"เฮ้ พี่ชายฉิน เชิญ ๆ"
กลุ่มผู้ชายที่อยู่ไม่ไกลโบกมือเรียกฉินหานที่เดินนำครอบครัวเข้ามาในงาน ฉินเสี่ยวหรานมองเห็นแล้ว พวกเขาอยู่ในชุดทหารและยังมีตราที่บ่งบอกยศ แต่ละคนล้วนมีตำแหน่งเล็กกว่า หากให้เดา คงเป็นตำแหน่งเดิมของพ่อเธอ เพราะห้าปีที่ผ่านเพิ่งได้รับการเลื่อยศ
"มา มา"
ฉินหานมองกลุ่มเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายปี "นี่ภรรยาของฉันเอง พี่สะใภ้ของพวกนายจ้าวหยู่ฟาง หลานสาวใหญ่ฉินเสี่ยวหราน หลานสาวรองฉินเสี่ยวหลิง"
"พี่สะใภ้ฉิน"
"พี่สะใภ้"
พวกเขาต่างเดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง "หลานสาวใหญ่ หลานสาวรอง หน้าตาดีกันจริง ๆ โตเป็นสาวแล้ว ทำงานกับพี่ชายฉินมานานหลายปีเพิ่งได้เห็นหน้าหลานสาว"
ฉินเสี่ยวหรานยิ้มเล็กน้อยมองบรรดาเพื่อนของพ่อ "สวัสดีค่ะคุณอา ฉินเสี่ยวหรานหรือเรียกเสี่ยวหรานก็ได้ค่ะ" ไหน ๆ แล้ว ได้ชีวิตใหม่ทั้งที เธอควรทำความรู้จักกับผู้คน
"เสี่ยวหราน"
คุณนายทหารเดินมาตั้งแต่ไกลเพื่อมาหาจ้าวหยู่ฟาง และเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "นี่หรือภรรยาของพันตรีฉิน ฉันเหวยฉิงภรรยาของพันเอกเหยา ไปกับฉันสิ จะแนะนำให้คนอื่นได้รู้จัก"
“คุณนายเหยา ฝากพวกเธอด้วยครับ"
"แน่นอน"
คุณนายเหยาดึงมือจ้าวหยู่ฟางที่มัวอ้ำอึ้งให้เดินตามไป ฉินเสี่ยวหลิงเดินตามแม่และฉินเสี่ยวหรานเดินปิดท้าย คนรอบข้างต่างหันมามอง แต่สำหรับฉินเสี่ยวหรานเธอรู้สึกถึงบางอย่าง
สายตาหยุดมองนายทหารที่น่าจะยศเดียวกันกับพ่อของเธอแต่มีอายุที่น้อยกว่า รอบตัวของเขามีความน่าเกรงขามอย่างบอกไม่ถูก เขาหันมาสบตากับเธอและจ้องหน้ากัน ฉินเสี่ยวหรานยิ้มให้อีกฝ่ายและละสายตาก่อน
ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ที่ร้อนแรงจริง ๆ ขนาดชีวิตก่อนคลุกคลีกับพวกดารานักแสดงยังไม่เคยหวั่นไหวกับใคร หรือเป็นเพราะเธอคือฉินเสี่ยวหราน อย่างนั้นหรือ
โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีสายตาร้อนแรงของผู้หญิงคนหนึ่งจ้องมองมาอยู่
"มาแล้ว ๆ ภรรยาของพันตรีฉิน" คุณนายเหยาบอกทุกคนที่นั่งอยู่ คุณนายในกลุ่มมีสีหน้าและท่าทางต้อนรับอย่างเป็นกันเอง "คนในกลุ่มเป็นคุณนายที่มีสามีเป็นพันเอก พันโท และพันตรี มีเพียงคุณนายเว่ยที่เป็นภรรยาของท่านนายพล"
สามแม่ลูกรีบแนะนำตัว "ฉันจ้าวหยู่ฟางค่ะ นี่ลูกสาวคนโตฉินเสี่ยวหราน ลูกสาวคนเล็กฉินเสี่ยวหลิง พวกเราเพิ่งย้ายมาที่นี่ ฝากตัวด้วยนะคะ" เพื่อไม่ให้สามีขายหน้า จ้าวหยู่ฟางพยายามเก็บอาการ แต่เหล่าคุณนายหลายคนมองออกและมองข้ามไป
คุณนายในกลุ่มต่างแนะนำตัว ฉินเสี่ยวหรานจดจำเอาไว้ เป็นคุณนายท่านนายพลหนึ่งคน คุณนายพันเอกสองคน คุณนายพันโทสามคน และคุณนายพันตรีหนึ่งคน รวมแม่ของเธอก็เป็นสอง ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งก็ว่าได้
คุณนายที่มีสามีเป็นพันตรีเอ่ยถาม "ชุดพวกเธอซื้อมาจากไหน ทำไมถึงได้งดงามแบบนี้ ฉันตัดเย็บมาครึ่งชีวิตยังทำให้งดงามแบบนี้ไม่ได้"
จ้าวหยู่ฟางอมยิ้มพลางตอบ "ชุดนี้ฉันตัดเย็บเองค่ะ ก่อนหน้านี้คิดว่าจะตัดให้ลูก ๆ เอาไว้ใส่ไปโรงเรียน ได้มาที่นี่พอดี จึงให้ลูกใส่มาร่วมงานเลี้ยงค่ะ"
จ้าวหยู่ฟางตัดเย็บเก่งมาก และชุดที่ลูก ๆ ใส่ก็เป็นเธอที่ตัดเย็บให้ อาจจะตัดเย็บให้ปีละครั้งแต่ฝีมือไม่เคยตก อาจเป็นเพราะต้องรับจ้างตัดเย็บด้วยก็เป็นได้
"โอ้ ฉันทำงานในโรงปักเย็บของกองทัพ เธอสนใจเข้ามาทำกับฉันหรือไม่"
"ยินดีค่ะ"
"ดี ๆ พรุ่งนี้ฉันจะไปรับที่บ้านนะคะ"
"แหมคุณนายซิน ได้เพื่อนใหม่แล้วทิ้งพวกเราเลยนะ ฉันก็ตัดเย็บได้ คุณนายซินมองข้ามไปได้อย่างไรกัน" คุณนายคนที่สองในกลุ่มเอ่ยด้วยท่าทีงอน ๆ
"แค่เสื้อไม่ขาดก็ดีแค่ไหนแล้ว ว้าย! ทำไมลูกสาวของเธอถึงได้หน้าตาดีขนาดนี้กัน!"
คุณนายซินที่ได้เห็นใบหน้าของสองพี่น้องฉินเต็ม ๆ ร้องขึ้นด้วยความตกใจ โดยปกติผู้หญิงที่มาจากชนบทค่อนข้างมีผิวสีเข้ม คุณนายซินไม่ได้ดูถูกแต่ว่าส่วนมากจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่ว่าสองพี่น้องฉินกลับมีใบหน้าที่สวยและน่ารักอย่างลงตัว
ฉินเสี่ยวหรานยิ้มเล็กน้อย "คุณนายซินกล่าวเกินไปแล้ว หน้าตาของฉันก็ธรรมดาค่ะ"
ฉินเสี่ยวหลิงไม่ได้พูด แต่หล่อนยืนพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ กันอย่างเห็นด้วย ให้เทียบกันแล้ว เธอกับพี่สาวห่างไกลจากความสวยกับคนที่นี่มาก หรือเพราะไม่ได้อยู่ในมณฑลเดียวกันจึงแปลกตา
"ถ้าเธอหน้าตาไม่ดีฉันคงหน้าตาไม่ดี" คุณนายเว่ยหัวเราะ "ไม่เห็นพันตรีฉินบอกเลยว่ามีลูกสาวที่สวยขนาดนี้ เอ๋ แต่ลูกสาวสวยขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่ไม่บอก เป็นฉันฉันคงหวง"
ฉินเสี่ยวหรานและฉินเสี่ยวหลิงอมยิ้ม ก่อนจะทำอะไรต่อ ฉินเสี่ยวหรานกลับถูกนายทหารเข้ามาขัดเสียก่อน "สาวน้อยเธอชื่ออะไร พอจะบอกพี่ชายได้หรือไม่"
ฉินเสี่ยวหรานถอยหลังอย่างรักษามารยาทก่อนแนะนำตัว "ฉินเสี่ยวหรานค่ะ" ผู้ชายคนนี้เป็นใครไม่รู้จัก แต่การที่เขาเดินเข้ามาใกล้เช่นนี้มันไม่ดีเอาเสียเลย
เขาหน้าเสียและเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจ "ผมร้อยตรีหยูเหลย หวังว่าคุณหนูฉินจะให้โอกาสได้ทำความรู้จักนะครับ"
คุณนายเหยาเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาห้าม "ร้อยตรีหยู นายพลเรียกรวมแล้วไม่ไปหรือ เสี่ยวหรานของเรายังเด็ก หวังว่าร้อยตรีหยูจะไม่ถือสากับเด็กอายุคราวลูก" คุณนายเหยาย้ำคำว่าคราวลูกเสียงหนักแน่น
"อ่า ไว้เจอกันใหม่"
ร้อยตรีหยูเหลยเดินจากไปแล้วคุณนายเหยารีบเอ่ย "ลูกชายของพันโทหยู เขายังไม่แต่งงานถึงแม้อายุจะสามสิบแล้ว ให้ระวังเอาไว้"
"ค่ะ"
"ไปนั่งกันเถอะ"
ทางกองทัพได้จัดโต๊ะรวมให้ทุกคนตามตำแหน่งเพื่อไม่ให้กดดันกันเกินไป โต๊ะที่บ้านฉินถูกเชิญมานั่งเป็นโต๊ะของครอบครัวพันเอก พันโท และพันตรี ผู้ชายที่เธอสบตาด้วยก่อนหน้านี้เป็นลูกชายคนเล็กของคุณนายเว่ยและเขามียศพันตรีตามที่คิดเอาไว้จริง ๆ
ฉินเสี่ยวหรานนั่งตรงข้ามอีกฝ่าย เยื้องซ้ายจะเป็นที่นั่งพ่อของเธอที่อยู่ตรงข้ามแม่ ส่วนน้องสาวจะนั่งถัดจากแม่ ที่นั่งไม่ได้มีชื่อติดเอาไว้ แต่รู้ว่าครอบครัวสนิทกัน มีเพียงคุณนายเว่ยที่เลือกจะไปนั่งกับสามี ปล่อยให้ลูกชายนั่งที่นี่กับพี่ชายของเขา
"ทางกองทัพจัดหนักจริง ๆ หลายเดือนที่ผ่านมาไม่เห็นมีงานเลี้ยง จัดทีก็จัดยิ่งใหญ่แบบนี้" คุณนายที่ฉินเสี่ยวหรานไม่เคยรู้จักเอ่ยขึ้น
"แต่คุณป้าคะ อาหารพวกนี้เรากินกันบ่อยมากเลยนะคะ" เสียงผู้หญิงวัยรุ่นเอ่ยขึ้นกลางโต๊ะรับประทานอาหาร และปรายตามองมายังสามแม่ลูกบ้านฉินที่นั่งอยู่
จ้าวหยู่ฟาง และฉินเสี่ยงหลิงไม่ใช่คนโง่ ทั้งสองรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการหักหน้าบ้านฉิน เพราะทั้งสองมีสีหน้าตื่นเต้นเมื่ออาหารเสิร์ฟ แต่จะให้ตอบโต้เห็นท่าว่าคงไม่ดี
"บ้านนี้สอนลูกสาวดีจริง ๆ จ้าวหยู่ฟาง ฉินเสี่ยวหลิงไม่ต้องไปสนใจ ถ้าหล่อนกินบ่อยแล้วก็ไม่ต้องกิน สามีฉันทำงานทุกวันฉันก็ไม่ค่อยได้กินแบบนี้ ใครจะใช้เงินสิ้นเปลืองขนาดนั้น" คุณนายเหยาเอ่ยขึ้นกลางโต๊ะด้วยความไม่พอใจ คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณนายเหยา!" อีกฝ่ายระส่ำระส่าย "ฉันพูดไปแค่อยากเอ่ยหยอกล้อเท่านั้นเอง บ้านไหนจะมีเงินให้ซื้อกินได้บ่อย ๆ ล่ะคะ"
“นั่นสิ ต้องขออภัยคุณนายเหยาด้วยนะคะ พอดีที่บ้านเลี้ยงหยูเหมี่ยวด้วยอาหารค่อนข้างดีหล่อนจึงได้พูดเช่นนี้" คุณนายหยูผู้เป็นแม่รีบแก้ต่าง แต่ยิ่งทำให้คนอื่นส่ายหน้า
"สิ้นเปลืองกันจริง ๆ"
เหล่านายทหารทำได้เพียงมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าสบตากับคุณนายทั้งหลาย เรื่องแบบนี้เหล่าพ่อบ้านจะไม่ยุ่ง อีกอย่างคุณนายเหยาเป็นคุณนายที่มีสามีเป็นพันเอกคนจึงไม่กล้ายุ่ง
"แม่คะ หนูตักให้ค่ะ"
ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้เดือดร้อนกับคนอื่น เธอตักกับข้าวให้แม่และกินข้าวอย่างเงียบ ๆ แต่ระหว่างนั้นก็จดจำท่าทีของทุกคนไปด้วย ใครทำดีกับครอบครัวของเธอหรือใครว่าร้าย โดยเฉพาะบ้านคนบ้านหยู