@อย่าบอกให้ใครรู้ ว่าเรารู้สึกต่อกันเช่นไร แค่มองตากันก็สั่นสะท้านหัวใจ อย่าให้ใครเห็นว่าฉันแอบส่งสายตาหวานๆให้ไป เพราะอยากเก็บไว้เป็นเรื่องของเราสองคน ฉันก็เกือบยั้งใจไม่อยู่ กลัวใครจะรู้ว่าเมื่ออยู่กับเธอเลยต้องทำเฉยไป แล้วก็เกือบจะเผลอจนได้ ก็ทนไม่ไหวก็ใจมันสั่นทุกที@(เพลงอย่าบอกให้ใครรู้ turn on)
เสียงเพลงดังขึ้นในวิทยุอย่างบังเอิญในตอนค่ำหลังจากที่กลับมาจากดูหนัง นารินยิ้มอายๆเธอชอบเพลงนี้มากและฟังมานานหลายปีแล้ว แต่เพิ่งมาเข้าใจความหมายของเพลงก็วันนี้เอง รถติดข้างหน้ายาวเป็นแพแต่เธอกลับไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร มือหนาที่เกาะกุมมือเธออยู่ตรงนี้ต่างหาก ที่ทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ ท้ายเพลงประโยคสุดท้าย เธอได้ยินเสียงเค้าร้องคลอเบาๆว่า
"เพราะอยากเก็บไว้ให้รู้กันอยู่สองคน"
ภัทร์อยากจับมือบางนี้มาสักพักแล้ว แต่ยังหาจังหวะเหมาะไม่ได้สักที ค่ำแล้วแต่รถยังติดเต็มถนนกว่าจะออกจากห้างมาได้ก็เสียเวลาไม่น้อย เสียงดีเจในวิทยุพูดคุยอย่างสนุกสนาน จนอินโทรเพลงนี้ดังขึ้น เค้าก็คิดได้ว่า โมเม้นท์นี้ดีที่สุดแล้ว เค้าเปิดเพลงให้ดังขึ้น แล้วดึงมือบางมาเกาะกุมเอาไว้แน่น คนข้างตัวคงอายมาก แสงไฟข้างทางส่องเข้ามาทำให้เค้าเห็นว่า นารินหน้าแดง เพลงจะจบแล้ว เค้าก็ร้องคลอเบาๆว่า
"เพราะอยากเก็บไว้ให้รู้กันอยู่สองคน" ภัทร์บีบมือบางเบาๆแล้วปล่อยมือเธอ เมื่อถึงหน้าอพาร์ตเม้นท์
"วันนี้ขอบคุณมากนะ นาริน ผมมีความสุขมาก คุณรู้ใช่ไหม"
นารินยิ้มออกมาอย่างมีความสุข คิดว่าวันนี้เธอคงปวดแก้มแน่ๆเพราะยิ้มมากไปนั่นเอง เธอเปิดประตูรถลงไปอย่างรวดเร็วแล้วเดินแกมวิ่งเข้าไปข้างในตึก เธอจับหัวใจตัวเอง เสียงหัวใจเต้นแรงมาก ทำไมคุณภัทร์น่ารักแบบนี้ นารินคิดในใจอยู่คนเดียว
วันนี้มีประชุมสรุปไตรมาสแรกของปี บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นด้วยตัวเลขที่น่าพอใจ สายตาของผู้บริหารชื่มชม วิศวกรคนเก่งอย่างเห็นได้ชัด โปรเจ็กบ้านพักที่นครนายก8หลัง เป็นของภัทร์ เสียงแบ่งงานของนายทำเอาคนฟังยิ้มปลื้ม แล้วนายยังแจ้งเรื่องนำเที่ยวบริษัทปีนี้อีกด้วย
ปีนี้เราจะไปล่องแก่งเมืองกาญจน์ ออกที่นี่วันศุกร์บ่าย ไปดูพระอาทิตย์ตกที่เมืองกาญจน์ แล้วเล่นน้ำกันให้สนุก กับค่ำๆวันเสาร์ เสียงร้องกรี้ดกร้าดอย่างถูกใจ ภัทร์แอบมองนารินอย่างมีความหมาย เค้าแทบละสายตาจากเธอไม่ได้เลย และเกือบทุกครั้งที่เค้ามองเธอ นารินจะมองกลับมาเสมอ คนรอบข้างสะกิดกันให้มองคู่นี้แล้วอมยิ้มออกมา ภัทร์กับนาริน ตั้งแต่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง
เสียงนารินแสดงความยินดีอีกครั้งที่เค้าได้เป็นหัวหน้าทีมออกแบบรีสอร์ต8หลังที่นครนายก เค้าหัวเราะออกมาเบาๆงานหนัก เงินก็ต้องหนักตามไปด้วย "ต้องไปดูที่ก่อนอันดับแรก ถ้านาว่างผมอยากให้นาไปด้วย"
เสียงเค้าบอกอย่างเกรงใจเธอ เพราะรู้ว่าเธอมีงานวันเสาร์
"คุณภัทร์จะไปวันไหนคะ" เธอถามออกไปแล้ว นารินอยากจะกัดลิ้นตัวเองนัก ถามแบบนี้เค้าก็รู้สิว่า เธออยากไปกับเค้า
"ไปวันเสาร์เช้าครับ แล้วจะรีบกลับมาหานาวันอาทิตย์"
เค้าบอกเธออย่างอ้อนๆ "นาคิดดูก่อนนะคะ ว่าจะยังไง วันนี้เพิ่งจะวันจันทร์เอง เธอปลอบใจเค้า
"ผมหวังว่านาจะว่างไปกับผมนะ" นารินคิดหนักทันทีก่อนจะวางสายไป เธอจะไปดีหรือเปล่า
เสียงพูดคุยในห้องชงกาแฟทำให้คนเดินเข้าไปหยุดฟัง คุณภัทร์ปิ๊งนารินแน่ๆ แถมนารินยังมีใจอีกด้วย เวลาเค้ามองกันนะแกเอ๋ย มดแทบจะขึ้นตา นารินจ๋าน่าอิจฉาอะไรเบอร์น้าน นารินยืนชะงักก้าวขาไม่ออก
เธอแอบเขินเล็กน้อยแต่กังวลใจมากกว่า คุณภัทร์ไม่ได้พูดอะไรออกไป ก็เหมือนอยากจะให่เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องของเธอกับเค้าเท่านั้นเอง ภัทร์เติมตามเข้าไปหลังจากเห็นเธอลุกเข้าไป เค้าได้ยินแล้วก็ขำน้อยๆ เค้าตาหวานขนาดนั้นเลยหรอ นารินเงยหน้ามองคนข้างๆที่เดินมายืนคู่กับเธอ เค้าลูบผมเธอเบาๆ นารินรู้แล้วว่า
หน้าแดงถึงขีดสุดมันเป็นยังไงก็วันนี้นี่เอง