bc

เงาพันธกานต์

book_age12+
654
ติดตาม
2.1K
อ่าน
จบสุข
พ่อเลี้ยง
พี่บุญธรรม(ชาย)
ดราม่า
ชายจีบหญิง
วิทยาลัย
ความลับ
like
intro-logo
คำนิยม

มินตราต้องมาอยู่ภายใต้การปกครองของพี่ชายฝาแฝดที่นิสัยต่างกันจนสุดขั้ว ลึกๆ ภายในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ในความสัมพันธ์แสนซับซ้อน เรื่องความรักที่ชุลมุนวุ่นวาย หากแต่ว่าสายตาของคนนอกหล่อนช่างน่าอิจฉาชะมัดที่มีพี่ชายคอยตามคุม

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Chapter 1 ซ่อน...รัก
รักที่แท้จริงคือการให้ ไม่จำเป็นต้องได้ครอบครอง เงาพันธกานต์ BY กฤติณ พี่ พี่ภีม ภัทรนันท์  เลิศอมรกุล  (อายุ 33 ปี วิศวกร, รองกรรมการผู้จัดการเดอะเรดเบดแอนด์บาร์)  เพราะยังไม่ทิ้งลายนิสัยเจ้าชู้ แม้เขาจะมีภรรยาที่กำลังมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน  แต่นั่นไม่อาจใช้มัดใจผู้ชายอย่างภัทรนันท์ให้หยุดแค่เธอได้  เขาแอบส่งเสียเลี้ยงดูมีความสัมพันธ์ลับๆ กับแพรวา สาวนักศึกษาปีหนึ่งขี้อ้อน และเธอยังเป็นเพื่อนกับมินตราน้องสาวของเขาเอง ถึงแม้เขาจะมีผู้หญิงมากมายหลายคน หากแต่ว่าใจกลับเก็บใครบางคนเอาไว้ เธอคนนั้นเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เขารักอย่างแท้จริง พี่ภาม ภัทรนนท์ เลิศอมรกุล (อายุ 33 ปี วิศวกร, รองกรรมการผู้จัดการเดอะเรดเบดแอนด์บาร์, เป็นนักดนตรีประจำบาร์หน้าโรงแรม) น้องชายฝาแฝดของภัทรนันท์...และเขาคือคนที่มินตราแอบหลงรัก ด้วยเพราะสมองของเธอจดจำผู้ชายผู้เป็นฮีโร่ในดวงใจเอาไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ แต่สุดท้ายเส้นทางรักของเขาและเธอจะเป็นอย่างไร  เมื่อคนที่มินตรารักอย่างแท้จริงกลับเป็นอีกคน อัยย์ มินตรา  เลิศอมรกุล หญิงสาวผู้กำพร้าบิดามารดาเพราะท่านทั้งสองถูกลอบสังหาร ญาติพี่น้องที่เป็นภัยทำให้หล่อนต้องมาอาศัยใบบุญของครอบครัวเลิศอมรกุล   หญิงสาวเติบโตมาท่ามกลางความรักของครอบครัวใหม่  ผู้ชายที่เป็นดั่งฮีโร่ในหัวใจ คนที่สบตากันในวันสูญเสีย  เขาคือใครกันแน่...ภัทรนันท์ หรือ ภัทรนนท์ แบม สิตางศุ์ มณีรัตนะ  ความสวยใช้ไม่ได้กับผู้ชายอย่างภัทรนันท์... เหตุเพราะเขาได้เธอมาเพราะความเมา  แม้จะทุกข์ทนแต่ก็ต้องทนอยู่เพื่อลูกและศักดิ์ศรีของครอบครัว ถึงแม้จะรู้ดีว่า...เขาเก็บใครบางคนเอาไว้จนเต็มหัวใจ น้ำขิง  แพรวา  เยาวมาลย์  เพื่อนแก็งค์เดียวกับมินตรา เพราะความทะเยอทะยาน ขาดความรักความอบอุ่น ความเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ขัดสนทางการเงิน  กลายเป็นปมด้อยอยู่ลึกๆ ในใจมานานวัน หล่อนคือเด็กสาวธรรมดาๆ ที่อยากมีพร้อมเหมือนเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน จนเมื่อได้มาพบกับพี่ชายคนโตของมินตรา...คำว่าเมียเก็บที่เขาหยิบยื่นให้  แลกกับความสุขสบายในชีวิต หล่อนจึงไม่มีรอที่จะคว้าเอาไว้ +++++ Chapter 1 ซ่อน...รัก                   บริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารสูงขนาดห้าชั้น ปาร์ตี้เล็กๆ กำลังเริ่มขึ้นขณะที่ความมืดโรยตัวเข้ามาห่มคลุม บ้านตึกสวยหลังนี้คือบ้านของครอบครัวเลิศอมรกุล มีพันเลิศเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านตึกหลังนี้ บ้านที่เขาจงใจออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอย สี่ชั้นและหนึ่งดาดฟ้า มีลิฟท์ในตัวอาคารเพื่อความสะดวกสบาย และมีการขออนุญาตสร้างและจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เหตุผลของพันเลิศคือต้องการให้ทุกคนอยู่ด้วยกันแม้จะมีครอบครัวแล้วก็ตาม ทุกคนในบ้านมีพื้นที่ส่วนตัวคนละชั้นไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ของลูกชายคนโตเป็นชั้นสาม ลูกชายคนรองที่ชั้นสอง ส่วนลูกสาวคนเล็กนั้นอยู่ชั้นเดียวกันกับพ่อและแม่ที่ชั้นสี่ มีห้องรวมที่ชั้นล่างไว้สำหรับพบปะพูดคุยทำกิจกรรมร่วมกัน            ปาร์ตี้ฉลองวันเกิดอายุครบสิบแปดปีเต็มของลูกสาวคนเดียวในบ้าน มินตรา...น้องเล็กของครอบครัว มีวงดนตรีเล็กๆ ของคนรู้จักมาร่วมขับกล่อมให้ความสุขสำหรับงานในค่ำคืนนี้ ภัทรนนท์รับหน้าที่เป็นมือกีตาร์และนักร้องไปพร้อมกัน เขาร้องเป็นประจำที่บาร์ด้านหน้าโรงแรมซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจอสังหาฯของครอบครัว โรงแรมขนาดกลางตอบโจทย์นักท่องราตรีที่มักแวะไปนั่งฟังเพลงและหาอาหารอร่อยๆ ทาน ค็อกเทลสูตรใหม่ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของเดอะเรดเบดแอนด์บาร์           มินตราในเดรสสีขาวสะอาดชายกระโปรงฟูฟ่อง หล่อนคือนางฟ้าโดดเด่นที่สุดในค่ำคืนนี้ ผู้มาร่วมงานมีญาติๆ คนรู้จัก และเพื่อนในกลุ่มมัธยมปลาย หลังจากทุกคนอิ่มกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ที่ยกห้องอาหารของโรงแรมมาไว้ที่นี่ ก็จะเป็นช่วงเวลาลุ้นกับของขวัญ นั่นเป็นช่วงเวลาที่มินตรามีความสุขที่สุด และหล่อนก็รอคอยของเขาอยู่เพียงคนเดียว ใจนั้นคอยลุ้นว่าปีนี้ภัทรนนท์จะซื้ออะไรให้เป็นของขวัญ           ที่บ้านของหล่อนสอนให้รู้จักคุณค่าของเงิน ของขวัญวันเกิดจึงไม่เน้นมูลค่าที่เป็นตัวเงินมากกว่าคุณค่าทางใจ ที่ผ่านมาหากอยากได้อะไรก็มักจะเก็บเงินซื้อเอง อาศัยค่าขนมที่ใช้ไม่หมดฝากเข้าบัญชีเอาไว้ รวมทั้งเงินจากการขายภาพถ่ายออนไลน์ที่แม้ไม่มากแต่ก็ทำให้หล่อนมีความสุขที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง           แม้ที่บ้านจะให้เรียนเกี่ยวกับการโรงแรมเพื่อจะได้นำมาปรับใช้กับธุรกิจของครอบครัว แต่หล่อนก็รักการถ่ายภาพและรู้สึกได้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ทางด้านนี้ วันก่อนตอนไปเดินซื้อของแล้วแวะไปโซนไอทีด้วยอยากได้กล้องคุณภาพดีๆ สักตัว แต่เห็นราคารวมไอเท็มเสริมแล้วถึงกับปาดเหงื่อ ราคาตั้งหลายหมื่นหล่อนไม่มีเงินที่จะซื้อ แม้อยากได้แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากขอพี่ชายตัวเอง แม้เขาจะเป็นคนคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้านก็ตาม           "ปีนี้ภีมซื้ออะไรให้น้อง...แกะเลยอัยย์ ทุกคนรอลุ้นอยู่"           ที่หลายคนลุ้นเพราะปีที่แล้วหล่อนได้แมคบุ๊คเป็นของขวัญ เนื่องจากคนให้รู้ว่าหล่อนจำเป็นต้องใช้งานเป็นประจำ ภัทรนันท์รู้ว่าน้องสาวตนชอบถ่ายภาพและขายภาพถ่ายออนไลน์เป็นงานอดิเรก เขาจึงช่วยสนับสนุนด้วยการซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับช่องทางการสร้างเงิน           กล่องเท่าซองจดหมายที่ไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไร หญิงสาวบรรจงแกะโบว์และกระดาษห่อสีทองออกอย่างใจเย็น แม้ใจจะลุ้นว่ามันคืออะไรก็ตามที...เมื่อแกะออกมาแววตากลมโตก็ฉายแววงุนงง เพราะมันคือเงินจำนวนหนึ่ง แบงค์สีเทาใหม่เอี่ยมที่กะด้วยตาแล้วน่าจะมีราคานับหมื่นเลยทีเดียว           ภัทรนันท์หัวเราะออกมาเมื่อหล่อนเหลือบมอง เหมือนมีคำถามซ่อนอยู่ในแววตาคู่นั้น            “พี่ภีมซื้อของขวัญไม่ทันแน่ๆ เลยเอาเงินมาฟาดหัวอัยย์"           "ใช่ครับ ซื้อไม่ทัน อย่าโกรธกันนะ"           เขาทำท่าชูนิ้วก้อยเพื่อง้อให้หายงอน ไม่อยากพูดความจริงว่ามัวแต่ยุ่งกับหลายๆ เรื่องจนลืมไปเสียสนิท มานึกขึ้นได้ก็ใกล้วันเต็มที หาซื้ออะไรไม่ทันก็เลยคิดว่าจะให้หล่อนนำเงินไปซื้อของที่อยากได้เอาเอง           "ไม่ต้องเลย ลืมกันได้ไงคะ"           หล่อนทำหน้างอนเพราะไม่ได้อยากได้เงิน อะไรที่เป็นสิ่งของแม้ไม่มีมูลค่าแต่หล่อนก็เก็บรักษาเอาไว้ทุกชิ้น...ท่าทีนั้น ภัทรนันท์รีบเดินเข้ามาบีบนวดไหล่แบบบางอย่างเอาใจ           "ก็พี่ให้เงินแล้วนี่ไงครับ อยากได้อะไรน้องอัยย์ก็ไปหาซื้อทีหลัง ถ้าไม่ซื้ออะไรก็ฝากเอาไว้ จะได้มีเงินติดตัว"           หญิงสาวรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังทำตัวไร้สาระไม่เข้าท่า เขาง้อเพียงครู่เดียวก็กลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม           "ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ อัยย์ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่างอแง"           หล่อนพูดออกมาแบบนั้นเพราะคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งกำลังส่งสายตาบางอย่างมาให้...รู้ดีเขากำลังดุทางสายตาจนต้องหลุบตาหนีด้วยความหวั่นเกรง           "ทีหลังอย่าแสดงอาการแบบนี้อีก ไม่คิดว่าคนให้จะน้อยใจหรือไงฮึ!"           เขาลุกเดินมากระซิบใกล้ๆ จนหล่อนแค่นยิ้มเจื่อน ภัทรนันท์ได้ยินจึงขัดออกมาเพราะไม่อยากให้เจ้าของวันเกิดน้อยใจที่ถูกตำหนิ           "เอาเถอะๆ อย่าเพิ่งดุเลย น้องอัยย์ยังเด็ก ก็เลยคิดอะไรตามประสาเด็กๆ ฉันไม่ซีเรียสอะไร"           "พี่กำลังทำให้เธอเคยตัว เป็นคนเอาแต่ใจขึ้นทุกวันๆ แล้วก็เด็กที่ไหน อายุตั้งสิบแปดแล้ว"           แม้จะเกิดห่างกันแค่เพียงไม่กี่นาที แต่ภัทรนนท์ก็เรียกอีกฝ่ายว่าพี่เพื่อให้เกียรติ เพราะถือว่าถึงอย่างไรก็เกิดก่อนตน           "นายว่าฉันตามใจน้อง ไหนเอามาดูสิของขวัญนายน่ะว่าปีนี้ซื้ออะไรมา"           "ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเวอร์ แต่เห็นว่าจำเป็นก็เลยซื้อมา"           "แกะเลยน้องอัยย์ ทุกคนอยากเห็น"           ภัทรนันท์รีบยุ เขาจะดูสิว่าคนที่ปากดีว่าคนอื่นทำให้มินตราเคยตัวนั้นจะซื้ออะไรมาเป็นของขวัญ เดาเอาจากกล่องใบใหญ่ คิดว่าคงต้องเป็นอะไรที่มีค่าแน่นอน           "อะไรคะพี่ภาม หนักเหมือนกันนะคะ"           "แกะดูสิครับ ระวังอย่าให้หลุดมือนะ"           มือเล็กแกะกระดาษห่อสีชมพูอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางใจที่ลุ้นระทึกเพราะกล่องที่ใหญ่และหนัก ลุ้นว่าในนั้นจะเป็นอะไร…เพียงแกะกล่องแล้วเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน แววตากลมโตก็ทอประกายระยิบระยับ น้ำตารื้นออกมาเพราะความดีใจ           "พี่ภามรู้ได้ยังไงคะ รู้ได้ยังไงว่าอัยย์กำลังอยากได้อยู่พอดี"           สองมือค่อยๆ ประคองหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาพลิกดู ราคาของมันนั้นไม่ใช่ถูกๆ เพราะหล่อนเพิ่งไปดูราคามาเมื่อเดือนก่อนนี้เอง           "แหม ไอ้คนไม่ตามใจ ซื้อของชิ้นใหญ่ให้เนี่ยนะ"           ภัทรนันท์อดไม่ได้ที่จะแขวะออกมา เขากำลังคิดว่าน้องชายตนนั่นแหละตัวดี แม้จะดูดุและเข้มงวด แต่เมื่อยามมินตราอยากได้อะไร แค่อ้อนบ่อยๆ เข้าเดี๋ยวก็จะใจอ่อนไปเอง           "ผมเห็นว่าจำเป็นต้องใช้งานน่ะ แล้วคนบางคนก็ไปยืนทำตาปริบๆ ได้แต่ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่มีเงินซื้อ"           "ขอบคุณนะคะพี่ภาม อัยย์สัญญาว่าจะรักษามันเป็นอย่างดี"           ไม่แค่เอ่ยปาก เจ้าตัวเขย่งปลายเท้าแล้วเงยหน้าขึ้นไปหอมแก้มเขาแทนคำขอบคุณ...ภัทรนนท์ถึงกับผงะตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะแสดงอะไรแบบนี้ออกมา           เขาใช้หลังมือถูที่แก้มของตนราวไม่ชอบในรสสัมผัส ตามมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ จนอีกฝ่ายถึงกับหน้าม่อยลงไป           "ทำอะไรน่ะน้องอัยย์ อย่าทำแบบนี้อีกรู้มั้ย!"           "เมื่อก่อนก็ยังทำได้ ไม่เห็นพี่ภามว่าอะไร"           "ก็เพราะเราไม่ใช่เด็กๆ แล้ว โตเป็นสาวแล้วต้องรู้จักระวังตัว"           เมื่อกี้ยังว่าหล่อนเป็นเด็ก...หญิงสาวคิดอย่างน้อยใจแต่ไม่ กล้าแสดงอะไรออกมา...ภัทรนนท์เดินหนีไปนั่งรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ เขาไม่พูดอะไรกับหล่อนอีกเลย ด้านภัทรนันท์รู้ดีว่าบรรยากาศกำลังจะเสีย เขาจึงดึงกล้องจากมือของหล่อนมาเก็บใส่กล่อง ก่อนส่งซิกไปที่เวทีร้องเพลง แล้วกระตุ้นคนอื่นๆ ให้มาสนุกต่อด้วยกัน ส่วนเขาจะช่วยทำให้มินตราหายน้อยใจด้วยการชวนไปร้องเพลงที่หน้าเวที           ท่ามกลางความสุขสนุกสนาน แพรวาเดินเลี่ยงออกมาจากโซนปาร์ตี้โดยไม่บอกใคร หล่อนเดินเล่นมาเรื่อยจนถึงบ่อปลาคาร์ฟที่ทอดผ่านด้านหน้าตึก มีสะพานสำหรับเดินข้ามไปยังหน้าประตูทางเข้าด้านใน...บ้านหลังใหม่ของเพื่อนนั้นช่างน่าอยู่ ทั้งใหญ่โตและมีสวนสวยๆ ให้เดินเล่น คำถามก่อเกิดในใจที่เต็มไปด้วยปมด้อยทำไมมินตราถึงมีชีวิตที่น่าอิจฉา มีครอบครัวแสนอบอุ่น มีเงินให้ใช้ไม่ขาดมือ มีทั้งพี่ชายที่แสนดีคอยดูแลเทคแคร์ถึงสองคน           ชีวิตของเพื่อนต่างจากตนหน้ามือเป็นหลังมือ ทางบ้านของหล่อนไม่มีเงินมากพอที่จะส่งให้ใช้สุขสบายเหมือนอย่างมินตรา ไม่มีพี่ชายคอยดูแลเอาใจใส่เหมือนอย่างเพื่อน ปมด้อยในใจนี้ถูกกดเอาไว้นานวัน หล่อนกลายเป็นคนโหยหาความรักจากใครสักคน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะพบเจอรักที่ว่านั้นหรือไม่           "ทำไมมายืนหลบอยู่คนเดียวเงียบๆ ตรงนี้ล่ะครับ ปาร์ตี้ไม่สนุกเหรอ"           เสียงทักที่ดังอยู่ข้างหลังทำให้หล่อนตกใจหันกลับไปมอง เขานั่นเอง…ภัทรนันท์ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของมินตรา ในมือถือแก้วไวน์มาสองใบ อีกใบหนึ่งยื่นมาตรงหน้า           หล่อนหลุบตามองแก้วใบนั้น หากแต่ว่าด้วยมารยาทจึงยื่น มือไปรับแบบงุนงง ไม่คุ้นชินกับการที่จู่ๆ ก็มีใครมาทำอะไรแบบนี้ เขาสื่อภาษากายว่ากำลังชวนหล่อนดื่มหรืออย่างไร คิดพลางช้อนสายตามอง รอยยิ้มหวานคลี่ออกมาเพื่อตอบรับมิตรไมตรี            แพรวาเหลือบตามองไปยังตึกหลังใหญ่ตรงหน้า หล่อนเอียงคอเล็กน้อยยามหันกลับมาสบตากับภัทรนันท์           "น่าอิจฉาอัยย์จังเลยนะคะที่มีบ้านหลังใหญ่ให้อยู่ ขิงเพิ่งมาเป็นครั้งแรก จริงๆ แล้วอัยย์ก็ชวนมาหลายครั้งแล้วเหมือนกันค่ะ"           ภัทรนันท์ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร สายตาลอบมองเครื่องหน้าของหล่อนตามนิสัยที่เป็นโรคประจำตัวแก้ไม่หาย จริงๆ แล้วหล่อนไม่ใช่คนสวยโดดเด่น หากแต่ว่ากลับมีเสน่ห์สะดุดตาให้ต้องเผลอมอง คิ้วเรียวสวยแบบไม่ต้องเขียนก็ยังดูดี กลีบปากอิ่มสีชมพูจางๆ เหมาะกับวัยที่ยังสดใส อีกทั้งผิวสีน้ำผึ้งที่ไม่ใช่ผิวคล้ำนั้นดึงดูดสายตาให้ต้องไล่มองหล่อนไปทั้งตัว           "ตามสบายเลยนะครับ คิดเสียว่าเป็นบ้านของตัวเอง"           เขาแค่มาทำให้หล่อนไม่รู้สึกเหงาในฐานะเจ้าบ้าน ภัทรนันท์พยายามสื่อออกมาแบบนั้นเพื่อไม่ให้หล่อนรู้สึกว่ากำลังถูกจู่โจมจีบกันซึ่งๆ หน้า...เสียงแก้วกระทบกันเบาๆ ก่อนที่น้ำสีแดงจะถูกกรอกลงคอไปอึกหนึ่ง วินาทีนั้นแพรวาเผลอสบตากับเขาอย่างไม่ตั้งใจ…สายตาที่ทำให้ร้อนวูบวาบไปทั้งกาย ไม่แน่ใจว่ามันมาจากความเขินอายหรือเพราะฤทธิ์ไวน์ที่เพิ่งดื่มไปกันแน่           แต่เพื่อนของตนเคยบอกว่าพี่ชายคนโตนั้นมีเมียแล้ว...มีเมียแล้วมาคุยกับหล่อนทำไม แพรวาคิดอย่างว้าวุ่นใจและเข้าข้างตัวเอง           พฤติกรรมของพี่ชายตนไม่อาจรอดพ้นสายตาช่างสงสัยของ มินตราไปได้ หลังจากที่ร้องเพลงล่าสุดจบลงไป หล่อนยื่นไมค์คืนให้ภัทรนนท์แล้วเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้น ด้วยไม่ไว้ใจพี่ชายคนโต           "อะแฮ่ม"           "....!"           ภัทรนันท์หันไปมอง เป็นน้องสาวจอมจุ้นจ้านที่ช่างขัดจังหวะได้ทุกที่ทุกเวลา เขาลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่หล่อนพรวดพราดเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือ           มินตราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หล่อนคว้าข้อมือเพื่อนเพื่อให้เดินตามตนไปที่ลานปาร์ตี้ ไม่สนใจสายตาของพี่ชายที่จับจ้องมองอย่างรู้ทัน...รู้ทันว่าหล่อนกำลังเป็นหูเป็นตาให้พี่สะใภ้ ไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เพื่อนตัวเอง           "ไหนบอกจะร้องเพลงไงขิง ไปเลย ทุกคนอยากฟังเสียงแก"           แพรวาแค่นยิ้มเฝื่อน ครั้นจะให้ยืนอยู่ที่เดิมก็กระไรอยู่ หล่อนจำต้องเดินตามเพื่อนไปทั้งที่ใจนั้นยังอยากคุยกับเขาต่ออีกสักนิด หล่อนไม่เคยเจอใครคุยสนุกเหมือนเขา...ทำไมผู้ชายแต่งงานแล้วถึงมีเสน่ห์ดึงดูดใจให้อยากเข้าหา หญิงสาวเฝ้าถามตัวเองท่ามกลางใจที่กำลังหวั่นไหวไปกับเขาอย่างง่ายดาย  

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.4K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.8K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.5K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook