เรือนหอร้อยล้านก็เหมือนบ้านร้างเมื่อเจ้าสาวเจ้าบ่าวป้ายแดงต่างแยกกันอยู่ เพณิตามาพักที่คอนโดส่วนตัวของตัวเอง และขณะที่กำลังนั่งออกแบบวาดปกหนังสือให้กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในห้องก็มีเสียงสั่นเตือนของโทรศัพท์ดังขึ้นรบกวน และความที่รีบโดยไม่ทันได้รู้ว่าใครโทรมาก็กดรับแล้วกรอกเสียงหวานทักทายปลายสายทันที
“สวัสดีค่ะ เพณิตารับสายค่ะ”
“รู้ครับว่าเป็นเพณิตา ตอนนี้คุณอยู่ไหน?” น้ำเสียงกวนส่งกลับมาและนั่นทำให้รู้ทันทีว่าปลายสายคือใคร
“คุณภพธร”
“ครับ ภพธรผัวคนแรกของคุณ ดีใจจัง คุณจำเสียงผัวได้”
“ต้องการอะไรจากฉันอีก”
“อยากได้เมีย ตอนนี้คุณอยู่คอนโดรึเปล่า” เขาถามทั้งๆ ที่รู้ว่าเธออยู่คอนโดและตัวเขาเองก็อยู่หน้าห้องของเธอในตอนนี้
“เรื่องของฉัน ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็แค่นี้แหละ” พูดจบก็ตัดสายทิ้งและปิดเครื่องหนีทันที พอหันมามองหน้าจอโน้ตบุ๊กก็หมดอารมณ์จะวาดปกต่อแล้วจึงลุกเดินไปยังห้องครัวเพื่อหาน้ำเย็นๆ ดื่ม แต่แล้วเสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
“ใครกันมารบกวน” เมื่อเห็นว่าตอนนี้เวลาสองทุ่มแล้ว แถมไม่ได้สั่งอาหารด้วย แล้วใครกันมาหาเธอ
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
เสียงออดหน้าห้องยังคงดังขึ้นจนเธอวางแก้วน้ำที่เพิ่งดื่มหมดในมือไว้หลังตู้เย็นแล้วเดินไปเปิดดูว่าใครกันมารบกวนเวลานี้ และทันทีที่เปิดแง้มประตูออก คนที่ยืนหน้าประตูก็ผลักเต็มแรงแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
ว้าย!
“คุณภพธร!”
“ใช่แล้วทูนหัว ผัวเอง” เขายักคิ้วส่งให้เธอแล้วเดินเข้าไปข้างในอย่างคุ้นเคย
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“มานอนสิถามแปลก ผมเหนื่อยมาก ขออาบน้ำก่อนนะ ว่าแต่เสื้อผ้าผมยังอยู่ไหมหรือทิ้งหมดแล้ว แต่ไม่เป็นไร เวลานอนผมไม่ชอบใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว เพราะผมมักเกิดอารมณ์กลางดึกเวลามีคุณนอนข้างๆ”
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้” เธอเดินมากระชากแขนเขาให้หยุดเดิน
“ไม่ออก ผมจะนอนที่นี่” เขาตีมึนตอบ
“คุณจะบ้ารึเปล่า จะมาค้างกับฉันที่นี่ได้ยังไง ฉันแต่งงานแล้วคุณก็รู้”
“แต่ก่อนที่จะแต่งงาน คุณก็เป็นของผมมาก่อนไม่ใช่เหรอ และผมก็รู้นะว่าคุณกับสามีไม่ได้อยู่ด้วยกัน ฉะนั้นผมนอนที่นี่ได้” เขาสะบัดแขนจนมือเล็กหลุดแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนเพณิตาได้แต่ยืนนิ่งมองคนหน้าหนาหน้าทนเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ว่าจะเกลียดภพธรมากแค่ไหน แต่สุดท้ายเธอก็หนีเขาไม่พ้น หรือนี่คือโชคชะตาของเธอกันแน่ ทำไมต้องกลั่นแกล้งเธอแบบนี้ด้วย
“อือ” นวลพรรณครางพร่าเมื่อกลางดึกแล้วรู้สึกว่ากำลังถูกรุกเร้าความเป็นสาวกลางหว่างขา หล่อนพยายามบิดตัวดิ้นหนีการรุกเร้านี้ แต่ก็ถูกเขากอดรั้งรัดร่างไว้พร้อมกับเสียงห้าวกระซิบหวานข้างหู
“ขอนะนวล”
แม้เธอจะให้นอนที่ห้องรับแขก แต่เขาก็ทนไม่ไหว เขาอยากกอด อยากสัมผัสภรรยาคนสวย อยากแนบรักสอดประสาน อยากให้เธอตอดรัดคลึงท่อนเนื้อของเขายามสอดใส่
“มะ...ไม่นะคุณภู มะ...อ่า”
แม้จะพยายามขัดขืนปัดป่ายมือหนาออกจากจุดไวต่อความรู้สึกของตัวเอง แต่มือหนาก้ยังคงรุกเร้า ปากเธอก็ครางซ่านเสียวตอบสนองและร่างกายก็ร้อนวูบไหวตอบสนองกลับ จากที่จะดิ้นขยับตัวถอยหนีก็เปลี่ยนเป็นตอบสนองแอ่นเด้งเร่าไปตามแรงกระตุกรุกเร้าของนิ้วใหญ่ที่เคลื่อนไหวนวดเร่าจุดเสียวซ่านกลางหว่างขาตัวเอง
“อ่า...ร่างกายของคุณมันไม่ได้ปฏิเสธผมนวล ผ่อนคลายนะที่รัก”
น้ำเสียงแหบพร่ากระเส่ากับซอกคอหอมกรุ่นแล้วเลิกกระโปรงชุดคลุมตัวยาวที่เธอใส่นอนมากองไว้ที่เอวกลมแล้วจัดการรุกเร้าสอดนิ้วแกร่งเข้าไปในความแฉะของสาวเจ้าที่มันกำลังแฉะรอให้เขาสอดใส่
“อือ...มะ...ไม่นะคุณภู มะ...ไม่ อ่า...”
แม้ปากจะพูด แต่ร่างกายของเธอก็แอ่นเร่าไปกับแรงรุกเร้า เหงื่อไคลผุดขึ้นเต็มหน้าเมื่อความเสียวร้อนรุ่มกลางหว่างขากำลังทรมาน และเมื่อเขาสอดแทรกท่อนขาแข็งแรงแทรกพาดกลางหว่างขาที่นอนตะแคงของเธอก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงความแข็งร้อนใหญ่โตของบุรุษที่กำลังบดเบียดแนบถูกับหลังเนียนตัวเอง
“อย่าปฏิเสธผมเลยทูนหัว เราสองคนเข้ากันได้ดีคุณก็รู้นวล ให้ผมนะที่รัก”
หล่อนแพ้น้ำเสียงกระเส่าแสนเซ็กซี่ของภูเบศ และเหมือนทุกครั้งทุกคืน แม้จะไม่ต้องการแต่ก็ต้องพ่ายแพ้อยู่ดี เพราะร่างกายของเธอมันไวต่อสัมผัสของเขาอย่างเขาบอกนั่นแหละ ท่อนแขนแข็งแรงรั้งเธอเข้าไปหา แผ่นหลังเล็กปะทะกับหน้าอกแกร่งเปลือย นวลพรรณรับรู้ได้ถึงไอร้อนของร่างกายบุรุษที่กอดซ้อนอยู่ด้านหลัง แล้วก็ต้องสูดปากครางเสียวเมื่อแท่งเนื้อร้อนของเขาบดเบียดแทรกเข้าหาจากทางด้านหลัง
“อ่ะ...อื้อ”
“อ่า...แน่นเหลือเกินทูนหัว จำไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมรักคุณคนเดียวนวล”
เขาจูบไหล่เล็กของภรรยาที่โอบกอดไว้ในวงแขนแน่นแล้วก็เริ่มขยับโยกเร่าบดเอวสอบเข้าหาเธอจากทางด้านหลัง ด้วยความที่เธอท้องแก่ใกล้คลอดแล้วเขาจึงได้แต่ใจเย็นเป็นไปอย่างช้าๆ เพื่อให้เธอรับรู้ถึงความรักของเขาที่สอดเร่าจ้วงลึกไหวโยกในกายสาวที่ตอดรัดแน่นของเธอ
“อ่า...คุณภู อ่า...” ว่าที่คุณแม่ครวญครางไปกับจังหวะเร่าร้อนอ่อนโยนที่สอดเร่าบดเบียดขูดไถเข้าออกในความคับแน่นตัวเอง เธอกัดปากแน่นเมื่อความเสียวร้อนของสามีกำลังทรมานเธอ และยิ่งเขาเคลื่อนไหวถอดถอนออกแล้วเด้งกระแทกกลับเข้ามา เธอก็บอกกับตัวเองในใจว่าต้องการลึกกว่านี้อีก และบดเอวไปกับหน้าขาของเขาเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอต้องการลึกกว่าเดิม
“อ่า...ได้เลยทูนหัว โอว์...คุณตอดรัดผมดีเหลือเกินนวล อ่า...ผมรักคุณคนดีของผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ใจผมมันจะมีแค่คุณ ร่างกายผมก็ด้วย มันจะเป็นของคุณคนเดียวที่รัก อ่า...แน่นเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว อ่า...”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
เสียงจังหวะกระแทกเนื้อของทั้งสองดังขึ้นหนักหน่วง แต่ใช่ว่าจะดุดัน มันอ่อนโยนและสอดเร่าลึก เคลื่อนไหวไปอย่างใจเย็น เมื่อคนที่เป็นเต้ารับนั้นท้องโตเกินจะรุนแรงได้เหมือนก่อนแล้ว ภูเบศเร่งสาวเอวสอบเพื่อส่งตัวเองและแม่ยอดรักที่โอบกอดรัดแน่นอยู่ข้างหน้าด้วยความซ่านสุข
“อือ...ไม่ไหวแล้วคุณภู อ่า...นวลไม่ไหวแล้ว เร็วอีกหน่อยค่า อ่า...” หล่อนเร่งเร้าสามีเมื่อเขาเคลื่อนไหวเอวช้า
“โอว์...เร่งผมเหรอนวล อ่า...ได้เลย ผมจะรัวเอวให้ตอนนี้แหละที่รัก อ่า...แน่นเหลือเกิน อืม...”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
ตอนนี้สองกายสอดเร่าหลอมรวมเป็นหนึ่งและหัวใจก็ผูกรั้งกันเช่นกัน แม้ปากของนวลพรรณบอกว่าไม่ต้องการสามีแล้ว แต่ใจและร่างกายยังคงโหยหาคนตัวโตที่ไหวโยกอยู่ด้านหลังตัวเอง วงแขนแข็งแรงอบอุ่นและสร้างความเจ็บปวดให้ในคราเดียวกัน น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มนวลในความมืด ตอนนี้มีทั้งเสียงครางกระเส่าและเสียงสะอื้นไห้ดังปะปนกันออกมา แต่ไม่อาจปิดบังได้ว่าตอนนี้เธอมีความสุขที่เขาสอดเร่าลึกในกายคับแน่นตัวเอง
ภูเบศรับรู้ได้ถึงเสียงสะอื้นไห้ของแม่ของลูก แต่ก็หยุดไม่ได้ เพราะนาทีนี้เขาและเธอใกล้จะถึงสวรรค์แล้ว เขาเร่งสาวเร่าโยกเอวสอบกระแทกเข้าหาก้นกลมกลึงของเธอ เห็นนวลพรรณร้องไห้ใช่ว่าเขาไม่เจ็บปวด น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลอาบซึมไม่แพ้กันในตอนนี้
สองเสียงครางดังสลับกันพร้อมกันและปนเสียงสะอื้นไห้ไม่ต่างกัน น้ำตาของทั้งสองกำลังไหลอาบปลอบประโลมใจที่แสนเจ็บปวดของตัวเอง และร่างกายก็โอบอุ้มความสุขทางกายของกันและกันไปด้วย