สุดท้ายเธอก็พาเขาเข้าโรงแรมจนได้ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะกล้ารับคำท้าทายจากเขาแบบนี้
ทั้งสองเดินเข้ามายังห้องนอนอย่างไม่รีบร้อน ขณะเดียวกันเมธาวีก็เหลือบมองชายหนุ่มรุ่นน้องด้วยความประหม่า เห็นเขาถอดเสื้อสูทออกเผยให้เห็นแผงอกล่ำสัน ก็ทำให้เธอใจสั่นจนไม่กล้าสบตา จากเจ้าเด็กผอมแห้งคนนั้น กลายเป็นหนุ่มหล่อเซ็กซี่ไปซะแล้ว ก่อนหน้านี้ยังหน้าด้าน ยื่นข้อเสนอแต่งงานปลอม ๆ แถมยังตอบรับข้อแลกเปลี่ยนแสนจะเปลืองตัวอย่างคนใจง่าย แต่ตอนนี้กลับรู้สึกละอายใจขึ้นมาซะงั้น อย่างกับคนเพิ่งเคยทำบาปเป็นครั้งแรก
บ้าไปแล้วยัยเบล พาผู้ชายเข้าโรงแรมเพราะเขาชวนให้ทดลองงานเนี่ยนะ
ปวริทเห็นคนตัวเล็กยืนนิ่งก็สงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดจากด้านหลังแล้วจูบแก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ
“คุณเบล อายเหรอครับ”
เมธาวีรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า เพราะเธอไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ตอนที่อยู่กับแฟนเก่า ก็แทบไม่ได้สัมผัสกันเลยด้วยซ้ำ จะว่าไปก็ผ่านมาหลายปีแล้วที่ไม่เคยทำอะไรกับผู้ชาย ไม่แปลกที่จะไม่คุ้นชิน และเป็นครั้งแรกที่เข้าโรงแรมกับผู้ชายหลังจากกันได้แค่สองชั่วโมงแบบนี้ ภาษาชาวบ้านคงเรียกว่านัดยิ้มนั่นแหละ
“ก็อายน่ะสิ” หญิงสาวสารภาพ ร่างเล็กสะดุ้งเบา ๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนบนลำคอ
ปวริทไล้ริมฝีปากพรมจูบลำคอระหงและไหล่โค้งมนอย่างหลงใหล ตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย เขาก็อยากทำแบบนี้กับเมธาวีมาตลอด อยากกอด อยากหอม อยากฟัดให้หนำใจ แต่หมาวัดอย่างเขาหรือจะกล้าเด็ดดอมดอกฟ้า โชคดีที่ทำตามหัวใจเรียกร้อง เข้าไปเสนอตัวให้หญิงสาว ดอกฟ้าอย่างเธอถึงได้โน้มกิ่งลงมาให้ลูกหมาอย่างเขาเชยชม
“อย่าอายเลยครับ คิดซะว่าทดลองใช้งาน”
“ทดลองอะไรกัน…ไม่ใช่สินค้าสักหน่อย”
“แน่นอนว่าไม่ใช่สินค้า แต่กำลังจะเป็นสามีคุณ… เชิญคุณเบลใช้ร่างกายของผมได้ตามสะดวกเลยครับ” เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหูราวกับกำลังยั่วยวน
เมธาวีรู้สึกหวิวไปทั้งช่องท้อง โดยเฉพาะท้องน้อยที่กำลังหดเกร็งด้วยความอายและตื่นเต้น ร่องก้นของเธอสัมผัสกับบางอย่างที่บดเบียดเข้าหาอย่างจงใจ เมื่อได้ยินเสียงครางจากคนข้างหลัง ก็รู้ได้ทันที
“ฉัน…”
ปวริทกอดรัดร่างอรชรแน่นขึ้นด้วย เขาบดเอวกับบั้นท้ายกลมงอนอย่างกระสันเสียว หลังจากดมกลิ่นหอมหวานจากต้นคอของเมธาวี ร่างกายของเขาก็ร้อนรุ่มจนไม่สามารถต้านทานความต้องการได้ เขาอยากกดเมธาวีลงกับเตียงเสียเดี๋ยวนี้ แต่กลัวจะทำให้อีกฝ่ายตกใจกลัว จึงทำได้แค่สัมผัสเล้าโลมอย่างใจเย็น
ริมฝีปากหยักขบเม้มใบหูแดงของหญิงสาวเบา ๆ แล้วครางกระซิบบอกความต้องการของตัวเอง
“คุณเบล ผมแข็งจนปวดไปหมดแล้วครับ คุณสวยจนผมอยากเอาตรงนี้เลย”
ใบหน้าของเมธาวีแดงซ่านหลังได้ยินความต้องการตรง ๆ ออกมาจากปากของเขา ประกอบกับน้ำเสียงสั่นกระเส่า ก็ยิ่งทำให้หัวใจสั่นสะท้าน ฝ่ามือร้อนของเขาค่อย ๆ ไล้ต่ำลงจนถึงต้นขา กรีดนิ้วไปตามรอยแยกของชุดเดรส ก่อนจะล้วงเข้าไปสัมผัสกับความร้อนนุ่มนิ่มอย่างย่ามใจ
ถึงจะประหม่า แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน
“อ๊ะ…” เมธาวีสะดุ้งหลังจากสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่กำลังเขี่ยอยู่ด้านนอกชั้นในตัวบาง “คุณ…อย่าเขี่ยแบบนั้น”
“ไม่ชอบเหรอครับ”
“ไม่ใช่…มันเสียวไป อย่าเพิ่งจับ…” เมธาวีพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติ แต่ก็ยากเย็นเหลือเกิน เพราะคนข้างหลังไม่ยอมปล่อยไปแต่โดยดี แต่ยิ่งบดนิ้วรุนแรงขึ้น เธอรู้สึกเหมือนมีประกายไฟพุ่งขึ้นในร่างกายเป็นระยะ แม้ว่าเขาจะสัมผัสอยู่ด้านนอก แต่เธอกลับขมิบไม่หยุด
“อดทนอีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินครับ” ปวริทยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อรู้ว่าเมธาวีเริ่มคล้อยตามการสัมผัสของเขาแล้วเช่นกัน จึงใช้มืออีกข้างสัมผัสเต้ากลมฟูอย่างนุ่มนวล เขาค่อย ๆ ขยำเคล้น กระทั่งได้ยินเสียงหวานครางออกมา จึงดึงปมเชือกหลังคอออก แล้วเล่นกับมันโดยตรง
“อ๊ะ…คุณ ฉันเสียว” เมธาวีครางตาปรือ ตอนนี้ทั้งบนทั้งล่างถูกรุกรานจนต้านทานไม่ไหว ปวริททั้งบีบทั้งเคล้นเต้าทั้งสองข้างของเธอด้วยมือเดียวราวกับผลไม้ ส่วนมือที่อยู่ด้านล่างก็เกี่ยวชั้นในของเธอลง แล้วขยำเคล้นแรงขึ้น ถึงมันจะไม่ใช่ผลไม้ แต่โดนขนาดนี้ จะไม่แฉะได้ยังไง แล้วดูเหมือนว่าปวริทจะรู้ทัน ถึงได้แหย่นิ้วเข้ามาหยอกเย้า
ชายหนุ่มแสยะยิ้มแล้วสอดนิ้วยาวเข้าไปจนสุด
“เสียวรูเหรอครับ”
“อย่าพูดสิ” เมธาวีพยายามกลั้นเสียงราง แต่คนข้างหลังก็เย้าแหย่เธอไม่หยุด บางทั้งก็แกล้งขยับอย่างนุ่มนวล บางครั้งก็เร่งจังหวะจนได้ยินเสียงฉ่ำแฉะน่าอาย
“รูคุณแน่นจังเลยครับ ผมเอาเข้าไปแค่นิ้วเดียวยังแน่นขนาดนี้ ถ้าผมสอดเข้าไป กลัวคุณจะรัดจนขาดจัง” ปวริทขยับนิ้วเข้าออกอย่างอารมณ์ดี เห็นหญิงสาวแฉะเยิ้มขนาดนี้ ก็แสดงว่ามีอารมณ์เหมือนกัน หากเป็นปกติเขาคงไม่ได้สนใจอีกฝ่ายขนาดนั้น แค่เล้าโลมนิดหน่อย จับยัด กระแทก แล้วทำให้เสร็จ ๆ ไปทั้งคู่ก็พอแล้ว แต่กับเมธาวี เขาอยากถนอมเธอให้มากที่สุด อยากทำให้เธอติดใจจนลืมสัญญาสามเดือนนั่นไปเลย
“ฉัน…ยืนไม่ไหวแล้ว” เป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้เธอเสียวจนขาสั่นขนาดนี้
“ถ้างั้นไปทำบนเตียงกันเถอะครับ” ปวริทถอนนิ้วออกแล้วจูงมือหญิงสาวไปยังเตียง เขาจับเธอนั่งลงที่ปลายเตียงแล้วจับข้อเท้าเล็กอ้าขาออก
“อ๊ะ…ท่านี้มันน่าอาย” เมธาวียกมือปิดหน้าของตัวเอง เธอรู้สึกอายจนไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้าด้วยซ้ำ ทว่าสัมผัสของปวริทกลับทำให้เธอเบิกตากว้างแล้วส่งเสียงครวญครางออกมา “คุณ... จะทำอะไร!”
“คุณเบลหอมจังเลยครับ หอมอย่างกับทาน้ำผึ้งไว้ ขอผมเลียหน่อยนะครับ” ปวริทซุกจมูกลงกับเนินเนื้อนุ่ม สูดดมกลิ่นหอมหวานของฟีโรโมนอย่างหลงใหล กลิ่นของเมธาวีทำให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน ร่างกายร้อนรุ่มจนทนไม่ไหว ต้องปลดซิบกางเกงออกแล้วงัดเอาแท่งเนื้อแข็งขนัดออกมาด้านนอก
มือใหญ่รูดเร้าเพื่อคลายความปวดร้าว ขณะเดียวกันก็ใช้ลิ้นปาดเลียกลีบอ่อนนุ่มแล้วดูดกลืนน้ำหวานที่หลั่งไหลออกมาอย่างกระหาย
“ทั้งหอมทั้งหวานเลยครับ” ปวริทสะกิดเกสรสีสดตรงหน้าด้วยปลายลิ้นแล้วดูดเม้มเบา ๆ ขณะเดียวกันก็ก็สอดนิ้วเข้าไป ควานหาจุดอ่อนไหวด้านใน เมื่อได้ยินเสียงครางจากหญิงสาวดังขึ้น จึงวนปลายนิ้วอย่างพึงพอใจ
“อ๊ะ…อย่าดูดแรง” ร่างอรชรสะดุ้งเป็นพัก ๆ เมื่อจุดเสียวของเธอถูกคนตัวโตบดขยี้ไม่พัก ทั้งดูด ทั้งแหย่ เสียวเกร็งไปทั้งตัว
ปวริทได้ยินแล้วก็แกล้งลงมือหนักกว่าเดิม
“แรง ๆ เหรอครับ ได้เลยครับ” พูดจบก็รัวลิ้นเร็วขึ้น
“ไม่นะ! อ๊ะ จะเสร็จแล้ว! เอาหน้าออกไป!” เมธาวีกรีดร้องสุดเสียงเมื่อไม่สามารถต้านทานคลื่นเสียวครั้งนี้ได้ มือเล็กทั้งสองขยำเรือนผมสีเข้มอย่างแรง กดศีรษะของอีกฝ่ายให้แนบชิดอย่างลืมตัว
เป็นไปอย่างที่ชายหนุ่มได้คาดหวังเมื่อร่างเล็กกระตุกถี่ปล่อยน้ำรักพุ่งออกมาจนเต็มใบหน้าของเขา แต่เขาไม่ได้คิดหลบเลี่ยง กลับอ้าปากประกบร่องสีหวานแล้วกลืนน้ำรักของหญิงสาวลงคอดับกระหาย น้ำของเมธาวีช่างหอมหวานจนเขาต้องลากลิ้นเลียกินทุกหยาดหยด ถึงขั้นแหย่ลิ้นเข้าไปแล้วตวัดกวาดด้วยความงุ่นง่าน ดื่มกินจนพอใจแล้วถึงค่อยถอนปากออกแล้วลุกขึ้นมองใบหน้าหวานแสนร่านเริงนั้นอย่างหลงใหล
ปวริทเช็ดหน้าของตัวเองด้วยแขนเสื้อก่อนก้มกระซิบถามคนตัวเล็กเสียงกระเส่า
“คุณเบลชอบไหมครับ ถ้าชอบผมจะเลียให้คุณทุกเช้าก่อนไปทำงานเลย”
เมธาวีมองใบหน้ากรุ้มกริ่มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยว ดูเจ้าตัวจะชอบเอามากจริง ๆ ที่เห็นเธอเสร็จอย่างแรงขนาดนี้ แต่เธอเหนื่อยเกินกว่าจะรู้สึกเขินอายแล้ว
“ไม่รู้สิ…” เสียงหวานตอบพลางเบือนหน้าหนี
ปวริทยิ้มบาง ก้มจูบขมับชุ่มเหงื่อของพี่สาวคนสวยอย่างเอ็นดู
“ผมรู้ว่าคุณชอบแน่ ๆ กดหัวผมแน่นซะขนาดนั้น”