ดวงตะวันลาลับขอบฟ้า ความมืดเริ่มโรยตัวมาอย่างเงียบๆ แสงสีของเมืองหลวงเริ่มเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ไม่ต่างกับแสงไฟระยิบระยับที่ประดับประดาอยู่ที่ป้ายชื่อ เมอร์รี่ผับ สว่างไสวเป็นจุดเด่นริมถนน เวลาสามทุ่มครึ่งคือเวลาที่อัคคีเลือกจะปฏิบัติการพิเศษที่วางไว้ เขาเดินทางมาที่นี่พร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่เช่นทุกวัน หากแต่วันนี้พิเศษหน่อย ที่เขาพกความหายนะมาฝากผู้หญิงที่ชื่อรดาด้วย
คราแรกเขาตั้งใจแค่สั่งสอน แต่เมื่อปาริฉัตรน้องสาวคนรอง โทรฯ มาคร่ำครวญเรื่องยุทธการที่ไม่ยอมรับสายน้องสาวของเขา อัคคีจึงเป็นฝ่ายโทรฯ ไปหาเพื่อนสนิทของเขาแทน แต่ปลายสายที่รับหาใช่ยุทธการไม่
“พี่ต้อมหักโหมมากไปหน่อย...ตอนนี้หลับอยู่ค่ะ...มีอะไรฝากบอกกับรดาได้นะคะ พี่ต้อมตื่นรดาจะบอกให้”
คำพูดสองแง่สองง่ามของปลายสาย ทำให้อัคคีโกรธจนตัวสั่น ไม่คิดว่าเพื่อนรักของเขาจะหลงของเสียอย่างรดามากกว่าเพชรเม็ดงามอย่างปาริฉัตรน้องสาวของเขา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจจะทำที่นี่ให้ย่อยยับไปกับมือ เพื่อแก้แค้นให้น้องสาว และให้รดาได้รู้ซึ้งถึงคำว่าเสียใจ โดยไม่ทันได้ตรึกตรองดูว่าน้ำเสียงของรดาที่อยู่กับยุทธการ และน้ำเสียงของรดาที่เขามาหาทุกคืน แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“เอาขนาดนี้เลยหรือครับนาย” เดียวเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ หลังจากได้รับคำสั่งโดยตรงจากอัคคี
“ใช่...ทำได้หรือเปล่า” เขาถามเสียงเรียบ ดวงตามุ่งมั่นแน่วแน่
“ได้ครับ...พวกผมทำได้ ขอเพียงนายสั่งมาคำเดียว”
เดียวตอบอย่างมั่นใจ ว่าเขาและพรรคพวกสามารถทำงานนี้ได้อย่างราบรื่นและต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
“รอดูสัญญาณจากฉัน”
อัคคีกำชับเดียวอีกครั้ง ก้าวลงจากรถยนต์คันหรู เพื่อดำเนินแผนของเขาทันที
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในเมอร์รี่ผับพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เขามุ่งตรงไปที่ชั้นสองทันทีที่ก้าวออกจากลิฟต์ สายตาคมกริบมองเห็นร่างบางของรดาที่ยืนหันหลังให้กับเขา กำลังพูดคุยอยู่กับเบิ้มชายหนุ่มร่างใหญ่ ที่เขาไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรกเห็น เธอสวมใส่ชุดราตรีสีฟ้าอ่อนอวดสรีระที่สวยงามทุกสัดส่วนอย่างชัดเจน เขาอดใจสั่นไม่ได้ เมื่อเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่า ทางด้านหลัง ยิ่งเดินเข้าใกล้ยิ่งใจเต้นรัว ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดและเห็นสรีระดุจ นาฬิกาทรายนี้
“ดอกไม้มอบให้คนสวยของผมครับ”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยเรียกรอยยิ้มให้กับหญิงสาวเต็มใบหน้า ก่อนจะหมุนตัวอย่างเชื่องช้ามาทางต้นเสียงอยู่ด้านหลัง และนั่นเองที่ทำให้อัคคีถึงกับตะลึงงัน วันนี้เธอแต่งหน้าด้วยโทนสีอ่อน ดูเป็นธรรมชาติแต่สวยสดกว่าทุกวัน รอยยิ้มที่ระบายเต็มใบหน้า ส่งให้ดวงหน้าของเธอสวยยิ่งขึ้น และเต็มไปด้วยเสน่ห์ มิน่าผู้ชายหลายคนถึงหลงรักและหลงใหลในตัวเธอ แต่ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน ชุดราตรีสายเดี่ยวด้านหน้าทำให้เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ทรวงอกที่อวบใหญ่โผล่ล้นออกมา เขาสามารถรับรู้ได้เลยว่าวันนี้เธอโนบรา
“ขอบคุณค่ะ...คุณคีย์” หญิงสาวรับช่อดอกไม้ช่อสวยจากมือของชายหนุ่ม โปรยยิ้มให้เขาได้เห็นอีกครั้ง
“คราวหลังไม่ต้องลำบากเสียเงินซื้อดอกไม้ให้รดาทุกวันนะคะ สิ้นเปลืองเปล่าๆ”
“สำหรับผม ทุกอย่างที่ทำให้รดาไม่มีคำว่าลำบากเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามผมเต็มใจที่จะทำให้รดาทุกอย่าง ไม่เคยคิดว่าดอกไม้แต่ละช่อของผมคือการสิ้นเปลือง เพราะผมยินดีและเต็มใจที่จะซื้อให้คนที่ผมรักครับ”
ถ้อยคำหวานหูของอัคคีทำให้เบิ้มที่ยืนอยู่ข้างๆ รดาทำหน้าเหมือนจะอาเจียนออกมา โดยไม่สนใจสีหน้าที่ค่อนข้างบึ้งตึงของผู้พูด ที่มองมาที่เบิ้มพอดี ส่วนรดาอายม้วนกับคำพูดที่ไม่เคยมีชายใดเคยเอื้อนเอ่ยกับเธอ และเป็นชายเดียวที่เธอมอบหัวใจรักให้
“รดาพี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ จะอ้วก”
เบิ้มปรายตามองอัคคีเพียงนิด ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำตามที่ได้บอกกับรดาไว้
“เชิญที่โต๊ะดีกว่าค่ะ”
รดาเชื้อเชิญอัคคี เดินนำไปที่โต๊ะประจำของเขาตรงมุมห้องที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการมานั่งฟังเพลง ผ่อนคลายความตึงเครียดจากงานมาตลอดทั้งวัน
“นั่งกับผมได้หรือเปล่าครับ”
ชายหนุ่มจับข้อมือบางออกแรงกระตุกโดยไม่รอคำตอบ ทำให้รดาที่ไม่ทันตั้งตัวเซถลาไปนั่งที่ตักกว้างของชายหนุ่ม อัคคีได้ทีโอบกอดร่างบางไว้ในวงแขนแข็งแรง หญิงสาวหันไปมองเจ้าของตัก ดวงตาสวยตื่นตระหนกระคนเขินอาย หลบหลีกสายตาคมแกร่งที่มองมาที่เธอเป็นพัลวัน มือหนาจับแก้มนวลเบาๆ บังคับให้ดวงหน้าเนียนสวยหันมาทางเขา จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้น ลมหายใจที่รินรดอยู่ปลายจมูกของอีกฝ่าย ความหอมจากกลิ่นกายสาวที่ทำให้อัคคีร้อนๆ หนาวๆ จนเขาอยากจะสัมผัสผิวเนื้อตามร่างกายของเธอด้วยปลายจมูกและริมฝีปาก เขาโน้มใบหน้าเข้าใกล้หญิงสาว ดั่งอยู่ในมนต์สะกดของนางปิศาจร้ายพราวเสน่ห์ตนนี้
อีกเพียงหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น ที่เรียวปากหนาจะได้สัมผัสเรียวปากนุ่มของรดา หากแต่เสียงที่ก้องดังไปทั่วทั้งผับ ทำให้หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดของอัคคีทันที ก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังสนั่นอยู่ชั้นล่าง อัคคีเองตกใจเล็กน้อย เพราะเขายังไม่ทันส่งสัญญาณให้กับเดียว ที่แฝงตัวเป็นนักท่องราตรี ที่นั่งห่างจากโต๊ะที่เขานั่งอยู่เพียงสองโต๊ะเท่านั้น แล้วเหตุการณ์ข้างล่างเป็นฝีมือของใคร
“เกิดอะไรขึ้นพี่เบิ้ม”
น้ำเสียงของรดาร้อนรนแฝงไว้ซึ่งความหวาดกลัว
“ระเบิด เกิดระเบิดด้านล่าง พวกไอ้เสี่ยยลมันพาพวกมาถล่มที่นี่ สงสัยจะมาล้างแค้นเจ๊ส้ม”
เบิ้มตอบที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมด เสี่ยยลคือหนึ่งในชายหลายคนที่ลดาลักษณ์ หลอกล่อให้มาติดกับ ปอกลอกเสี่ยยลจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ลดาลักษณ์จะสลัดทิ้งอย่างไม่ใยดี
“แล้ว...แล้วจะทำยังไงดี ส้มไม่อยู่ด้วย”
รดาเนื้อตัวสั่นหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในผับ เธอไม่ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ ลดาลักษณ์ไม่ได้สอนเธอไว้ ทุกครั้งที่เกิดเรื่องลดาลักษณ์เจ้าของผับตัวจริง จะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ส่วนเธอมีหน้าที่เป็นแม่เล้าในนามเท่านั้น ลำแขนหนาของเบิ้มโอบที่บ่าเนียนสวยอย่างปลอบโยน และนั่นทำให้ดวงตาดุจเปลวเพลิงของอัคคี มองมาด้วยความไม่พอใจ