สูตรเร่งรัก 9
เขินทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่คราม
“สั่งข้าวเลย ๆ” มีมี่ยื่นเมนูของร้านมาให้ดู เมื่อเลือกได้ก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร แต่ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่นั้นก็มีเพื่อนร่วมคลาสเดินเข้ามานั่งด้วย ฉันมองเพื่อนเลิกลักไปหมดเมื่อเห็นหน้าชัด ๆ ถึงได้เบาใจและนิ่งเหมือนเดิม
“ลืมบอกฉันชวนบาสมากินข้าวด้วย” มุกดารีบบอกเมื่อนึกขึ้นได้ ฉันก็ไม่ได้อะไรหรอกนะก็เพื่อนกันหมดมากินข้าวด้วยกันก็ไม่เป็นไร แต่เพื่อนที่มากลับเลือกที่จะนั่งข้าง ๆ ฉันนี่สิ แล้วทำไมต้องลอบมองฉันบ่อยครั้งแบบนี้
“มีอะไรหรือเปล่า” เอ่ยถามบาสด้วยความสงสัยเพราะอีกฝ่ายมองบ่อยจนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
“อ้อ ไม่มีเราแค่ยังไม่เคยเจอใกล้ ๆ น่ะ” บาสส่งยิ้มให้เล็กน้อยพร้อมกับหลบสายตา ฉันพยักหน้าเข้าใจไม่ได้เซ้าซี้เพื่อนต่อ กระทั่งอาหารมาเสิร์ฟแน่นอนว่าเพื่อนสายถ่ายรูปอย่างมุกดาและกริมจะต้องถ่ายรูปทั้งอาหารและรูปเราจนพอใจถึงได้เริ่มลงมือกินข้าวพร้อมกัน
“พรุ่งนี้นัดทำงานกันที่ไหนเหรอ?” นั่งไปสักพักบาสที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ถามฉันเสียงเบา
“น่าจะใต้ถุนอาคารเรียนนะ มุกดานัดที่ไหนล่ะ” ถามเพื่อนกลับไปอย่างไม่คิดอะไรมาก
“น่าจะที่เดียวกันนั่นแหละ”
“อื้อ มานั่งทำด้วยกันก็ได้นะ”
“ขอบใจนะ” บาสมองฉันยิ้ม ๆ
“ไม่เป็นไร เพื่อนกัน”
ตอบกลับอย่างไม่คิดอะไร รวมถึงกินข้าวและพูดคุยกับเพื่อนไปเรื่อย ๆ จนกินข้าวอิ่ม ฉันซื้อข้าวใส่กล่องกลับบ้านด้วยเลยเพราะพรุ่งนี้นัดเพื่อนไว้เที่ยงตรงมื้อเช้าเลยตั้งใจจะกินที่ห้องโดยการอุ่นกิน คิดว่ายังโอเคล่ะนะถ้าอุ่นกับข้าวคงไม่ชืดมาก
กลับถึงห้องก็รีบโทรหาที่บ้าน ฉันเลือกที่จะโทรหาพี่หวานใจเพราะในเวลานี้พ่อกับแม่มักจะไปจับโทรศัพท์ เมื่อรับสายก็พบว่าทั้งพ่อแม่และพี่หวานนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นด้วยกัน เราพูดคุยกันอยู่นานเกือบสามสิบนาทีก่อนจะวางสายเพื่ออาบน้ำแล้วออกมานั่งอ่านงานวิทยานิพนธ์ที่ยืมมาจากห้องสมุด เกือบสี่ทุ่มฉันถึงได้กดเข้าช่องแชทของพี่ครามที่มีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านอยู่เกือบหกข้อความ
Far-Kham
Far-Kham
Sent a photo
คนข้าง ๆ ใคร?
ทำไมเขามองแบบนั้น
จีบ?
RAK-THER
ไม่ใช่
นั่นเพื่อนที่ต้องทำงานคู่กับมุกดา
Far-Kham is calling you
“พี่กินข้าวหรือยัง?” ยังไม่ทันจะได้พิมพ์ข้อความตอบกลับเขาเสร็จ พี่คราวมก็โทรเข้ามาคล้ายกับรอจังหวะที่ฉันว่างแล้วตอบข้อความของเขา และเมื่อรับสายต้องรีบเอ่ยถามอีกฝ่ายเพื่อเบี่ยงประเด็นที่เขาถามมาก่อน แค่ข้อความยังรู้เลยว่าเขากำลังหงุดหงิดน่ะ
(กินแล้ว ไม่ต้องมาเลี่ยงที่ถามไปเลย) พี่ครามเอ่ยดักอย่างรู้ทัน
“ไม่ได้เลี่ยงสักหน่อย” ฉันวางโทรศัพท์ไว้กับที่วาง เพื่อที่จะไม่ต้องถือโทรศัพท์ พี่ครามเองก็ทำเช่นเดียวกันเพราะต้องวิดีโอคอลกับอีกฝ่ายบ่อย ๆ เลยซื้อมาติดห้องไว้ ขี้เกียจถือนั่นแหละ
(งั้นเขาเป็นไง)
“เพื่อนใครคลาสค่ะ ทำงานคู่กับมุกดาวันนี้เจอที่ร้านอาหารมุกดาเลยชวนมากินข้าวด้วยกัน” รีบอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
(เขาจีบหรือเปล่า?) พี่ครามถามย้ำอย่างไม่เชื่อ
“ไม่ได้จีบ จะจีบได้ยังไงคะก็เพื่อนกันทั้งนั้น”
(งั้นก็แล้วไป กินข้าวอิ่มไหม?) เมื่อได้คำตอบที่น่าพึงพอใจพี่ครามก็เปลี่ยนเรื่องคุยรวมถึงหันกลับไปมองดูเอกสารบนโต๊ะทำงานเขา
“อิ่มมากค่ะ ซื้อกลับมาห้องด้วยพรุ่งนี้จะเวฟกินตอนเช้า” ระหว่างที่ตอบก็เปิดดูหนังสือตรงหน้าเช่นเดียวกัน
(ไปเรียนตอนเช้าเหรอพรุ่งนี้?)
“ไม่มีเรียนค่ะ แต่นัดทำงานกันน่ะ นัดตอนเที่ยงมื้อเช้าเลยตั้งใจจะกินจากที่บ้านไปเอง”
(อื้อ ดีแล้ว ต้องกินข้าวให้ครบทุกมื้อ)
“รู้แล้วน่า ที่ไร่เป็นยังไงบ้าง”
(วุ่นนิดหน่อยโรงบ่มไวน์เสร็จแล้วน่ะต้องสั่งของและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาลง)
“ว้าว ถ้าเสร็จขอชิมด้วยนะ”
(ได้อยู่แล้ว) พี่ครามยิ้มมุมปากเล็กน้อยยามถูกแซวจากฉัน
“แล้วตลาดพี่ล่ะ”
(แปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว มีคนสนใจมาขายของเยอะเลย)
“จะไม่โดนเจ้าถิ่นตลาดเดิมเขม่นเอาใช่ไหม? ขาใหญ่ด้วยนะนั่น” ถามถึงความปลอดภัยของเขาเอง ก็เจ้าของตลาดคนก่อนคือคนมีอิทธิพลในท้องถิ่นเลยนะ กลัวว่าพี่ครามจะโดนเล่นงานหากตลาดเปิดแล้วมีคนสนใจเยอะ
(ไม่หรอก มีเงื่อนไขกับพี่อยู่น่ะ จะกล้าทำอะไรได้ล่ะ)
“โห ผันตัวเป็นเจ้าพ่อเหรอเนี่ย”
(ก็ว่าไป สักช่วงเดือนหน้าพี่อาจจะไปหานะ อยากได้อะไรก็บอกได้พี่จะเอาไปให้)
“มาอีกแล้ว”
(ไปหาไม่ได้เหรอ?) พี่ครามหรี่ตามอง อยากจะเชื่อว่าเขาโกรธที่ถูกถามแบบนั้นหากไม่ติดว่ามุมปากเขานั้นยกยิ้มอย่างสนุกอยู่
“อะไรเล่า”
(แก้มแดงจัง)
“พี่ครามอย่ามาแซวนะ” ร้องบอกอย่างงอแง คนชอบแกล้งหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจและไม่ได้เอ่ยแซวอะไรต่อ
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ไม่คิดจะเอ่ยแซวฉันในตอนนี้
ตั้งแต่กลับไปนี่ขยันแซวให้เขินเหลือเกิน
ชักจะแปลกเกินไปแล้ว
======
มีคนหึงไหมให้ทาย หึงกด 1 หึงมากๆกด 2
เป็นเอ็นดูคู่นี้มาก ยุบยิบหัวใจดีค่ะ เค้าชอบมาก
เรื่องนี้มี *****คแล้วนะคะ ติดตามได้ทาง Meb ค่ะ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Nanaกะหอยทาก
คืนนี้ไม่ได้อัพนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะทุกคน