ค่ำคืนที่ยาวนานเรจีน่าหลับ ๆ ตื่น ๆ เธอตื่นเต้นที่พรุ่งนี้ชานส์จะได้กลับบ้าน เธอพลิกตัวหลายรอบกว่าจะหลับเกือบตีหนึ่งเข้าไปแล้ว แต่ขณะที่เธอกำลังเคลิ้มหลับมีเสียงดังกุกกักจากข้างนอก
‘เสียงอะไร’
เธอลุกขึ้นนั่ง "เปิดไฟระดับหนึ่ง" ภายในห้องสว่างขึ้นมาหน่อยเธอมองรอบห้องแต่ไม่เห็นอะไร เธอคงตื่นเต้นมากเกินไปจนคิดเตลิดไปหมด อย่างนั้นเธอกลับไม่ปิดไฟ เปิดเอาไว้ก็ดีเหมือนกันเธอล้มตัวลงนอนก่อนหลับไป
เช้าอากาศที่สดใสสิ่งดี ๆ ย่อมเข้ามาในชีวิต ชานส์กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า หมออนุญาตให้เขากลับบ้านได้แต่อย่าทำอะไรหักโหมเกินไป และต้องมาที่โรงพยาบาลอีกสองถึงสามครั้งเพื่อคอยเช็คอาการ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ครับ” ชานส์เก็บของใส่กระเป๋าเกือบเสร็จแล้วโคจิม่าเดินเข้ามา
“ไงพ่อหนุ่ม เราจะไปกันรึยัง”
“ครับ”
“เรจีน่าคงเตรียมอะไรต่อมิอะไรไว้เยอะเลย”
ทั้งคู่ลงไปจ่ายเงิน แล้วไปที่รถลีมูซีนที่จอดรออยู่ ระหว่างทางพวกเขาคุยเรื่องอาการป่วยและเรื่องที่เกิดขึ้นที่สำนักงานเอฟบีไอ
“หาสาเหตุได้รึยังครับ”
โคจิม่าส่ายหน้า "ยังไม่มีเบาะแสเจ้าหน้าที่ไม่พบเจออะไรที่บ่งบอกว่ามีคนบุกรุกเข้ามา หม้อแปลงไฟที่ระเบิดไม่มีใครไปยุ่งกับมันเลยเหมือน...ระเบิดขึ้นมาเอง ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องตรวจ"
ชานส์พยักหน้า เขาไม่ได้เล่าให้ใครฟังว่าเขาเห็นใครอีกคนอยู่ที่สำนักงานด้วยพูดไปได้หาว่าเป็นบ้าแน่ 'เงียบไว้ดีกว่า'
"เอาเถอะพักเรื่องนี้ไว้ก่อนหลังกลับไปถึงบ้านสงสัยต้องจัดงานเลี้ยงหน่อยซะแล้ว"
"เว่อร์จัง พ่อล่ะครับ"
"พ่อกลับไปที่สำนักงานเอฟบีไอแล้ว มีหลายอย่างต้องทำน่ะหลังฉันส่งที่บ้านก็ต้องกลับเลยเหมือนกัน ขอโทษนะที่ได้อยู่กินข้าวเย็นด้วย เฮ้อชักอิจฉาแล้วสิ"
"พี่ก็มีพี่ทันย่าหนิ จะแต่งเมื่อไหร่"
"คงดู ๆ กันไปก่อน ฉันเป็นเอฟบีไอนะอย่าลืม เดิมทีพวกเราไม่อนุญาตให้มีครอบครัวอยู่แล้ว ทันย่าเองก็เข้าใจจุดนี้อยู่เหมือนกัน"
ทั้งคู่มาถึงตอนบ่าย ๆ ของวัน พอเข้าไปในบ้านเรจีน่าโผเข้ากอดชานส์ทันทีเธอซุกใบหน้ากับซอกคอชานส์
"กลับมาครับ"
งานเลี้ยงเล็ก ๆ จัดขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะของหนุ่มสาวสองคู่ สุดท้ายโคจิม่าก็ไม่ได้ไปทำงานทันย่าหว่านล้อมให้เขาอยู่ที่ได้สำเร็จ สร้างเสียงหัวเราะให้ชานส์กับเรจีน่า ไม่คิดว่าพี่ชายผู้สุขุมเยือกเย็นจะใจอ่อนกับผู้หญิงที่รักได้ขนาดนี้
“พรุ่งนี้คุณต้องชดเชยให้ผมเป็นสองเท่า” โคจิม่าจับปอยผมทัดหูทันย่า
“แหมน้องเขยอุตส่าห์หายดีแล้วแต่คุณไม่อยู่เป็นเพื่อนเขาเนี่ยนะ”
โคจิม่ายิ้มกับคำกล่าวหาของหล่อน เรจีน่าถามเสียงอ่อยเพราะเหตุนี้โคจิม่าเลยไปได้ไปเข้าเวรแทนเพื่อน
“แล้วจะมีปัญหาหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอกโชคดีที่เพื่อนที่ขอลากลับมาทำงาน พี่เลยขอหยุดแทน”
“เห็นไหมไม่งั้นคุณได้ไปฟรีแน่” ทันย่าตีแขนเขาเบา ๆ
“นี่ก็ดึกแล้วพวกพี่พักที่นี่ก่อนพรุ่งนี้ค่อยกลับก็ได้”
“อืม” โคจิม่าหาววอด “ชักง่วงแล้วแหะ” เขาลุกขึ้น “มาเถอะเก็บถ้วยชามจะได้เข้านอนกัน”
หลังเก็บถ้วยชามอาบน้ำกันแล้ว เรจีน่านั่งหวีผมอยู่ในห้องนอนเธอมองหน้าท้องกระจก ท้องเริ่มโตขึ้นทุกวันเธอลูบเบา ๆ กล่อมลูกน้อยทุกครั้งที่เธอมีเรื่องกวนใจ
“คุณพ่อกลับมาบ้านแล้ว ได้เวลาอยู่ด้วยกันเสียที”
ชานส์ออกมาจากห้องน้ำเขามองเธอเดินมาหาก้มลงจูบผมสลวย
“โอเคไหม”
“ค่ะแค่นึกถึงวันเก่า ๆ...”
“คิดมากน่า...ผมอยู่นี่ มาเถอะ”
เรจีน่าลุกตามแรงจูงของคนรักไปที่เตียง เรจีน่ามักนอนหนุนแขนเขาเวลาเขาอยู่ด้วย ชานส์ลูบท้องนูนของเธอกล่าวราตรีสวัสดิ์กับลูกน้อย
“อยากเจอเจ้าตัวเล็กแล้วจัง” ชานส์พูดกับหน้าท้องเธอ
“อีกตั้งเจ็ดเดือนแหนะ คุณทนไม่ไหวแล้วฉันจะไหวเหรอ”
“อืม..ผมอยากเห็นเขาไว ๆ หนิ”
เรจีน่าหัวเราะเข้าหาอ้อมกอดของสามีก่อนเข้านิทรา
เช้าวันใหม่เสียงนกน้อยร้องเจี๊ยวจ๊าวต้อนรับแสงตะวัน แสงแดดส่องเข้าหน้าของเรจีน่า เธอกระพริบตาตื่นก่อนมองไปที่ชานส์ เธอเอื้อมมือลูบไล้ใบหน้าคมเข้ม เธอไม่ได้ฝันเมื่อคืนชานส์อยู่กับเธออยู่บ้านของเรา เธอขยับเขาใกล้เขารับไออุ่นจากตัวเขาอยากนอนอยู่อย่างนี้ตลอดไป
ทันย่าเคาะประตูเรียกทั้งสองแต่ไม่มีเสียงตอบรับเธอค่อย ๆ เปิดประตู หล่อนยิ้มกับภาพตรงหน้าทั้งคู่นอนกอดกันแน่นแสงแดดอุ่นทำให้ห้องนี้ไม่หนาว หล่อนไม่รู้ว่าโคจิม่าเดินมาข้างหลังเขากอดเธอจากข้างหลัง
“ปล่อยพวกเขาหลับเถอะ ทั้งคู่เจอเรื่องยุ่งมาพอแล้ว”
“สงบอีกวันละนะ” หล่อนหันไปหอมแก้มเขา ทันย่าเขียนจดหมายวางไว้บนโต๊ะห้องอาหาร พวกเขาต้องรีบกลับ โคจิม่ามีงานอีกมากต้องเคลียร์ให้ เสร็จแล้วชานส์เองก็ดูดีมากขึ้นแล้วคงไม่มีอะไรต้องห่วงมากแล้ว
ช่วงสายชานส์พาเรจีน่าไปเที่ยวในตัวเมือง พวกเขาแวะห้างร้านดูของต่าง ๆ เขาได้วันหยุดเพิ่มหลังจากผ่าตัด วันนี้ชานส์สวมบทเป็นสารถีพาเธอไปเที่ยวรอบ ๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่พวกเขาได้เที่ยว ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันก่อนกลับทั้งคู่แวะพักที่ร้านอาหารดีจี-เกรดที่เขาเคยทำงาน เพื่อนในร้านวางเดิมพันว่าเด็กเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายบ้างก็บอกว่าได้ลูกแฝดพร้อมเสียงยินดีให้กับทั้งคู่
“วันนี้สนุกดีนะว่าไหม”
เรจีน่ายิ้มไม่หุบตั้งแต่กลับมาจากร้าน เธอมีความสุขมากที่ได้ไปเที่ยวแม้จะไม่ได้ไปนอกเมืองแต่แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเธอแล้ว
“งั้นเหรอคุณมากกว่ามั้งที่สนุกกว่าใครเพื่อน”
“อะคุณบอกเองว่าวันนี้จะตามใจฉันทุกอย่างนี้” เธอรอชานส์มาเปิดประตูให้
ชานส์เปิดประตูให้รอจนเธอลงมา เขาล๊อกประตูรถแล้วอุ้มเธอพาไปหน้าประตู
“ชานส์!”
“หืม” เขาขานรับพร้อมยิ้ม
“คนบ้าคนมองอยู่นะ”
“กลัวเรอะ”
แทนที่เรจีน่าจะโมโหเธอกลับหัวเราะเธอไขกุญแจเมื่อชานส์ปล่อยเธอลงหน้าประตูบ้าน
“สวีทกันจังนะ” เสียงของแขกผู้มาเยือนรายใหม่ทั้งคู่หันไปมอง
“เดวิดคิดถึงคุณจัง”
เดวิดเดินมาหา “คราวหน้าพาผมไปเที่ยวสิจะได้หายกัน” เขาดูอิดโรยนิดหน่อย ชานส์ได้วันหยุดยาว เดวิดเลยต้องเข้างานแทนมากหน่อย
“เห็นคุณแบบนี้ผมรู้สึกผิดจัง”
“คุณกลับไปทำงานเมื่อไหร่ชดเชยให้ละกัน”
ชานส์หัวเราะจู่ ๆ เขาก็มองฝั่งตรงข้ามนิ่ง
“มีอะไร” เดวิดมองตาม
“ตาฟาดหน่ะเหมือนเห็นอะไร...สักอย่าง”
‘คิดมากไป ๆ’
“เข้ามาก่อนสิคะเดวิด” เรจีน่าเอ่ยชวน “เดาว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรมา”
“ผมทานมาแล้วแต่ กาแฟสักแก้วคงดี”
ชานส์หลีกทางให้เพื่อนคู่หูเดินเข้ามาก่อนปิดประตูบ้าน
“สถานนีเป็นไงบ้าง”
“วุ่นวายกว่าเดิมแต่ว่างขึ้นเยอะ”
“หืม”
“สองพ่อลูกโฮแม็กกี้ยืนยันว่าอยากคลีคลายคดีฆาตกรรมที่บ้านพักประธานธิบดีเอง เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เลยว่าง”
“ฟังดูมีความสุขดีนะ” ชานส์รับกาแฟที่เรจีน่าชงให้
“อืมฮึ” เดวิดรับกาแฟจากเธอ “ขอบคุณครับ”
“แล้ว...”
“กลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ลาหยุดเกือบหมด คนไม่พอทำงาน คนที่ไม่ได้หยุดเลยทำงานเป็นสองเท่า”
หมายความว่าเดวิดไม่เพียงทำหน้าที่แทนชานส์แต่ทำแทนคนอื่นด้วย
“คุณพักที่นี่เถอะพรุ่งนี้ผมก็ไปทำงานแล้วค่อยไปพร้อมผมแล้วกัน”
เดวิดพยักหน้าเอื่อย ๆ หลังดื่มกาแฟเสร็จเรจีน่าบังคับให้เดวิดขึ้นไปนอนห้องข้าง ๆ และให้อยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าตัวจะดีขึ้น
“รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้” เขาช่วยเรจีน่าล้างจากในห้องครัว
“พรุ่งนี้คุณก็ไปทำงานแล้ว”
“ผมต้องทำงานเป็นสองเท่าแล้วสิ” เขาหอมแก้มเธอ “ต้องชดเชยเวลาให้เขาหน่อย”
เรจีน่าเตรียมอาหารเย็นไว้เยอะเธอบอกว่าโคจิม่ากับทันย่าจะมาหา
‘ครึกครื้นแน่วันนี้’
ชานส์ยิ้มในใจเดี๋ยวนี้บ้านเขาชักเสียงดังขึ้นทุกวันเขาจำที่ทันย่าพูด
“ก็ดีไม่ใช่เหรอเธอจะได้ชินตอนเจ้าตัวเล็กออกมา”
“เกินไปมั้ง” ชานส์เคาะปร ะตูห้องนอนที่เดวิดพักอยู่ “ผมเข้าไปนะ”
เขาเห็นเดวิดนั่งนวดขมับ “ปวดหัวเหรอ”
“นิดหน่อยหลับ ๆ ตื่น ๆ น่ะ” เดวิดนวดเปลือกตา “กี่โมงแล้ว”
“หกโมงเย็นแล้วมาเร็วกินข้าวเย็นกัน” ชานส์ลากเดวิดออกมาจากห้อง
“ขอล้างหน้าก่อน” เดวิดจับขอบประตูห้อง
“ล้างข้างล่างก็ได้ มาเร็ว” ชานส์ลากเดวิดลงไปข้างล่าง
“ตายแล้ว! ทำไมทำกับแขกแบบนี้ล่ะ” ทันย่าโวยเมื่อเห็นชานส์ลากเพื่อนที่เหมือนคนป่วยลงมา
“เดวิดนี่ไม่สบายเหรอ” โคจิม่าเข้ามาช่วยประคอง
“ปวดหัวน่ะฮะ”
ทันย่าส่ายหน้า “พรุ่งนี้ทำงานหรือเปล่า”
เดวิดพยักหน้า “ไม่มีคนเข้าเวรน่ะครับ”
“พักที่บ้านชานส์ก่อนเถอะไว้อาการดีขึ้นค่อยไปทำงานแล้วกัน”
“ครับ”
ที่ส่วนกลางบ้านหลังใหญ่ของนายท่าน นายหญิงสาวสวยงดงาม ราวกับหลุดมาจากในเทพนิยาย ร่างโคลนของนายท่านมองหล่อนต้องการในตัวหล่อนนับวันยิ่งมากขึ้น น่าเสียดายที่หล่อนเป็นของนายท่าน เขาคิดขณะที่มองดูเธอนั่งถักไหมพรมที่ห้องนั่งเล่นในบ้านอันหรูหราของนายท่าน เขาต้องการเธอเหนือสิ่งอื่นใด แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นเท่ากับว่าเขาเป็นเพียงตัวแทนของเธอ แทนชายที่เธอรักที่กำลังพักผ่อนร่างกายอยู่ในห้องใต้ดิน เขาคิดอย่างมุ่งมั่นจะทำเช่นไรเพื่อให้ได้เธอ สิ่งเดียวที่จะให้เธอเป็นของเขามีอย่างเดียว ตัดไฟแต่ต้นลม เสียงของลูกชายทั้งสามของเธอดังเข้ามาในห้วงความคิดเขา ถ้าอย่างนั้นก็ต้องตัดสายสัมพันธ์สุดท้ายให้ขาดเขาก็จะได้เธอมา...
ขณะที่ร่างโคลนคิดการใหญ่ นายท่านที่ทนกับการรอคอยที่ได้จะออกมาจากดักแด้สีแดงเลือด..ขึ้นอยู่กับเวลาว่าร่างกายเขาพร้อมเมื่อไหร่ ร่างโคลนอีกคนของเขาอยู่ในห้องใต้ดินมองดูพวกลูก ๆ ของนายท่านเล่นกันถ้าเป็นคนทั่วไปคงน่าสยองที่มีตัวประหลาดมาเล่นอยู่ในบ้านแต่ไม่ใช่กับที่นี่
“ไปพักเถอะนายเหนื่อยมากแล้ว”
ร่างโคลนนั่งยืดแข้งยืดขาสบาย ๆ “ไม่ต้องห่วงน่าฉันไม่อ่อนแอขนาดนั้นหรอก นายต่างหากว่าไงเรื่องเจ้านั้นจะเอาไงกับมัน”
“ฉันคิดได้แล้วแต่อยากรอดูให้แน่ใจกว่านี้”
ร่างโคลนพยักหน้าเจ้าตัวเล็กสามตัววิ่งมาทางเขา เขาหยิบพวกมันมาวางไว้บนตัก...เด็กยังไงก็เป็นเด็ก เจ้าพวกตัวเล็กไต่ไปตามตัวร่างโคลนเขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะรำคาญหรือรังเกียจเล่นกับพวกมันซะด้วยซ้ำ
พวกเขาคุยกันสักพักกระทั้งมีเสียงฝีเท้าตามทางเดิน
“ฉันไปก่อนละกันไว้จะมาใหม่”
“ดูแลตัวเองด้วย”
ร่างโคลนเดินออกมาจากห้องนั้นพอดีกับที่สวนกับผู้มาใหม่พอดี ถึงจะเป็นร่างโคลนเหมือนกันแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องถูกกันเสมอไป นายท่านสร้างขึ้นมาสี่คนตอนนี้เหลือแค่สามคือเขา ตัวแทนนายท่าน และอีกคนที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ในบรรดาเขาไม่ชอบตัวแทนนายท่านที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เป็นตัวแทนแล้วยังไงแต่ความคิดไม่เหมือนนายท่านหนิ เอาเถอะทำตามที่เขาต้องการรอดูเจ้าตัวแทนนี้ไปก่อนถ้ามีอะไรเกิดขึ้นค่อยฆ่าทิ้งก็เท่านั้น
ร่างโคลนเดินจากไปตัวแทนเข้ามาในห้องนั้นแทน
“มีอะไร”
“ลอร์ดแดร็กคิวล่ามีเรื่องจะคุยกับนาย”
น้ำเสียงชั่งเป็นมิตรจริง ๆ “ไม่พอใจเรอะ”
“ฉันเป็นตัวแทนนายแต่กลับไม่ได้ฟังเรื่องที่พวกนายจะคุยกันงั้นเรอะ”
“นี่เป็นเรื่องธุรกิจความคิดฉันกับนายไม่เหมือนกัน ลอร์ดแดร็กคิวล่าคงอยากคุยกับฉันส่วนตัว”
ประตูค่อยๆเปิด...
“มาแล้วเหรอ...ลอร์ดแดร็กคิวล่า”
“สายันต์สวัสดิ์นายท่าน”