บทที่2(((ลูกชัง...อีกแล้ว)))

2134 คำ
อดทนทุกข์ทรมานกว่า7วัน นางก็ค่อยเริ่มดีขึ้นวันที่8กัญญากรหรือยามนี้ต้องยอมรับตนเองให้ได้ว่าบัดนี้ตนเองคือมู่หรงเจินจูคุณหนูใหญ่แห่งจวนมู่หรงก็สามารถลุกออกมาเดินสำรวจโดยรอบบริเวณ"บ้าน"หลังขนาดกลางค่อนไปทางเล็ก แถมยังโย้เย้จนนางอดจะหวาดเสียวเสียมิได้ว่าหากโดนลมพัดแรงสักหน่อยมันอาจจะถล่มพับมาทับหัวและตัวของนางและอีก3ชีวิตผู้ร่วมชะตากรรม (เวร) รันทดนี้เข้าเสียเป็นแน่ "คุณหนูลุกไหวแล้วหรือเจ้าค่ะ" โจวหลิงฟางที่กำลังสับเศษผักเพื่อเลี้ยงไก่กับเป็ด4ตัวหันมาเห็นนายน้อยของตนเข้าก็วางมือแล้วหันมาทั้งตัวยามที่สายตานางเหลือบมาพบเห็นเข้ากับคุณหนูตัวน้อยของตนมายืนอยู่ด้านข้าง "น้า...หลิง...ฟาง..." นางเอ่ยช้าๆ เพราะปกติแล้วแต่เดิมนั้นไม่เคยพูดมาก่อน วันนั้นจางเสี่ยวถิงจึงกรีดร้องยินดีมากมายก็เพราะคุณหนูใบ้ของนางพูดได้เสียที หากแต่พูดได้แต่ก็ยังต้องบังคับตนเองให้พูดจาปกติเช่นผู้อื่นทั่วไปไม่ได้นางจึงพูดได้ทีละคำช้าๆ จากนั้นคนตัวเล็กทรุดลงนั่งอย่างไม่มากพิธีต่อให้จะเป็นมู่หรงเจินจูหรือกัญญากรนางก็คุ้นชินกับชีวิตเรียบง่ายของชาวชนบท เช่นนั้นเรื่องรังเกียจกลิ่นขี้เป็ดขี้ไก่นางจึงไม่มี "คุณหนูนั่งเฉยๆ เถิดเจ้าค่ะไข้เพิ่งจะดีขึ้น อย่างเร่งออกแรงเลยประเดี๋ยวไข้จะคืนกลับเอาได้นะเจ้าค่ะ" ถึงจะถูกห้ามแต่คนที่ไม่ชอบหยุดนิ่งนางก็ยังช่วยหยิบจับนั่นนี้เงียบๆ สายตาของนางก็มองสำรวจไปโดยรอบกายว่าสถานที่แห่งนี้นางจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในนามของมู่หรงเจินจูคุณหนูใหญ่ผู้ไร้ตัวตนต่อไปเช่นไร เพราะเห็นทีความสุขสบายนั้นคงยากจะมีเสียแล้ว "เจินเอ๋อร์..." จนตะวันเริ่มเข้าบ่ายคล้อยก็มีบุรุษร่างกายสูงใหญ่ในอาภรณ์งดงามหรูหราปรากฏกายขึ้นมองเห็นแล้วมู่หรงเจินจูก็ให้รู้สึกที่ความแตกต่างเห็นได้อย่างชัดเจน "นายท่าน..." ใช่แล้วบุรุษผู้องอาจมากมีสง่าราศีตรงหน้านางในยามนี้คือมู่หรงเยี่ยนอัครมหาเสนาบดีวัย39หนาวบิดาแท้ๆ ของกายใหม่หมาดนี้มิผิดไปและเขาคือ"นายท่าน"ของจวนนี้นั่นเอง "ไยจึงให้คุณหนูใหญ่ออกมานั่งตากลมเช่นนี้หลิงฟาง นางหายไข้แล้วหรือ" ใบหน้าสงบนิ่งของบุรุษที่ขึ้นชื่อว่า"พ่อ"ยามนี้เด็กสาวมิอาจคาดเดาได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ใดมิพึงใจ...โกรธเคือง...หรือว่าไม่รู้สึกอันใดเลย เพราะมันเรียบนิ่งแสนจะเย็นชา ทั้งที่ใบหน้าคมสันนั้นยังหล่อเหล่าดังคนเพิ่งเข้าวัยต้น20หนาวเท่านั้น "เจินเอ๋อร์เกิดเรื่องไยพวกเจ้าจึงนิ่งเฉยมิรายงานข้า" อ้อ...เขาไม่พอใจอยู่นั่นเอง นางเรียกความทรงจำเดิมที่เคยมีของร่างกายนี้ว่าปกติมู่หรงเจินจูกับมู่หรงเยี่ยนนั้นความสัมพันบิดาและบุตรนั้นแท้จริงดีหรือร้าย "ทะ..." นางเตรียมขยับริมฝีปากทว่าน้าหลิงฟางของนางเร่งกุมมือผอมเกร็งกำแน่นส่งสัญญาณว่าไม่ให้นางพูดอันใดออกไป "ขออภัยเจ้าค่ะนายท่าน บ่าวทราบเพียงนายท่านไปเมืองเสิ่นหยางแล้วอาจจะเลยไปยังหนานซานแต่มิทราบว่านายท่านจะกลับเมื่อใดจึงมิบังอาจรบกวนส่งข่าวเจ้าค่ะ" ดวงตาที่สงบนิ่งคล้ายมีเปลวเพลิงจุดติดขึ้นมาทันทีได้เห็นแล้วเด็กสาวหนึ่งเดียวก็เริ่มหายใจลำบาก เพราะทุกคำพูดน้าโจวหลิงฟางดูยำเกรงให้เกียรติต่อบิดาของนางหากแต่สายตานางมองออกชัดเจนว่าไม่! "เผื่อเจ้าจะหลงลืมไปโจวหลิงฟาง...เป็นข้าที่มีสิทธิ์ตัดสินใจหาใช่สาวใช้เช่นเจ้าว่าจะแจ้งเรื่องใดไม่แจ้งเรื่องใด หากคุณหนูใหญ่นางถึงแก่ชีวิตเจ้ารับโทษเอาไว้ผู้เดียวไหวหรือ" มู่หรงเจินจูมองผู้นั้นทีแล้วก็มองผู้นี้อีกที ลำบากใจอย่างยิ่งต่อบรรยากาศกดดันบีบคั้นคล้ายจะหายใจไม่ออกตรงหน้า นางขยับปากจะพูดน้าโจวหลิงฟางก็บีบมือนางแน่นบอกชัดว่าไม่ให้นางหลุดสิ่งใดออกไปทั้งสิ้น "หลิงฟางผิดแล้วเจ้าค่ะ...สมควรตายอย่างยิ่ง" เป็นท่านน้าหลิงฟางที่คุกเข่าโขกศีรษะลงกับพื้นเสียเอง ในยามนี้มู่หรงเจินจูนางอยากพูดอยากอธิบายทว่าท่านน้าโจวหลิงฟางกลับส่งสัญญาณมาเป็นระยะว่านางจะเป็นจะตายคุณหนูใหญ่ของนางก็อย่าได้พูดออกไปแม้เพียงครึ่งคำทีเดียว "เจินเอ๋อร์มากับท่านพ่อ" กายสูงใหญ่สะบัดแขนเสื้อแล้วจึงส่งมือแข็งแรงมาคว้าข้อมือเล็กของเด็กสาวกระตุกให้ลุกขึ้นเดินตามมู่หรงเจินจูหันมองใบหน้าท่านน้าหลิงฟางใบหน้าตื่นตกใจ เพราะค้นหาทุกซอกหลืบแห่งความทรงจำของกายนี้กลับไร้วี่แววพ่อลูกผูกพันแม้สักน้อย ส่วนนางนั้นก็ไม่คุ้นเคยกับบิดาในชาติภพเก่าแล้วเช่นนี้ต่อให้ใช้หัวใจของกายนี้ที่ดูท่าทีท่านอัครมหาเสนาบดีใหญ่กับบุตรสาวกลับไร้ความคุ้นเคยเลยสักนิด อาจเพราะส่วนใหญ่ในหนึ่งหนาวพบหน้ากับบิดานับนิ้วมือทั้ง10ก็ยังเหลือความผูกพันกันแต่กาลก่อนจึงมิมีเลยสักนิด "ท่านพ่อจะพาเจ้าไปพบท่านหมอโหว มิได้พาเจ้าไปลงทัณฑ์ใดอีก" เขานั้นถึงแทบไม่พบหน้าลูกน้อยเพราะยิ่งเติบโตดวงตาของบุตรสาวนั้นก็ยิ่งถอดแบบมารดาของนาง มู่หรงเยี่ยนที่ในชีวิตไม่เคยรักสตรีใดเท่ากับภรรยาเอก จึงเพียรหลบหน้าไม่อยากพบพานลูกสาวให้ความคิดถึงมันทบทวี แต่ความรักเขายังมีให้ลูกน้อยไม่เคยลดลง เมื่อคนสนิทรายงานว่าเพียงเขาพ้นประตูจวนภรรยารองกลับใช้โอกาสเขาไปต่างเมืองลงทัณฑ์สายเลือดหนึ่งเดียวตัวแทนภรรยารักผู้วายชนม์ อย่างหนัก เขาก็แทบจะหันรถม้าคืนกลับจวนหากไม่ติดที่ว่าการนั้นสำคัญต่อความมั่นคงของตระกูลมู่หรงชนิดชี้เป็นชี้ตายให้คนกว่า600ชีวิตในจวน กายเล็กไม่ได้ขัดขืนอีกเมื่อคนเป็นบิดาหันมากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง และนอกจากน้ำเสียงดวงตาคู่นั้นเด็กสาวก็เห็นความเจ็บช้ำชัดเจน ...เขากำลังรู้สึกผิดอยู่กระมัง... เดินตามแรงจับจูงไปใบหน้าเล็กที่ยังซูบเซียวก็หันกลับไปมองว่าโจวหลิงฟางว่าอีกฝ่ายติดตามตนเองมาหรือไม่ ก็ต่อให้บุรุษผู้นี้เป็นบิดาแท้ๆ แต่เหตุใดก็สุดรู้เด็กสาวกลับรู้สึกว่าบิดามิอาจปกป้องชีวิตน้อยๆ ของตนเองให้ปลอดภัยจากมารดาเลี้ยงไปได้เลย พอเห็นว่าทั้งโจวหลิงฟางและจางเสียวถิงต่างก็เร่งติดตามกายเล็กจึงระบายลมหายใจโล่งอกอย่างน้อยนางก็ไม่ต้องถูกนำไป"เชือด"เพียงเดียวดาย "คุณหนูจงจำไว้จะให้เป็นตายอย่างไรก็อย่างแสดงให้ทุกคนในจวนใหญ่รู้เด็ดขาดว่าคุณหนูพูดได้แล้วนะเจ้าค่ะ" ช่วงหนึ่งที่บิดานางละสายตาจางเสี่ยวถิงนางก็เร่งเข้ามากระซิบบอกน้ำเสียงจริงจังไม่มีแววล้อเล่น มู่หรงเจินจูหันไปมองถึงโจวหลิงฟางก็เห็นฝ่ายนั้นส่งสัญญาณมาสำทับอีกครั้ง ต่อให้สงสัยนางก็จะเก็บเอากลับไปสอบถามกันภายหลัง เพราะสถานที่เช่นนี้ครอบครัวใหญ่เช่นนี้นางไม่อาจรู้ได้เลยว่าผู้ใดเป็นมิตรและผู้ใดจริงใจ กับในบ้านที่ต้องอยู่ร่วมกับมารดาเลี้ยงที่ดูก็รู้ว่าหากฆ่านางได้ก็คงไม่รั้งรอที่จะฆ่า "เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอโหวลูกสาวของข้าบาดแผลสมานดีแล้วหรือไม่" การโดนโบยด้วยไม้จำนวน20ไม้ต่อให้เป็นบ่าวชายก็ยังย่ำแย่เช่นนี้บุตรสาวของเขานางตัวเล็กถึงเพียงนี้ไม่สิ้นชีพทันทีก็บุญเท่าใดแล้ว ต่อให้เขาอยากเอาโทษพี่เลี้ยงมู่หรงเจินจูที่ไม่เร่งขอความช่วยเหลือจากเขาแทบตายแต่ก็มิอาจทำได้ในจวนนี้ที่วางใจให้ปกป้องบุตรสาวผู้อาภัพได้ก็มีเพียง3คนพ่อแม่ลูกเหล่านี้เท่านั้น "เรียนใต้เท้ามู่หรงบาดแผลภายนอกนั้นดีแล้วขอรับ จะมีที่ยังย่ำแย่คงเป็นความช้ำภายใน ประเดี๋ยวข้าจะเขียนเทียบยาเอาไว้ให้ใต้เท้าก็แล้วกัน" ท่านหมอวัย54หนาวบอกแก่บุรุษรุ่นน้องน้อยใบหน้ายิ้มแย้มด้วยนิสัยเป็นคนมากสัมพันธ์มิเคร่งขรึมเช่นผู้เป็นอัครมหาเสนาบดีใหญ่ตรงหน้า "หลิงฟางประเดี๋ยวเจ้าไปเรือนครัวน้ำคำสั่งข้าเอาโสมกับรังนกไปตุ๋นให้คุณหนูใหญ่ดื่มบำรุงร่างกาย พ่อบ้านซางท่านเป็นธุระเรื่องนี้ให้ข้าด้วย" ดวงตาคล้ายแค้นเคืองถูกส่งไปให้โจวหลิงฟาง หากแต่พ่อบ้านวัย60หนาวก็มิได้พูดอันใดมากนอกจากสะบัดแขนเสื้อเดินนำ หน้าท่านน้าหลิงฟางของนางไป มู่หรงมองสำรวจโดยรอบเรือนใหญ่หลังนี้ที่ดูสงบเงียบอย่างยิ่งนับแต่นางเดินเข้ามานอกจากสาวใช้2คนกับท่านพ่อบ้านก็มีบุรุษแต่งกายสีทึบยื่นสงบนิ่งอยู่มุมห้องเหมือนปูนปั้นอยู่อีกผู้เพียงเท่านั้น จึงคาดเดาว่าวันนี้ทั้งมารดาเลี้ยงกับน้องสาวและน้องชายทั้ง3คงไม่อยู่เสียที่จวนกระมัง ส่วนท่านปู่และท่านย่าของกายนี้ความทรงจำเดิมนางบอกว่าพวกท่านนั้นอยู่ที่เรือนหมู่ด้านหน้าซึ่งห่างกันออกไปอีกเรือนถัดออกซึ่งกั้นกลางด้วยเรือนของภรรยาทั้งสามของบิดานางและ นอกจากท่านปู่ท่านย่าแล้ว ก็ยังมีเรือนของท่านอาทั้ง2ที่เป็นน้องชายของบิดานางซึ่งมิใช่มารดาเดียวกับมู่หรงเยี่ยน ก็นับว่ามิใช่เรื่องแปลกเพราะไม่ว่าจะเป็นเทียนหนิงหรือต้าฉู่บุรุษก็ล้วนตกแต่งภรรยาได้มากกว่า4 ที่จวนมู่หรงแห่งนี้ท่านปู่มีท่านย่า2คนบิดานางมีแม่รอง3คนจึงนับว่าน้อยแล้วส่วนท่านอาทั้งสองนั้นเป็นเพียงบุตรอนุจึงมิได้มีฐานะจะตกแต่งฮูหยินได้มากเช่นบุตรชายที่เกิดจากฮูหยินเอก หลังจากได้ทั้งยาและอาหารทั้งแห้งและสด เด็กสาวกับโจวหลิงฟางและจางเสี่ยวถิงก็ถูกส่งกลับมายังเรือนท้ายจวนอีกเช่นเดิม และเมื่อใดอยู่กันเพียงลำพังอีกครั้งเด็กสาวจึงไม่รอช้าที่สอบถามถึงสาเหตุที่พวกนางไม่ให้นางแสดงออกไปว่าพูดได้แล้ว "หากเรื่องที่คุณหนูพูดได้แล้วรู้ไปถึงหูนางมารเซียนเซียนย่อมไม่ใช่เรื่องดีเจ้าค่ะ" โจวหลิงฟางที่รู้ตื้นลึกหนาบางภายในจวนแห่งนี้ดีที่สุดอธิบาย "แต่...ท่านพ่อ..." มู่หรงเจินจูเท่าที่พบเจอบิดาอยู่ร่วม2ชั่วยามก็คิดว่ามู่หรงเยี่ยนนั้นรักบุตรสาวอยู่มากจะทำร้ายนางได้อยู่หรือ "นายท่านอาจเป็นผู้เดียวในจวนที่รักคุณหนูที่สุดแต่...นายท่านนั้นมากมีงานอยู่ตลอดเวลา จะอยู่ปกป้องคุณหนูจากภัยร้ายให้ได้เช่นไรหาไม่คราวนี้คุณหนูจะปางตายเช่นนี้หรือเจ้าค่ะ หลีกเลี่ยงไว้ย่อมปลอดภัยที่สุด" พอคิดตามไปนางก็เริ่มเห็นจริง เด็กสาวที่มาจากอีกโลกขบคิดเงียบๆ นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น นางยังมีอีกมากมายให้ต้องเรียนรู้ ที่สำคัญในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิ่งเด่นของเหล่าภรรยารองทั้ง3กับน้องๆ ของนางย่อมรุนแรง นางจะต้องหาทางรอดให้ตนเองเสียแล้ว หลีกได้ก็สมควรหลีกไว้ หากหลีกไม่ได้นางก็จะต้องเลือกทางเผชิญหน้าที่จะเจ็บน้อยที่สุด ยิ่งคิดคนตัวเล็กก็ยิ่งถอนหายใจ ชาติเก่านางว่าลำบากแล้วกลับไม่ได้เศษเสี้ยวของการเป็น"มู่หรงเจินจูผู้นี้เ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม