คนอย่างคิริน โบฟอร์ต ไม่เคยเสียเปรียบใครแล้วเหตุใดจะยอมรักษามารดาของขจีเนตรฟรี ๆ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
หลังจากจัดการพาเชลยสาวมาอยู่ในไร่ส้มภูตะวันวาดเรียบร้อย เขาก็สั่งให้เธอมาหาในห้องทำงานพร้อมกับยื่นเอกสารสัญญาให้อ่าน
หญิงสาวรู้สึกกระอักไม่น้อยเมื่ออ่านจบ
คิรินต้องการให้เธออยู่ที่นี่จนครบหนึ่งปีถ้วน ในระหว่างนี้ห้ามเธอเล่นตุกติก ไม่อย่างนั้นเขาจะจัดการมารดาของเธอ แต่ค่ารักษาคุณสายสมรสูงเกินไปเขาจำเป็นต้องเก็บดอกเบี้ย
แล้วดอกเบี้ยนั้นมันจะเป็นอะไรไปได้ถ้าไม่ใช่เรือนร่างเย้ายวน สุดท้ายผู้ชายก็เหมือนกันหมดเห็นผู้หญิงเป็นเพียงนางบำเรอ
“คุณไม่มีปัญญาหาผู้หญิงมาสนองตัณหาแล้วหรือไง”
หญิงสาวกระแทกเสียงใส่ไม่พอใจ ผู้ชายอย่างคิรินแค่กระดิกนิ้วก็มีผู้หญิงมารอต่อแถวเป็นขบวน เขาคิดอะไรอยู่ทำไมถึงได้ต้องการให้เธอสนองตัณหา
“มีหรือไม่มี มันก็เป็นเรื่องของผม เชลยอย่างคุณไม่เกี่ยว”
ตอบกลับเสียงห้วน หน้าตาบูดบึ้งไม่ชอบใจที่โดนเชลยสาวต่อว่า ขจีเนตรมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับเขาแบบนี้
“ฉันเกลียดคุณ”
ไม่ใช่เกลียดธรรมดาแต่เกลียดแบบพิเศษใส่ไข่ ก็ไม่ต่างจากคนใจร้ายที่เกลียดผู้หญิงตรงหน้าเข้าไส้ เกลียดยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น แววตาของเขาขุ่นเคืองยามที่เห็นใบหน้าเชิดหยิ่ง ทำเป็นอวดดีไปเถอะเดี๋ยวเจอบทลงโทษของเขาแล้วจะร้องไม่ออก
“ผมก็เกลียดคุณ” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมแฝงอยู่ในถ้อยคำ สายตาคมกริบจ้องมองเธอเขม็ง
“ฉันไม่ทำ ฉันไม่มีวันขายตัว” ใบหน้าพริ้มเพราฉายแววกรุ่นโกรธเชิดหน้าคอตั้งอย่างคนไม่ยอมคน เรื่องอะไรที่เธอต้องเอาเรือนร่างอันงดงามให้เขาเชยชมไร้สาระสิ้นดี
“ไม่ทำก็ได้ แต่แม่ของคุณจะไม่ได้รับการรักษา” ขู่อย่างเป็นต่อ มุมปากหยักยกขึ้นมาอย่างคนมีชัยเมื่อเห็นคิ้วเรียวผูกกันเป็นโบ
ขจีเนตรเงียบไปชั่วครู่เริ่มคิดหนัก ไม่ว่าเลือกเดินทางไหนก็มีแต่เสียกับเสียแต่เธอควรเสียเพื่อได้ผลประโยชน์ให้มากที่สุดไม่ใช่เหรอ คิดได้อย่างนั้นจึงหันไปมองหน้าเขาก่อนตั้งคำถาม
“แล้วถ้าฉันตกลง ฉันต้องทำยังไง”
“ก็ทำอย่างที่คุณเคยทำ”
“ฉันไม่เคยทำ”
“ผมไม่เชื่อ ผู้หญิงอย่างคุณเนี่ยนะจะไม่เคย”
“แล้วแต่คุณจะคิด คุณจะให้ฉันเริ่มเมื่อไหร่”
“หึ สุดท้ายก็ยอม เริ่มพรุ่งนี้”
“ได้ แต่คุณต้องรักษาสัญญา”
“แน่นอน คนอย่างผมคำไหนคำนั้น”
ขจีเนตรเดินออกมาจากห้องทำงานของคิรินด้วยหัวใจแตกสลาย ตอนนี้เธอจะทำอะไรได้นอกจากยอม เพื่อรักษาแม่เธอจะอดทน
ก่อนจากเมืองหลวงมาอยู่ที่ไร่หมอบอกว่าอาการของคุณสายสมรเริ่มมีสัญญาณที่ดี ถ้าได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางฝีมือเก่งอีกไม่นานก็อาจจะฟื้น เธอจะรอวันนั้นวันที่มารดาหายป่วยแล้วกลับมาอยู่ด้วยกันสองคนแม่ลูกในบ้านหลังเล็ก
เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชีวิตช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทำให้ขจีเนตรได้ข้อคิดมากมาย เธอได้เห็นถึงนิสัยคนและข้อเสียของตัวเอง ไม่แปลกหรอกที่เอวารินจะโกรธและเกลียดจนทำกับเธอแบบนี้
เวลาหนึ่งปีคงมากพอที่จะช่วยให้เธอหลบซ่อนตัวจากเสี่ยชัย และมีเงินมากพอที่จะพามารดาหนีไปอยู่ต่างจังหวัด ถึงจะมาอยู่ในฐานะเชลยแต่คิรินจะให้เงินค่าจ้างเหมือนคนงานทั่วไป เธอเชื่อหากใช้ประหยัดจะต้องมีเงินเก็บแน่
ส่วนคิรินหลังจากเชลยสาวหายออกไปก็แค่นยิ้มมุมปาก เขาแค่ให้ข้อเสนอไปแบบนั้นไม่คิดว่าเธอจะตอบตกลง แต่ก็ดีขจีเนตรจะได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด
กลางวันเป็นคนงานในไร่ กลางคืนเป็นนางบำเรอบนเตียง แค่คิดก็สะใจพร้อมกับบอกตัวเองว่าทำแบบนี้ถูกต้องแล้ว แววตาคิรินไร้ซึ่งความเมตตาเพราะความแค้นบดบัง เขากับอันดาเพิ่งคบกันได้ไม่นาน คนรักก็มาตายจาก เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ
หารู้ไม่การที่อันดาขับรถเสียหลักไม่ใช่เพราะขจีเนตรกำลังจะข้ามถนน แต่เป็นเพราะเสียใจที่โดนพี่สาวหักหลังจึงขับรถไปอย่างไร้สติ น้ำตาไหลพรากจนแทบจะมองไม่เห็นถนนตรงหน้า รู้ตัวอีกทีก็ชนเข้ากับเสาไฟฟ้า ถ้าขจีเนตรไม่ถอยกลับมาทันเวลา ตัวเธอเองอาจจะต้องตายอีกคนก็เป็นได้
เรื่องนี้มีคนเดียวเท่านั้นที่รู้คือน้ำส้มซึ่งเป็นสายสุดท้ายที่คุยโทรศัพท์ด้วย ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นกับอันดา ถ้าน้ำส้มยอมปริปากพูดความจริง คิรินคงไม่เข้าใจผิดขจีเนตรถึงเพียงนี้
เมื่อถึงเวลาคุณหนูคนงามไม่คิดผิดคำพูด ร่างบางยืนอยู่หน้าห้องคนใจร้ายด้วยสีหน้าบูดบึ้งก่อนจะยกมือขึ้นมาเคาะประตู เพียงครู่เดียวเธอก็เข้ามาอยู่ในห้องของเขาพลางใช้สายตาสำรวจรอบ ๆ
เธอถึงได้รู้ว่าคิรินค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบดูได้จากการตกแต่งห้องและการวางข้าวของ ซึ่งแตกต่างจากตนเองราวฟ้ากับเหว เธอเหรอจะทำไม่มีทาง
“ทำหน้าที่ของตัวเองสิ ผมไม่ได้ให้คุณมายืนสำรวจห้อง”
ปากร้ายเริ่มทำงานเมื่อเห็นเชลยสาวยืนนิ่งไม่ไหวติง เอาแต่ใช้สายตาสำรวจไปทั่วห้องนอน นี่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่เขาเรียกเธอมา
“ทำ? ทำยังไง ฉันบอกคุณแล้วไง ฉันไม่เคย”
แม่สาวบริสุทธิ์ขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจ เธอจ้องตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว พูดจนปากเปียกปากแฉะ บอกว่าไม่เคยทำเรื่องนั้นทำไมไม่เชื่อกันบ้าง อยากตะโกนถามคนตรงหน้าเหลือเกิน มีหูเอาไว้ประดับหัวเหรอ
“อย่าพูดให้ดูดีนักเลย ผู้หญิงกลางคืนจะไม่เคยได้ยังไง”
เอ่ยด้วยน้ำเสียงดูถูกพลางใช้สายตาคมกริบมองเธอตั้งแต่หัวจดเท้า เท่าที่รู้มาขจีเนตรทำงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ สำหรับเขาคนทำงานแบบนี้ก็ย่อมต้องทำเรื่องนั้นด้วย อย่ามาประดิดประดอยคำพูดตอแหลให้เสียเวลาเลย
“คุณนี่มันความคิดต่ำมาก ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนมาบริหารไร่” ด่าอย่างไม่เกรงกลัว หญิงสาวเอามือขึ้นมาเท้าสะเอว จ้องตาชายหนุ่มไม่ยอมหลบ เอาสิมาสิวันนี้เป็นไงเป็นกันเธอพร้อมบวก
“มันจะมากไปแล้วนะขจีเนตร คุณอย่าลืมสิตัวเองมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”
เห็นท่าทางจองหองของแม่เชลยสาวถึงกับทำให้คิรินของขึ้น ชี้หน้าต่อว่าผู้หญิงตรงหน้าด้วยความโมโห
ขจีเนตรกล้ามาก กล้ามาว่าเขาไร้สมอง
“ฉันไม่เคยลืม เอาสิคุณอยากให้ฉันทำอะไรก็บอกมา”
ใครจะไปลืมลง ลืมได้ก็นางเองแล้วไหม
“ขึ้นไปนอนบนเตียง”
เขาสั่งเสียงเข้มพลางชี้นิ้วไปที่เตียงกว้าง สีหน้าบอกบุญไม่รับไม่ชอบใจที่เห็นแววตาดื้อรั้นของเชลยสาว
ตัวเองกำลังจะถูกเชือดแท้ ๆ แต่กลับทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา ผู้หญิงหน้าด้านก็แบบนี้แหละ เขาเจอมาเยอะพวกทำตัวใสซื่อแต่ข้างในเน่าเฟะ
หญิงสาวในชุดนอนผ้าลื่นหันหลังแล้วเดินไปชิดขอบเตียง เนื้อตัวเริ่มสั่นเทาเมื่อจินตนาการถึงเรื่องอย่างว่า อดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้อุตส่าห์หนี้การขายตัวสุดท้ายก็ต้องขายอยู่ดี แต่อย่างน้อยการขายตัวให้คิรินก็คงดีกว่าให้ไอ้เสี่ยชัย เธอไม่อยากถูกส่งให้ไปรับแขกเหมือนผู้หญิงคนอื่น
“ว้ายคุณ จะทำอะไร” ด้วยความไม่ระวังจึงถูกคนเอาแต่ใจอุ้มขึ้นมาในวงแขน
“ช้า คุณถอยตอนนี้ไม่ทันแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบสวนทางกับความรู้สึกข้างในที่ร้อนรุ่มจนทนไม่ไหวต้องเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ
“ฉันไม่ได้จะถอย ขอทำใจหน่อย”
มาถึงขั้นนี้แล้วใครเขาจะถอยกัน ต่อให้อยากถอยก็คงทำไม่ได้ เธอเพียงต้องการเวลาทำใจ รวบรวมความกล้า ก่อนจะขึ้นไปอ้าขานอนบนเตียง
“คนมากประสบการณ์อย่างคุณยังจะขอเวลาทำใจอีกเหรอ”
“เอาเถอะ อีกเดี๋ยวคุณก็รู้ ฉันมากประสบการณ์หรือน้อยประสบการณ์” ขจีเนตรเอ่ยเสียงฉุนก่อนตัดสินใจแนบริมฝีปากอิ่มสวยลงบนริมฝีปากหยัก แล้วถอนออกครู่เดียวก็ต้องครางฮือในลำคอ เมื่อผู้ชายใจร้ายโยนเธอลงบนเบาะนุ่มอย่างไม่เบามือ จากนั้นก็ทำการปิดปากด้วยจูบดุดันไร้ความอ่อนโยน
ขจีเนตรดิ้นพล่านต่อต้านตามสัญชาตญาณ แต่ไม่นานก็อ่อนระทวย หลังจากร่างกายโอนอ่อนผ่อนตามคนมากประสบการณ์ที่ใช้จูบช่ำชองหลอกล่อเธอ
ใบหน้าสวยแดงระเรื่อคล้ายลูกตำลึงสุก เธออยากต่อต้านให้นานกว่านี้แต่ควบคุมร่างกายไม่ได้ ปากสวยเผลอจูบตอบอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว