นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เขาให้ลูกน้องคนสนิทสืบเสาะหาประวัติของคนที่ชื่อรดา แม้จะไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับตัวเธอ นั่นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา เพราะไม่เกินสองวันข้อมูลของ รดา กุญวิชัย ก็มาอยู่ในมือของเขา และเป็นเหตุผลที่เขาเดินทางมาที่นี่ พร้อมกับแผนการบางอย่าง ที่จะทำให้รดาไม่มีโอกาสทำให้น้องสาวทั้งสองของเขาเสียใจและร้องไห้ได้อีก เขามาดูให้เห็นกับตาว่าผู้หญิงที่ชื่อรดา มีดีอะไร ทำไมยุทธการจึงปักใจรัก ไม่สนใจปาริฉัตรเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฉันสาบาน...เธอต้องเจ็บปวดกว่าน้องสาวของฉัน”
อัคคีพูดเสียงเครียด กรอกน้ำสีอำพันหายเข้าในปากจนหมด ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 192 เซนติเมตร หยิบช่อดอกไม้ช่อใหญ่ที่เตรียมไว้ขึ้นมา เมื่อเห็นร่างของหญิงสาวที่เขารอคอยนานสามชั่วโมง เดินออกมาจากประตูด้านหลังของผับชั้นสอง เพื่อดำเนินแผนของเขาทันที
ช่อดอกลิลลี่ช่อใหญ่ถูกยื่นอยู่ตรงหน้ารดา หญิงสาวอึ้งและถอยหลังไปสองสามก้าว เพราะชายเจ้าของดอกไม้เข้ามาประชิดตัวเธอในระยะใกล้
“ดอกไม้สำหรับรดา เจ้าของเมอร์รี่ผับแสนสวยครับ”
อัคคีสวมหน้ากากของผู้ชายที่แสนดี และโปรยคำพูดหวานหูให้หญิงสาวได้รับฟัง รดานิ่งอึ้งไปสักครู่ เงยหน้ามองชายร่างสูงที่ยืนเด่นตระหง่าน ราวกับเป็นต้นไม้ใหญ่บังแดดบังฝนให้เธอ ทันทีที่ดวงตาคู่หวานปะทะกับดวงตาคมกริบสีนิลของอัคคี หัวใจของเธอเต้นแรงแทบจะกระดอนออกมาจากร่าง เลือดในกายหมุนเวียนสูบฉีดเร็วแรง ใบหน้าของเขาแม้มองในที่สลัว หากแต่ความหล่อเหลาราวกับเทพบุตร หาได้ลดน้อยถอยลงไปเลย ดวงตาสีนิลของชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ จมูกโด่งเป็นสันรับกับเรียวปากหนาได้รูปสวยงาม รดามีความรู้สึกว่าเคยเห็นดวงตาคู่นี้ ลักษณะและเรือนร่างอย่างนี้มาก่อน แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ช่างเหมือนกับชายที่เธอมอบหัวใจให้เมื่อสิบสองปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยน แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาคนนั้นเกลียดเธอมากมายนัก สิ่งที่เธอรับรู้ได้คือดวงตาคู่นี้ทำให้เธอละลายได้เมื่ออยู่ใกล้ รุ่มร้อนเมื่อได้สบตา
เช่นเดียวกับอัคคี ผู้หญิงคนนี้สวยมาก ใบหน้าของเธอหวานสวยยิ่งมองยิ่งหลงใหล ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีทั้งความหมองเศร้าและอ่อนหวานในคราเดียวกัน จมูกโด่งรั้น กลีบปากบางของเธอนั้นเล่าที่ทำให้เขาอยากทาบเรียวปากหนาให้แนบสนิท สอดแทรกเรียวลิ้นที่อุ่นร้อนเข้าพัวพัน ท้าพิสูจน์ว่ากลีบปากบางนี้หอมหวานมากเพียงใด จะเหมือนกับภายนอกที่เร่าร้อนหรือไม่ ร่างกายสาวที่อวดสรีระที่เปิดเผยด้วยแล้ว มันทำให้อารมณ์ดิบของเขาค่อยๆ ลามเลียไปทั่วร่างกาย จนอยากจะจับเธอมาสนองความเร่าร้อนของเขาเดี๋ยวนี้
“ขอบคุณค่ะ” รดารับช่อดอกไม้อย่างไม่ค่อยรู้สึกตัว เหมือนคนละเมอ ชายหนุ่มจึงดึงสติที่จินตนาการไปว่า ขณะนี้เธอกำลังอยู่ใต้เรือนร่างที่แข็งแกร่งของเขาอยู่ คงมีสักวันที่เขาต้องทำได้จริงๆ อีกไม่นาน อัคคีมั่นใจ
“ผมมาที่นี่ได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว แอบมองคุณอยู่ทุกวัน ไม่ทราบว่าให้เกียรตินั่งคุยกับผมได้หรือเปล่าครับ” อัคคีรุกทันที เพื่อไม่ให้หญิงสาวตั้งตัว เพื่อแผนลวงของเขาจะได้สำเร็จเร็วๆ
“เอ่อ...คือว่า” รดาอึกอัก เพราะเธอไม่เคยนั่งคุยกับลูกค้าตามลำพัง เพราะแต่ละครั้งที่คุยจะมีเบิ้มและอู๊ดอยู่ด้วย
“นะครับ ได้โปรด...เห็นแก่ผม เห็นแก่ความรักที่ผมมอบให้คุณ”
คำอ้อนวอนที่หวานหู ทำให้ใบหน้างามตะลึงงัน เมื่อได้ยินคำบอกรักของชายแปลกหน้า รัก เขารักเราหรือ เป็นไปได้ยังไง คนเราเจอกันแค่อาทิตย์เดียวจะรักกันได้เร็วขนาดนี้เลยหรือ เป็นไปไม่ได้ รดาแย้งอยู่ในใจ
“รดาอาจจะจำผมไม่ได้ เมื่อสิบสองปีก่อนเราเคยเจอกันแล้วไงครับ” เสียงของเขายังคงนุ่มหูชวนฟังให้เคลิบเคลิ้มยิ่งนัก
“เคยเจอกันมาก่อน” เธอทวนคำอย่างไม่อยากเชื่อ
“เราเคยเจอกันที่ไร่อัคคีไง...ตอนนั้นผมทำไม่ดีไว้กับรดาหลายอย่าง ทั้งแย่งชิงของรักของหวงของรดา ไล่รดาออกไปจากไร่อย่างไม่ใยดี รดาจำผู้ชายเลวๆ คนนั้นได้ไหม แต่ผู้ชายคนนั้นในเวลานี้หลงรักรดาตั้งแต่ตอนนั้นอย่างไม่รู้ตัว พอผมไปเรียนต่อที่เมืองนอกกลับมาที่ไร่อัคคีอีกครั้ง ยายจีนก็เสียชีวิต ส่วนรดาได้หายออกไปจากชีวิตของผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
รดาอ้าปากค้าง เมื่อได้ยินคำพูดของเขา นี่น่ะหรือคืออัคคี ชายหนุ่มที่เธอจำได้ไม่มีวันลืม เขาตอนนั้นทั้งโหดร้ายย่ำยีหัวใจของเธอ ขโมยของรักของหวงไปต่อหน้าต่อตา ไล่เธออย่างกับหมูกับหมา แต่น่าแปลกเธอไม่เคยคิดโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามรู้สึกหวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดเขา อย่างเช่นตอนนี้
“คุณคือคุณอัคคี เจ้าของไร่อัคคีที่อยู่เชียงรายหรือคะ” รดาถามด้วยความไม่แน่ใจ เพราะร่างกายและใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาก ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลากว่าแต่ก่อน เรือนร่างของเขาดูแข็งแรง กำยำสูงใหญ่ ภาพที่รดาจดจำได้คือภาพวินาทีสุดท้ายที่ได้เห็นเขา ซึ่งมันแตกต่างกับภาพที่เห็นตรงหน้านี้ เวลานี้มาก
“ใช่ครับ...ผมอัคคี เนติรัตน์พิบูล ชายหนุ่มที่มอบหัวใจให้รดา กุญวิชัย จนหมดหัวใจ”
อัคคีร่ายคำลวงให้หญิงสาวที่อ่อนต่อโลกในความเป็นจริง เธอไม่รู้สึกตัวว่าตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงขนาดไหน มันแรงเสียจนคนที่ยืนอยู่ใกล้แทบจะได้ยิน เขาลอบยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าที่ตื่นตระหนกของหญิงสาว ใบหน้างามแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้าของเมอร์รี่ผับและแม่เล้าแห่งนี้ จะเขินอายกับคำบอกรักของผู้ชาย ราวกับว่าไม่เคยใกล้ชิดกับชายใดมาก่อน ทั้งที่ในความเป็นจริงผ่านมาแล้วนับไม่ถ้วน
“เอ่อ...มันไม่เร็วเกินไปสำหรับคำว่ารักเหรอคะ” รดาถามด้วยความฉงน
“สิบสองปีกับความรักและการรอคอย มันไม่เร็วเกินไปหรอกครับ แต่มันช้าสำหรับผมด้วยซ้ำไป”
อัคคีโปรยคำหวานและคำลวงออกไปอีกครั้ง ใจจริงเขาอยากจะกระชากร่างของผู้หญิงที่เป็นสาเหตุให้น้องสาวต้องเสียใจ มาฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ ให้สาสมกับหยาดน้ำตาและความเสียใจของปาริฉัตร ใบหน้าหวานสวยเริ่มซับสีเลือด มือบางกำช่อดอกไม้ไว้แน่น บดบังท่าที เขินอาย แต่หาได้หลุดพ้นจากดวงตาแห่งไฟนี้ไปได้ จริงหรือนี่เขาแอบรักเราตั้งแต่สิบสองปีก่อนจริงเหรอ เป็นไปได้ยังไง ผู้หญิงไร้ค่า ไร้ราคา ในสายตาของคนอื่น จะมีคนมาสารภาพรักจริงๆ หรือ เราจะทำยังไงดี จะทำยังไงดี รดาเฝ้าย้ำถามตัวเอง เพราะเธอไม่เคยตัดสินใจอะไรเองสักอย่าง ทุกครั้งคนที่ตัดสินใจแทนเธอคือลดาลักษณ์ ส่วนเธอมีหน้าที่ทำตามเท่านั้น
“ว่ายังไงครับ...รดายอมรับไมตรีจากผมได้หรือเปล่าครับ”