เสียงลมพัดแผ่วเบาได้ยินเป็นระยะๆ ผู้คนที่ต่างใส่ชุดสีขาวสะอาดตายืนก้มหน้าแววตาคลอเคล้าไปด้วยความเศร้าเสียใจ รอยยิ้มใส่ซื่อของเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ยิ่งทำให้คนเป็นแม่ร้องไห้แทบจะขาดใจ หลายปีผ่านไปแล้วคนในตระกูลก็ยากที่จะทำใจได้ในการสูญเสียบุตรีเพียงคนเดียวของตระกูลไป ดอกเดซี่สีขาวถูกเหล่าญาติวางไว้อย่างสวยงาม เพราะตอนเด็กนั้นเด็กสาวชอบมันมาก
“ฮึก ฉันไม่เคยทำใจได้เลยค่ะคุณ”คุณหญิงลลิตาหันไปซบแผงอกสามีอย่างโศกเศร้า เธอไม่เคยทำใจได้กับการจากไปไม่มีวันหวนกลับมาของลูกสาวเลย ต่อให้ผ่านไปอีกหลายปีก็คงทำใจไม่ได้เหมือนเดิม
“อืม ฉันก็เสียใจไม่แพ้เธอหรอก” หลิง โจวฉิ่ง ทำได้เพียงลูบหลังภรรยาคนไทยอย่างปลอบใจ กับการจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับของลูกสาว ถึงแม้เขาจะดูนิ่งๆ แต่ภายในเขาก็โศกเศร้าเสียใจไม่แพ้ผู้เป็นภรรยาเลย
“สวัสดีค่ะคุณหญิงหลิง”เสียงทักทายที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้สองสามีภรรยาหันไปมอง ก่อนจะรีบค้อมหัวให้นายหญิงของตระกูลหลี่คนใหม่ที่มาพร้อมนายใหญ่ของตระกูล รัสเตร บาร์สิน็อคส์ หรือที่ใครๆรู้จักเขาในนาม เจ้าสัว นั้นเอง
“อ้อ สวัสดีค่ะนายหญิง”คุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลอภิมหาเศรษฐีค้อมศรีษะให้คนที่อายุไม่ห่างกันนักอย่างอ่อนช้อยงดงาม ก่อนจะหันไปทักทายนายใหญ่อย่างเจ้าสัวในเวลาต่อมา “นายใหญ่ รัสเตร”
“อืม ขอบคุณนายหญิงและนายใหญ่ที่มาทุกปี ผ่านไปเป็นสิบๆปีแล้วทั้งสองก็ไม่เคยลืมวันนี้เลย เราสองคนขอบใจจริงๆ”โจวฉิ่งเอ่ยขอบคุณคนทั้งสองออกมาจากใจจริง ก่อนจะผายมือให้มายืนข้างกันรำลึกถึงนางฟ้าน้อยที่จากไปแล้ว
วาน่ามองบรรยากาศในงานด้วยความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต เด็กน้อยหน้าตาน่ารักที่เธอเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนตอนนี้กำลังยิ้มให้เธออย่างสดใส น่าเสียใจจริงๆลูกน่าตาน่ารักแต่อายุขัยกลับสั้นขนาดนี้ สงสารก็แต่ครอบครัวที่มีบุตรสาวเป็นทายาทเพียงคนเดียว
“ลูกชายตัวดีของคุณอยู่ไหน”วาน่ากะซิบถามสามีที่ยืนอยู่ข้างๆ สายตาก็กวาดมองหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่บอกอะไรไม่ได้เลย เธอย้ำนักย้ำหนาแล้วนะว่าให้มาๆ
“ไม่รู้”เจ้าสัวเอ่ยตอบภรรยาด้วยท่าทีนิ่งเงียบ
“ไม่ได้เรื่องทั้งพ่อทั้งลูกเลย”ฉันพูดออกมาด้วยความอดกลั้น ทั้งที่ย้ำนักย้ำหนาแล้วนะ เห้อ ทั้งพี่ทั้งน้องนิสัยแบบนี้เธอคงต้องกลั้นใจเข้าสักวัน เห็นหัวแม่อย่างเธอซะที่ไหนล่ะ
“เธอพูดว่าอะไรนะ”ถึงแม้จะได้ยินเต็มสองรูหูแต่ก็อดที่จะถามภรรยาข้างกายไม่ได้ ลูกไม่มามันเกี่ยวอะไรกับพ่ออย่างเขางั้นหรอ
“พิธีเริ่มแล้วค่ะ”ฉันลอบมองใบหน้าคมคายนิดๆ ก่อนจะหันไปยืนสงบนิ่งเหมือนทุกคนที่กำลังยืนอยู่หน้าสุสานอย่างเงียบสงบ เป็นการให้เกียรติคนที่ตายไปแล้ว
หลายนาทีผ่านไปพิธีก็เสร็จสิ้นลงไปเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ทุกอย่างผ่านไปรวดเร็วเสมอ คงมีแต่จิตใจคนที่เคยเจ็บซ้ำยังไงก็ยากที่จะให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทำได้เพียงใช้ชีวิตไปวันๆอย่างคิดถึงที่จากไปแล้วเท่านั้น
“ขอบคุณอีกครั้งที่บินมาเพื่อมาร่วมงานนี้นะคะ”คุณหญิงหันมากล่าวขอบคุณแขกคนสำคัญอีกครั้ง ถ้าลูกสาวเธอไม่เสียชีวิตปานนี้คงได้แต่งงานกับทายาทคนโตของตระกูล หลี่ไปแล้ว สองตระกูลก็จะได้ดองกัน แต่น่าเสียดายนัก ที่ลูกสาวเธอเคราะห์ร้ายเสียก่อน “และก็ขอโทษจากใจของคนตระกูลหลิงทุกคน ที่ทำให้ทายาทคนโตของคุณไม่มีนายหญิงรุ่นต่อไปแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงสองตระกูลเราก็ยังเป็นดองกันอยู่เหมือนเดิม อีกอย่างต้องกราบขอโทษคุณหญิงที่ลูกชายดิฉันไม่มางานครั้งนี้ ดิฉันย้ำนักย้ำหนาแล้ว แต่เขาก็ไม่ฟังดิฉันเลย”
คุณหญิงตระกูลหญิงก้มหน้ายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามาสบตาคนที่เป็นน้องเธอไม่กี่ปีด้วยสายตาทอประกาย “ไม่ใช่คนนั้นหรอกหรือ”คุณหญิงพยักเพยิดไปยังคนที่สวมชุดสีดำที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่
วาน่าหันไปตามสายตาของคุณหญิงทันที ก่อนจะพบกับเจ้าของการสนทนาเมื่อครู่นี้กำลังยืนมองมายังพวกเราอยู่เหมือนกัน แต่ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไร เด็กนั้นก็หมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถแล้ว
“เอ่อ ขอโทษจริงๆนะคะคุณหญิง”คนเป็นแม่ได้แต่ยิ้มหน้าเจือน
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ อ้ออีกอย่างถ้าลูกชายเราเจอผู้หญิงที่ดีอย่าไปปิดกลั้นเขานะ เขาอาจจะมีดวงความรักที่ดีก็ได้”ฉันได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับความใจดีของคุณหญิงหลิง อย่าว่าดวงความรักที่ดีเลย จะมีผู้หญิงที่ไหนชอบลูกชายเธอจากหัวใจจริงๆบ้างที่ไม่ใช่แค่รูปร่างภายนอกเท่านั้น คิดไปก็ปวดหัว ในภายภาคหน้าเธอจะปวดหัวแค่ไหนกับบุตรชายทั้งสอง ที่ยิ่งโตยิ่งทำตามความคิดตัวเอง ไม่เคยถามอะไรคนเป็นแม่อย่างเธอเลย
“ค่ะคุณหญิง งั้นดิฉันขอตัวกลับไปสะสางงานที่เหลือก่อนนะคะ ดูเเลสุขภาพด้วยค่ะ”ฉันเดินเข้าไปจับมือขาวสะอาดขึ้นมาลูบอย่างให้กำลังใจ “งั้นดิฉันกับเจ้าสัวขอลาตรงนี้”
“อืม มีปัญหาเรื่องอะไรที่ฮ่องกงบอกฉันมาได้ ฉันพร้อมช่วยพวกคุณเสมอ”หลิงโจวฉิ่งที่ฟังบทสนทามานานเอ่ยออกไปบ้าง ใบหน้าที่งดงามไม่น้อยกว่าตอนเป็นสาวพยักหน้าเห็นด้วยกับสามี ก่อนจะค้อมศีรีษะให้คนทั้งสองที่เดินออกไปแล้ว......
“นายน้อยทำไมไม่เข้าไปทักทายนายหญิงกับนายใหญ่หน่อยละครับ”พอเห็นเจ้านายขึ้นมาบนรถทั้งที่ลงไปได้เพียงไม่นานแถวยังยืนอยู่ใกล้ๆรถ ไม่ได้เดินเข้าไปร่วมพิธีแต่อย่างใด เลยอดที่จะถามไม่ได้
“ไม่ต้องถาม กลับไปที่ท่าเรือฉันมีงานที่ต้องทำ”ใบหน้าเรียบนิ่งตวัดสายตาไปมองมือขวาที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับก่อนจะปรายตาไปมองสุสานที่ตั้งเรียงรายกันอยู่บนพื้นหญ้า หึ! ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้เขาไม่ต้องแต่งงานสินะ
“ครับนายน้อย”ลีอองที่อายุห่างจากลูกของเจ้านายพ่อ 2 ปี พยักหน้ารับก่อนจะขับรถออกไปทันที
“เอก้ามันอยู่ไหน?”เมื่อเห็นข่าวที่เด้งขึ้นมาเกี่ยวกับแวดวงบันเทิง ที่มีกลิ่นตุๆว่าต้องเกี่ยวกับแฝดผู้น้องของเขาเป็นคนทำให้ข่าวนี้ออกมาเเน่ เรดิหันไปถามคนที่นั่งประจำตำเเหน่งคนขับรถทันที
“เห็นว่าไปประเทศไทยนะครับ”ลีอองตอบเจ้านายไปด้วยความงุนงง อยู่ดีๆก็ถาม อยู่ดีๆก็สั่ง เดาใจยากชะมัด
“ไปทำไม?”ดวงตาเฉี่ยวคมหันไปจ้องคนสนิทตัวเองทันทีเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ
“เอ่อ เห็นว่าเจอนางแบบที่เหมาะกับจิวเวอรี่ล็อตใหม่แล้วครับ”
“ไปด้วยตัวเอง?”
“ครับ”
เจ้าของฉายาปีศาจท่าเรือยกยิ้มเบาๆให้กับคำตอบ คนอย่างเอก้าไม่มีวันลงทุนอะไรที่ไม่ได้กำไรมากกว่าแน่นอน และผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นจะเป็นใครกันนะ ที่เอก้ามันอยากได้เป็นของเล่นชิ้นใหม่