“เธอมีอะไรรึเปล่า?” เอสถามขึ้นขณะที่ฉันเผลอจ้องหน้าเขาเพลินในร้านอาหาร หลังจากฉันนั่งดูวิดีโอการรักษาเกือบทั้งหมดและเห็นว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง เขาพูดไม่ได้และกรีดร้อง ไม่นอนบนเตียง อยู่เป็นปีๆ เหตุผลที่เขาสักบริเวณแขนคงเพื่อปิดบังรอยแผลเป็นที่เขากรีดตัวเองเมื่อครั้งนั้น เขาชวนฉันทานข้าว และฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธ คงเพราะในใจนึงฉันเกิดสงสารขึ้นมาหน่อยๆ แต่อีกใจก็ยังระทึกกับอีกวิดีโอของเขาที่โตขึ้นแล้ว ที่เขาบอกว่าความลับน่ะ... “ฮะ... ไม่นี่” ฉันส่ายหัว “หน้าผมน่าสนใจขนาดนั้นเชียว” “แค่เผลอมองน่ะ ไม่รู้จะโฟกัสสายตาตรงไหนดี” ฉันอ้างไปเรื่อย เอสก็เลยวางช้อนก่อนจะเท้าคางมองกลับมาที่ฉัน เอียงคอเล็กน้อย “งั้นผมเผลอมองเธอบ้าง” “ติ๊งต๊อง” “งั้นสิ” เอสไหวไหล่แล้วหยิบช้อนขึ้นมาทานต่อ เราไม่ได้พูดอะไรกันมากมายนัก ฉันแค่แอบลอบมองเขาเป็นระยะ ความสงสัยมีมากมายหลายอย่างอยู่ในใจ แต่ก็ปะปนกับความระแวงด้วย พ่