วันต่อมา...
พรึ่บ!
"พี่รำไพฉันว่าพี่ลองไปสัมภาษณ์งานดูไหม?" รำไพลงมาจากห้องนอนก็เจอน้องสาวที่ชื่อบัวผันพูดกับเธอพอดี
"สัมภาษณ์อะไรฉันไม่ได้ไปสมัครอะไรไว้สักหน่อยเพราะงั้นฉันไม่มีงานอะไรให้ไปสัมภาษณ์หรอกนะ" รำไพตอบกลับน้องสาวเพราะว่าเธอไม่คิดจะสมัครเลยด้วยซ้ำและเธอก็กำลังหาเช่าพื้นที่ถูก ๆ เพื่อทำสำนักดูดวงของเธออยู่ด้วยไม่มีเวลาไปสัมภาษณ์งานที่ไหนหรอก
"คือว่าที่บริษัทฉันน่ะต้องการรับพนักงานอยู่น่ะ ฉันเลยแนะนำพี่ไปลองไปดูนะ" บัวผันบอกหลังจากเธอเรียนจบแล้วเธอก็สมัครเข้าทำงานที่บริษัทใหญ่เป็นนักบัญชีเงินเดือนดีเลยละ
"ฉันเรียนจบดาราศาสตร์มานะจะไปทำหน้าที่อะไรในบริษัทแกฮะบัว?"
"ก็รู้...แต่ว่าหัวหน้าของบัวน่ะเขาฝากให้ได้เป็นตำแหน่งทำงานง่าย ๆ ลองทำดูก็ไม่เสียหายอะไรนิด ฉันรู้นะว่าพี่กำลังหาที่ทำสำนักหมอดูอะ" เพราะว่าเธอเห็นโทรศัพท์ของของรำไพที่วางเอาเลยรู้ว่าเธอกำลังหาที่เช่าอยู่
"แล้วยังไง?"
"พี่ก็ควรมีเงินก่อนไหมละลองทำงานเก็บเงินสักสองสามเดือนแล้วก็ไปหาห้องถูก ๆ เช่า ถ้าไปได้ดีก็ทำทั้งสองงานไปเลยตำแหน่งที่ว่างอยู่น่ะงานมันน้อย ลองไปเถอะนะพี่อย่างน้อยก็ให้แม่สบายใจ" บัวผัวพยายามเกลี้ยงกล่อมสุดฤทธิ์ในบ้านหลังนี้ถ้าไม่มีบัวผัน รำไพกับดวงใจคงจะแตกหักและก็ตัดขาดความเป็นแม่ลูกกันไปแล้วแน่นอน
"ถ้ามันไม่อยากทำอยากไปก็ไม่ต้องบังคับมันบัวคนอย่างมัน! ดื้อด้านจะตาย!!" ดวงใจเดินเข้ามาได้ยินสิ่งที่ลูกสาวคนเล็กพูดกับรำไพก็อดจะแซะและต่อว่ารำไพไม่ได้
"เออ ๆ ไปก็ได้วันไหนอะ" สุดท้ายรำไพก็ยอมไป
"เย่!! วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายที่บริษัทของฉันนะไปให้ตรงเวลาด้วยละ" พอบัวผันได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจมากที่พี่สาวเธอออกไปทำงานสักทีเธอเองก็เบื่อเวลาแม่และพี่ทะเลาะกันจะแย่แล้ว
"เตรียมเอกสารอะไรบ้างก็บอกมาแล้วกัน พี่จะได้เตรียมตัว" รำไพบอกกับน้องสาว
"จ้าาาาา"
ร้านของชำ
"ป้ามดไอติมอันนึงนะ" พอช่วงบ่ายรำไพก็ออกมาเดินเล่นแถวบ้านเพราะว่าอยู่บ้านไปก็ไม่มีอะไรทำลูกค้าเธอก็ไม่มีเพราะว่าแม่เธอไล่ไปหมดแล้ว ที่จริงถ้าแม่เธอเข้าสักนิดและยอมให้เธอเป็นหมอดูป่านนี้เธออาจจะเป็นหมอดูที่มีชื่อเสียงแล้วก็ได้ เธอพยายามทำออนไลน์แล้วนะแต่ว่าก็ไม่ประสบความเร็จคนดัง ๆ เอาไปกินหมด คนเริ่มต้นใหม่อย่างเธอก็เลยต้องตกต่ำอย่างนี้ไง
"20 บาทจ้า"
"นี่จ๊ะป้า" รำไพเอาเงินให้ป้ามดแม่ค้าร้านชำ
"ขอบใจ ๆ เออนี่เรียนจบมาตั้งนานแล้วทำไมไม่ไปหางานสักทีละ?" ป้ามดถามรำไพซึ่งเธอก็แอบรำคาญนิดหน่อย
"ก็กำลังจะไปสัมภาษณ์พรุ่งนี้แล้ว บริษัทของบัวผันมันนั่นแหละ" รำไพบอกและกินไอศครีมไปด้วยเพื่อดับความใจร้อนหัวร้อนของเธอ
"อ่อออ~ ให้น้องสาวฝากให้ละสิทำไมไม่รู้หาเองละฮะเป็นพี่สาวแท้ ๆ น่าจะเป็นที่พึ่ง"
"ก็ไม่ได้อยากทำนิ"
"หมอดูมันจะไปพอกินอะไรหากินกับความเชื่อของคนมันอยู่ได้ไม่ได้หรอกนะรำไพเอ๊ยยย"
"ก็คอยดูแล้วกันฉันจะเป็นหมอดูที่เก่งที่สุดในโลก"
"ก่อนจะเป็นหมอดูที่เก่งที่สุดในโลกช่วยอยู่ในโลกแห่งความจริงหน่อยได้ไหม?" เสียงของผู้ชายดังขึ้นจากข้างหลังของรำไพ
"ไอ้จอม" และเมื่อหันไปก็พบว่าเป็นจอมทัพเพื่อนตั้งแต่อนุบาลของรำไพ
"นี่ป้าค่าไอติม...ฉันไม่ได้จะดูถูกแกนะเว้ย! แต่ว่าถ้าแกจะดังคงดังไปนานแล้วแกไม่ได้มาเป็นนักทำนายแค่สองสามวันนี้นะแต่แกเป็นตั้งแต่มหาลัยแล้วทำมานานขนาดนี้ยังไม่มีใครรู้จักแกก็ต้องทำใจแล้วละว่าแกไม่ใช่ทางนี้จริง ๆ"
"หุบปาก" รำไพเริ่มหงุดหงิดเพราะใคร ๆ ก็ต่างดูถูกเธอ
"ไม่หุบเว้ย!! ฉันจะพูดให้แกตาสว่างว่าแกไม่มีทางเป็นหมอดูชื่อดังได้หรอก เลิกดูดวงและไปหางานทำได้แล้ว!!" จอมทัพพูดเสียงดัง
"เหอะ! อย่างกับตัวเองดีนักแหละ...ดวงแกอีกไม่นานจะตกลงบริษัทที่แกทำจะล้มละลาย" รำไพชอบดูดวงเพราะงั้นเธอเลยเช็ดดวงของคนรอบตัวทั้งหมดเพื่อเป็นการฝึกซ้อมตัวเองในศาสตร์ต่าง ๆ
"ฮ่า ๆ ๆ ไอ้ไพรู้ป่ะว่าปีนี้บริษัทฉันทำกำไรเท่าไหร่?"
"..."
"สามร้อยล้านเว้ย!!"
"จริงเหรอแบบนี้บริษัทเอ็งก็รวยเละ เติบโตใหญเลยละสิ" ป้ามดก็ตาโตตามไปด้วย
"จริงสิป้าเพราะงั้นนะไอ้ไพบริษัทของฉันไม่มีทางล้มละลายได้หรอก แกอย่าเพ้อเจ้อให้มากนักเลยได้ยินแล้วมันขำวะ ฮ่า ๆ ๆ " จอมทัพหัวเราะเสียงดังลั่น
"ก็คอยดูได้เลยไม่เกินสามเดือนแกจะเป็นพนักงานที่โดนลอยแพ ไม่มีเงินเดือนสักบาทเดียว ส่วนป้าน่ะ...ระวังร้านให้ดีชอบเผาขยะระวังมันลามมาร้านละ" รำไพพูดจบก็เดินออกมาจากร้านของชำทันที
"อ้าววววเฮ้ยย!! นี่แกแช่งฉันเหรออออ?! รำไพ!!!" เสียงป้ามดโวยวายแต่รำไพก็ไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะเดินกลับบ้านทันที
วันต่อมา...
รถไฟฟ้า
"ท่านดยุกริโอเดินทางกลับ เมืองรายันหลังจากเสร็จศึก..."
"นี่พี่อ่านในใจได้ไหมมันเสียมารยาทนะ" ขณะที่รำไพกำลังเดินทางไปบริษัทของบัวผันเธอก็อ่านการ์ตูนไปด้วยแต่ว่าเธอดันอ่านออกเสียงและเสียงดังไปหน่อยจนทำให้ผู้ร่วมเดินทางคนอื่นรู้สึกรำคาญ
"ขอโทษค่ะ แหะ ๆ พอดีว่าศัพท์การ์ตูนมันอ่านยากไปหน่อย แหะ ๆ" รำไพได้แค่ยิ้มแห้งและขอโทษกลับไปก่อนจะอ่านการ์ตูนต่อซึ่งคราวนี้เธอไม่ได้อ่านออกเสียงอีกแล้ว
"อีกสามนาทีจะถึงสถานีหมอชิต ท่านผู้โดยสารที่ต้องการสถานีหมอชิตกรุณาเตรียมตัวให้พร้อมด้วยค่ะ"
ไม่ทางไม่นานรถไฟไฟฟ้าก็จอดที่สถานีที่เธอต้องลงแล้ว
"ใกล้ถึงแล้วสินะ เฮ้อออ" รำไพลุกขึ้นเตรียมลงเธอถอนหายใจนิดหน่อยเพราะว่าไม่ได้อยากไปเลยแถมยังไม่รู้ด้วยว่าเธอนั้นต้องทำงานตำแหน่งอะไรแต่ก็ลองไปดูก่อนเธออยากได้เงินไปเช่าห้องสักห้องเพื่อเปิดสำนักของตัวเอง
ครืนนนน~
ประตูรถไฟฟ้าเปิดออกรำไพกำสายกระเป๋าสะพายแน่นด้วยความตื่นเต้นและก้าวออกจากรถไฟฟ้ามุ่งหน้าไปที่บริษัทของบัวผันที่ไม่ได้ไกลจากที่นี่เท่าไหร่นักเธอสามารถเดินไปได้ไม่กี่นาที
บริษัทซัมตุง
"ที่นี่สินะ..." ไม่นานเท่าไหร่รำไพก็เดินมาถึงบริษัทแล้วเธอเงยหน้ามองตึกสูงเฉียดฟ้าเห็นแล้วเสียวไส้แปลก ๆ
"ถ้าตกลงมาจะเป็นยังไงนะตายหรือว่าพิการ?? " รำไพอดที่จะคิดไม่ได้จริง ๆ
"พี่รำไพยืนมองอะไรรีบเข้ามาสิหัวหน้าของบัวรออยู่นะ!" เสียงเรียกของบัวผันทำให้รำไพเลิกมองตึกและมาสนใจน้องสาวแทน
"อ่อเออ! ไปแล้ว ๆ" รำไพรีบวิ่งไปหาบัวผันที่เธอรออยู่
"ไม่ว่าตำแหน่งอะไรก็ทำ ๆ ไปก่อนนะพี่ดีกว่าอยู่บ้านให้แม่ด่า" บัวผันบอกกับรำไพขณะเดินเข้าบริษัท
"ก็ต้องดูก่อนไหมว่างานเหมาะกับฉันหรือเปล่า?"
"จะดูทำไมทำไปเลยเงินทั้งนั้นนะไหนว่าอยากได้ห้องเปิดสำนักไง"
"ก็ใช่ไง..."
"ไป ๆ เถอะเข้าไปในห้องนั้นแหละหัวหน้าบัวรออยู่" บัวผันดึงหลังของรำไพให้เข้าไปในห้องสัมภาษณ์
"เออ ๆ ๆ อย่าดันดิ!"
ห้องสัมภาษณ์
"ขะขอนุญาตค่ะ" รำไพเปิดประตูเข้ามาก็เจอคนสามคนกำลังนั่งอยู่ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าอย่างที่บัวผันบอกไว้
"สวัสดีครับเชิญนั่งก่อนครับ ทำตัวสบาย ๆ เลยไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น" ผู้ชายนั่งตรงกลางพูดอย่างสุภาพ
"ขอบคุณค่ะ" ครืน! รำไพเลื่อนเก้าอี้และนั่งลงด้วยความตื่นเต้นเธอไม่เคยสัมภาษณ์งานที่ไหนเลย ส่งไปสมัครไปก็ไม่มีใครเรียกหรือเรียกแต่เธอก็ไม่ได้ไปเพราะว่าอยากเป็นนักทำนายมากกว่าเธอเลยไม่มีประสบการณ์เรื่องการสัมภาษณ์งานเท่าไหร่
"เป็นพี่สาวของคุณบัวผันใช่ไหมครับ?" ผู้ชายด้านขวามือถามขึ้นมาส่วนด้านซ้ายเป็นผู้หญิง
"ค่ะ ชื่อรำไพค่ะอายุ 26 ค่ะ เรียนจบดาราศา.."
"ไม่ต้องแนะนำรายละเอียดอะไรแบบนั้นก็ได้ค่ะเพราะงานของคุณไม่ได้ต้องใช้วุฒิอะไรขนานดนั้น แค่มีแรงและไม่ขี้เกียจก็พอค่ะ" ผู้หญิงด้านซ้ายพูดขึ้น
"งานอะไรเหรอคะ?" รำไพถามออกไปอย่างไม่รู้อย่างน้อยทำงานบริษัทก็ควรจะทราบประวัติการศึกษาการทำงานหน่อยไหม?
"ผมแปลกใจมากเลยนะครับเนี่ยที่คนอายุน้อยอย่างคุณรำไพสนใจมาทำงานเป็นแม่บ้านของเราที่นี่ ทำไมไม่ลองไปสมัครงานที่ตรงกับสายที่เรียนละครับ??"
"มะแม่บ้านเหรอคะ?" รำไพถามกลับไปอย่างไม่แน่ใจ....