้ว เพราะไม่ได้สงบเลยแม้แต่น้อย