อาทิตย์ต่อมา...
สนามบิน
"สวัสดีครับท่านคิลเลอร์!!" คิลเลอร์ลงจากเครื่องบินส่วนตัวหลังจากที่ไปทำงานที่บลูไนเสร็จแล้ว วันนี้เขาเลยจะแวะไปหามินิหน่อยหลังจากวันนั้นเขากับเธอก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
"อืม ไปคลินิกหมอมินิ" คิลเลอร์พูดแล้วเดินนำลูกน้องที่มากกว่าสิบคนที่มาอารักขาเขาเพราะว่าเขาเป็นมาเฟียเพราะงั้นเลยต้องมีคนตามเสมอเพราะว่ามีคนต้องการฆ่าเขาอยู่เยอะ
"วันนี้คลินิกปิดครับ" อาชามือขวาของคิลเลอร์รายงาน
"ไปไหน?" เขาคิ้วขมวดทันทีเพราะว่ามินิไม่เคยปิดคลินิกเลย
"ได้ข่าวไปงานวันเกิดลูกชายของเพื่อนท่านมนตรีครับ" ท่านมนตรีคือพ่อของมินินั่นเอง
"เหอะ!!จะจับคู่ให้ยัยนั่นอีกแล้วละสิ!" เขารู้สึกหัวเสียนิดหน่อยที่พ่อของมินิจองแต่จะหาผู้ชายให้มินิ
เขารู้ว่าพ่อของมินิไม่อยากให้เขาและเธอมีความสัมพันธ์กันเพราะเขาคือมาเฟีย และอีกอย่างคือทั้งคู่โตมาพร้อมกันรวมทั้งปุณณ์ด้วยท่านมนตรีเลยวางตัวของเขากับมินิเป็นเพียงพี่น้องเท่านั้น...
แต่ใครอยากเป็นพี่น้องกันละ??? ทั้งคู่ข้ามเส้นนั้นมาตั้งสามปีแล้ว
"งานจัดที่ไหน?" ปึก!! คิลเลอร์ถามขณะกำลังขึ้นรถ
"ที่บ้านของเพื่อนท่านมนตรีครับ"
"บ้านเลยเหรอ?"
"ครับ"
"ช่างเถอะ ปล่อยไปก่อน"
"แล้วจะไปไหนดีครับ?" อาชาถาม
"คอนโดฉันจะไปรอยัยนั่นที่นั่น..."
"ครับ ท่านคิลเลอร์" อาชาเป็นเพียงหนึ่งคนที่รู้เรื่องของทั้งคู่เพราะว่าคิลเลอร์จะให้อาชาติดตามมินิอยู่ตลอดและรายงานเรื่องเกี่ยวมินิให้เขาฟังเพราะงั้นอาชาจะรู้ก็ไม่แปลกแต่เขาจะไม่พูดอะไรทั้งนั้นและทำเหมือนว่าไม่รู้อะไร ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคน
ตรู๊ดดดด~ เมื่อรถเคลื่อนที่คิลเลอร์ก็โทรศัพท์หามินิทันที
(ฮะฮัลโหล?) ปลายสายรับเสียงหอบ
"เป็นอะไรทำไมเสียงเป็นแบบนั้น?" คิลเลอร์ถามอย่างสงสัย
(พอดีว่ากำลังเดินออกมาจากงาน ข้างในเสียงมันดัง...พี่กลับมาแล้วเหรอ?) มินิถามอย่างรู้ทันถ้าเขากลับมาจะโทรหาเธอทันทีหรือไม่ก็ไปหาที่คลินิก
"ได้ข่าวปิดคลินิกงานวันเกิดหมามันสำคัญมากเหรอ?"
(วันเกิดอะไรนะ???)
"หมาที่พ่อเธอให้ไปดูตัวไง?" น้ำเสียงของคิลเลอร์หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
(พูดจาดี ๆ หน่อยรู้ว่าไม่มีมารยาทแต่พี่ไม่ควรพูดถึงคนอื่นที่ไม่รู้จักแบบนี้นะ)
"ไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน เลิกงานเลี้ยงนั่นแล้วมาหาที่คอนโดด้วย"
(ไปไม่ได้)
"ทำไมไม่ได้?" เสียงคิลเลอร์แข็งทันทีเมื่อมินิขัดใจเขา
(พ่อให้ไปนอนบ้านวันนี้...)
"เรื่องของพ่อเธอดิ"
(เฮ้อออ!!ท่าทางจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วงั้นแค่นี้ก่อนนะ)
"จะวางสายใส่ฉันเหรอวะ??!"
(เออ!) ติ๊ด!! และมินิก็วางสายไปทันทีอย่างไม่เกรงกลัว
"ยัย...!! ยัยบ้า!! อีหมอเอ๋อ!!"
"ท่านคิลเลอร์ครับ..." ในขณะที่คิลเลอร์กำลังหงุดหงิดอาชาก็เรียกเขาขึ้นมาพร้อมกับมองกระจกหลัง
"อะไรวะ?"
"มีคนตามรถของพวกเรามาสักพักแล้วครับ" อาชาพูดด้วยท่าทางปกติไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาต้องเจออยู่แล้ว
"กี่คันกี่คน?" หมับ!! คิลเลอร์เองก็ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับเอาปืนขึ้นมาเช็ด
"สามคัน...ประมาณ 12 คนครับ"
"เหอะ!!มาซะเยอะเลยแต่ต่อให้เยอะถ้าฝีมือกระจอกก็ตายห่าอยู่ดี" คิลเลอร์ยิ้มเยาะ
"เอายังไงดีครับ?"
"จัดการมันซะ..."
ครืนนนน!! ปัง! ปัง! ปัง! คิลเลอร์เปิดกระจกรถก่อนจะเอาตัวออกไปและยิงรถที่ตามมาก่อน เขามันบ้าบิ่นไม่กลัวอะไรอยู่แล้วเพราะงั้นเขาเลยกล้าที่จะเสนอหน้าออกหน้าต่างมาและยิงใส่พวกนั้นไป
ปัง! ปัง! ปัง! ฝั่งนั้นเห็นว่าคิลเลอร์เริ่มก่อนก็รีบยิงสวนกลับไปบ้าง โดยรถคันอื่นก็เกิดการปะทะเช่นกัน
"ขับดีๆไอ้อาชากูจะเด็ดหัวมัน..." แกร๊ด! คิลเลอร์เปลี่ยนจากปืนสั้นเป็นสไนเปอร์แทนก่อนจะเล็งและยิงหัวของศัตรูร่วงไปทีละคน
ฟิ้วววว!!ฟิ้วววว!ฟิ้วววว!!
เอี๊ยดดดดดด!!โครม!!ตู้มมมมมมม!!รถของศัตรูเสียหลักพลิกคว่ำและระเบิดในเวลาต่อมา
"ไอ้อาชาเดี๋ยวบอกคนของเราให้เอาศพพวกนั้นส่งคืนเจ้านายมันด้วยนะ"
"ครับท่านคิลเลอร์แต่ว่าไม่เป็นอะไรเหรอครับนั่น...เหมือนจะโดนยิงที่แขนนะครับ" อาชามองเห็นเลือดที่ไหลอาบแขนของคิลเลอร์
"แค่นี้ไม่ตายหรอก"
"ให้พาไปโรงพยาบาลก่อนไหมครับ?" อาชาถาม
"มึงก็รู้ว่ากูให้มินิทำคนเดียวจะไปโรงพยาบาลเพื่อ?!"
"เอ่อ แต่ว่าวันนี้หมอมินิไม่ว่าง..."
"ถ้ามึงบอกว่ากูโดนยิงมีเหรอที่มินิจะไม่มาอะ?"
"แผนท่านให้โดนยิงหรือเปล่าครับ?" อาชาถามอย่างรู้ทัน
"ปัญญาอ่อนทำไมกูต้องยอมให้ตัวเองโดนยิงเพื่อเจอยัยนั่นด้วยละ?" คิลเลอร์บอก
"แล้วผมพูดเหรอครับว่าที่ท่านคิลเลอร์โดนยิงเพราะอยากเจอหมอมินิ?"
"มึงกวนตีนกูเหรอ???" ปึก!! คิลเลอร์ถีบเบาะของอาชา
"เปล่าครับ"
"โทรบอกมินิว่ากูโดนยิง"
บ้านหมออานพ
"ได้ข่าวว่าหมอมินิคลินิกเพื่อประชาชนที่ไม่มีเงินเหรอครับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริง ๆ เลย"
"ขอบคุณค่ะคุณลุงแต่มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรหรอกค่ะ ถ้าจะพูดว่ารักษาแต่ก็แค่บางคนที่ไม่มีเงินจริง ๆ เท่านั้น ส่วนบางคนก็ยังเก็บเงินปกติค่ะ มิยังไม่มีกำลังจะไปซัพพอร์ตพวกเขาขนาดนั้นหรอกค่ะ" มินิตอบกลับเพื่อนของพ่อไปหรือพ่อเจ้าของงานวันนี้
"แค่นี้ก็ดีมากแล้วละครับหมอมินิเพราะเราไม่สามารถช่วยใครได้ทุกคน" ปอนด์พูดกับมินิหรือเจ้าของงานวันนี้นี่เอง
"ให้ปอนด์ช่วยไหมละเขาก็ทำงานเกี่ยวกับอาสาเยอะเหมือนกัน" อานพได้จังหวะรีบเชียร์ลูกชายตัวเองทันที
"เอ่อ..."
"ก็ดีนะมิลอง..."
Rrrrrr
"ขอโทษนะคะคุณพ่อมีโทรศัพท์เข้าพอดี" ท่านมนตรีกำลังจะช่วยเชียร์เสียงโทรศัพท์ของมินิก็ดังขึ้นมา
"ไปรับสายเถอะ"
"ขอตัวสักครู่นะคะ" มินิรีบเดินออกมาและเบอร์ที่ขึ้นก็เป็นของอาชานั่นทำให้เธอรู้สึกใจไม่ดีเลยเพราะถ้าอาชาโทรมาเองนั่นหมายความว่าต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่างกับคิลเลอร์แน่นอน
"ค่ะ คุณอาชา"
(หมอมินิช่วยด้วยครับ! ท่านคิลเลอร์โดนยิงครับ!)
"พาไปโรงพยาบาลสิคะ!" เธอบอกเขา
(หมอมินิก็รู้นิครับว่าท่านคิลเลอร์ไปโรงพยาบาลไม่ได้...แถมท่านเองก็ไม่ยอมให้ใครทำแผลด้วยถ้าไม่ใช่หมอมินิช่วยด้วยเถอะครับ)
"เฮ้อออ! งั้นพาไปที่คลินิกเลยค่ะเข้าประตูหลังนะคะ"
(ครับหมอ) ติ๊ด! พรึ่บ! มินิวางสายและกำลังหันหลังก็เจอท่านมนตรียืนอยู่
"เกิดอะไรขึ้น?" ท่านมนตรีถามลูกสาว
"เอ่อ พี่คิลเลอร์เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะค่ะมิต้องไปดู" เธอบอกพ่อไป
"ถ้าไปช่วยในฐานะพี่ชายก็ได้นะ แต่อย่าช่วยในฐานะอื่น..." ท่านมนตรีมองอย่างจับผิดมินิกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
"เพราะเห็นเป็นพี่ชายไงคะ...เลยต้องไปช่วยปล่อยให้ตายไม่ได้"
"อืม งั้นก็ไปเถอะ แล้วโทรมาบอกด้วยว่าเป็นยังไงบ้าง?"
"ค่ะ คุณพ่องั้นมิไปก่อนนะคะ" มินิยกมือไหว้พ่อก่อนจะรีบออกมาจากบ้านที่จัดงานวันเกิด
หมับ!
"จะกลับแล้วเหรอ?" มินิกำลังเดินหากุญแจรถปอนด์ที่ตามเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ก็คว้ามือเธอและถาม
"ค่ะ พอดีว่ามีคนไข้ฉุกเฉินขอตัวก่อนนะคะ"
"ให้ผมขับให้ไหมครับขับเองอันตรายนะครับ ยิ่งรีบ ๆ แบบนี้"
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก"
มินิปฏิเสธเสียงแข็งและเดินออกมาจากตรงนั้นเลยเพื่อไปคลินิกของเธอ