สูตรเร่งรัก 1

1857 คำ
สูตรเร่งรัก 1 “เธอเอากาแฟไปส่งให้พี่หน่อย” เสียงของพี่สาวสุดแสนจะน่ารักเรียบร้อยของฉันเดินมาบอก ก็สงสัยว่าทำไมไม่โทรมาแดดก็แรงจะเดินมาทำไมก็ไม่รู้ “ทำไมไม่โทรมาคะ แดดมันแรงมากเลยนะ” “พี่ลืม นั่นแหละไปส่งให้พี่หน่อย” พี่สาวฉันเอ่ยบอกพร้อมกับกวักมือเรียก ฉันที่วันนี้รับหน้าที่เฝ้าร้านปุ๋ยให้พ่อก็พยักหน้าตกลงสั่งคนงานที่ร้านไว้ก่อนจะเดินตามพี่สาวไปที่ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ กัน “พี่ครามกับพี่คินคนละแก้วนะ” “โอเคค่ะ” รับคำสั่งพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มที่ถูกจัดใส่ถุงกระดาษเตรียมไปส่งให้กับลูกค้ากิตติมศักดิ์ คนอื่นไม่มีหรอกบริการส่งยกเว้นแต่ลูกชายทั้งสองของบ้านคุณน้าพิลานี่แหละที่สั่งทีไรลำบากฉันต้องไปส่งให้ตลอด แม้จะมีพื้นที่อยู่เพียงข้ามฝั่งถนนแต่สำนักงานไร่จริง ๆ ของลูกค้าทั้งสองต้องขับรถไปอีกเกือบสองกิโลเมตรเลยก็ว่าได้ และรอบ ๆ ทางเข้าจะเป็นสวนส้มและสวนองุ่น ลึกสุดคือส่วนของสำนักงานห้องพักต่าง ๆ ของที่ไร่เขานั่นแหละ ไม่ต่างจากฝั่งฉันที่ด้านหนึ่งเป็นร้านอาหารที่วิวด้านหลังมองเห็นภูเขาสูงและมีวิวที่สวยจนติดร้านรีวิวหากมาเที่ยวแถวนี้ต้องแวะมาฝากท้อง และอีกร้านที่ฉันนั่งอยู่ก่อนหน้านี้คือร้านขายอุปกรณ์การเกษตร มีทั้งเมล็ดพันธุ์ผัก ปุ๋ยหรืออุปกรณ์การเกษตร หลังร้านจะเป็นที่พักคนงาน ลึกถัดไปจะแยกโซนชัดเจนด้วยกำแพงไม้สีขาวส่วนนั้นถึงจะเป็นบ้านฉัน รถเอทีวีสีน้ำเงินคู่ใจถูกเปิดเครื่องใช้งาน ฉันขึ้นคร่อมเบาะรถออกเดินทางไปยังไร่ฝั่งตรงข้ามด้วยความคุ้นเคย แต่กว่าจะไปถึงไม่รู้ว่ากาแฟที่ลูกค้าสั่งจะยังอยู่ดีไหมนะ เพราะเส้นทางจากหน้าไร่เข้าไปเป็นถนนคอนกรีตที่ต่อด้วยทางหินคลุกยาวไปจนถึงส่วนของสำนักงาน ระหว่างที่ขับรถและมองดูวิวรอบ ๆ อยู่นั้นสายตาก็เหลือบเห็นคนตัวสูงที่รู้จักเป็นอย่างดี และวันนี้ก็ไม่แปลกที่จะเห็นเขาสวมเสื้อแถมจากยอดซื้อปุ๋ยจากร้านฉัน “พี่คิน! เอากาแฟมาส่ง” จอดรถที่ริมถนนฝั่งไร่องุ่นพร้อมกับตะโกนเรียกคนที่ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่กับรากต้นองุ่น ใกล้ ๆ เขานั้นมีคนงานสองสามคนยืนอยู่เช่นเดียวกัน “แป๊บหนึ่ง!” พี่ภาคินตะโกนกลับมาก่อนจะคุยงานกับคนงานเจ้าตัวต่อสักพัก สงสัยใช่ไหมว่าเขาคือใคร เขาคือลูกชายคนที่สองของคุณน้าพิลายังไงล่ะ เราสองครอบครัวสนิทกันมาก ทั้งไปเที่ยว ไปกินข้าว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็มักจะทำด้วยกันเป็นผลจากที่พ่อและแม่ของเราเป็นเพื่อนสนิทกันพอมีลูกก็เลยให้ลูกเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อายุน้อย ๆ กว่าพี่ ๆ อยู่มาก ในกลุ่มเราคนที่อายุเยอะสุดคือพี่ฟ้าคราม ถัดลงมาเป็นพี่ภาคินและพี่สาวของฉันอย่างพี่หวานใจที่อายุน้อยกว่าพี่คินหนึ่งปี และฉันอายุน้อยที่สุด แต่ฉันน่ะไม่ได้ถูกตามใจเพราะอายุน้อยที่สุดหรอกนะเพราะคนที่เป็นที่สนใจและถูกกอดโอ๋มากที่สุดคือพี่หวานใจ รายนั้นทั้งอ่อนหวาน เรียบร้อย พูดเพราะซึ่งตรงข้ามกับฉันทุกอย่างเลยล่ะ อ๊ะ ๆ อย่าคิดว่าเราสองพี่น้องไม่รักกันนะคะ เพราะเราน่ะรักกันมากฉันน่ะติดจะห่วงพี่หวานใจด้วยซ้ำเพราะกลัวจะถูกหลอกถูกแกล้ง ดังนั้นฉันต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องพี่สาวตัวเองยังไงล่ะ “จะไปไหนต่อ” พี่ภาคินเดินมาหยุดข้าง ๆ มือข้างหนึ่งยื่นมารับแก้วกาแฟจากฉันไป ละลายไปครึ่งแก้วแล้วกว่าจะส่งอีกแก้วคงจืดสนิทแล้วล่ะ “ไปส่งพี่ครามต่อ” “ไปด้วย ๆ” พี่ภาคินบอกพร้อมกับดูดกาแฟอีกสองอึก เป็นสองอึกที่ทำให้กาแฟหมดแล้ว เหลือจะเชื่อกับเขาเลย และฉันไม่ยอมให้พี่คินขับเลยไล่ให้อีกฝ่ายนั่งซ้อนฉันแทน “ไม่ต้องขับเร็ว...ไอ้เธอ!!” เสียงร้องโวยวายดังจากด้านหลังนั้นไม่ได้ทำให้ฉันสนใจเท่ากับการบิดคันเร่งไปตามท้องถนนที่แสนจะขรุขระ ใช้เวลาไม่นานก็ขับมาจอดที่ใต้ร่มมะม่วงหน้าสำนักงานของไร่ เสียงเบรกล้อรถบดกับหินคลุกจะเกิดเสียงดัง คนงานที่อยู่รอบ ๆ เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ อา ฉันเบรกแรงเกินไปเหรอเนี่ย “โอ๊ย! ไอ้เธอ!! ไข่พี่ชาหมดแล้วเนี่ย ทำไมถึงขับเร็วแบบนี้ หลุมก็ไม่ยอมหลบ ไม่รู้ไข่หรือขาชากว่ากันแล้ว” พี่ภาคินบ่นจริงจังพร้อมกับเดินไปนั่งที่ม้านั่งหินอ่อนไม่ไกลจากจุดที่ฉันจอดรถอยู่ “ขับเร็วเกินไปแล้วนะเธอ” ยังไม่ทันจะก้าวลงจากรถเสียงดุ ๆ ของใครบางคนก็ดังขึ้นที่หน้าประตูสำนักงานไร่ วันนี้ร่างสูงสวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีน แปลกตาจังปกติจะเห็นใส่แค่เสื้อแถมปุ๋ย “น้ำแข็งจะละลายไงคะ” ตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไร มือก็หยิบถุงที่ใส่กาแฟยื่นให้พี่ฟ้าคราม “ทีหลังขับช้ากว่านี้หน่อย” เนี่ย เขาน่ะ ชอบดุฉันจนบางทีฉันก็ไม่อยากจะคุยกับเขาเหมือนกัน ลองเป็นพี่หวานใจสิ ไม่มีหรอกจะดุ “ค่ะ ค่ากาแฟ สองร้อย” “ฮะ? ทำไมแพงจัง” พี่ภาคินเอ่ยทวนถามและยังไม่ยอมจ่ายค่าเครื่องดื่ม “กาแฟแก้วละหกสิบค่ะ สองแก้วหนึ่งร้อยยี่สิบ อีกแปดสิบค่ารถที่พี่นั่งมา” ฉันชี้แจงรายละเอียด “โห กับพี่กับเชื้อนะไอ้เธอ” “ช่วงนี้ต้องเก็บเงินค่ะ จ่ายมาเลย หนูจะกลับร้านแล้ว” พี่มอเตอร์ไซค์ไม่ยอมจ่ายคนที่จ่ายต้องเป็นพี่ครามแล้วล่ะ หันกลับไปมองก็พบว่าพี่ครามกำลังมองฉันนิ่ง ๆ ฉันไม่พูดอะไรกับเขาเพียงแค่แบมือไปตรงหน้า พี่ครามถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดและหยิบเงินมาใส่มือให้ฉันสามใบด้วยกัน “ชิมหรือยัง?” พี่ครามทวนถามหลังจากที่ฉันเก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วเรียบร้อย “คะ? อ้อ ยังค่ะ” ได้ยินดังนั้นพี่ครามก็ยื่นแก้วเครื่องดื่มในมือเขามาตรงหน้า ฉันโน้มเข้าไปคาบหลอดแล้วดูดกาแฟจากแก้วเขาหนึ่งอึก ก่อนจะโบกมือลาขับรถกลับร้านแต่ไม่รู้ว่าฉันออกตัวแรงเกินไปหรืออะไรถึงได้มีเสียงพี่ภาคินดังตามหลังมาแบบนั้นก็ไม่รู้ “ไอ้เธอ! พี่บอกให้ขับช้าๆ” “...” “พี่เลี้ยงมันยังไงให้มันเหมือนผู้ชายแบบนี้พี่คราม” ทุกครั้งที่มาส่งกาแฟให้พี่ฟ้าครามฉันมักจะแกล้งเขาโดยการชิมกาแฟเขาหนึ่งอึก ไม่ว่าจะสั่งอะไรก็แล้วแต่ฉันจะชิมก่อนส่งมอบสินค้าให้เขา หากวันไหนลืมเขาก็จะถามอย่างเช่นเมื่อก่อนหน้านี้ยังไงล่ะ “อ้าว ทำไมกลับมาเร็ว” พี่หวานใจเอ่ยถามเมื่อเห็นฉันเปิดประตูร้านเข้าไป ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่มีลูกค้าเข้ามาอยู่ตลอด ยิ่งลูกค้าที่มาจากโรงแรมของครอบครัวพี่ฟ้าครามหรือจะทัวร์ที่มาไร่ของครอบครัวพี่ฟ้าครามทุกคนล้วนแวะเข้ามากินข้าวและกาแฟที่ร้านเรา แทบจะเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจเครือญาติ “หนูร้อน ค่ากาแฟค่ะ” ฉันยื่นเงินให้พี่หวานใจตรงแคชเชียร์จากนั้นก็เดินข้ามมาที่ร้านขายปุ๋ย ตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลยฉันยังนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะกินอะไรเป็นมื้อเที่ยง อากาศร้อนมากจนเริ่มเบื่ออาหาร “นายครับ อาหารวัวสามกระสอบครับ ของลุงยศครับนาย” คนงานที่ทำหน้าที่ขายอาหารสัตว์เดินเข้ามาบอกพร้อมกับลูกค้าเดินตามมาจ่ายเงิน “ลุงยศนั่งก่อนจ้า” เอ่ยบอกกับลูกค้าที่คุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี “อู้ สวยขึ้นนะเนี่ย จีบให้ลูกชายได้ไหม” ลูกค้าเอ่ยชมพร้อมกับอวดลูกชายหนึ่งกรุบ ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างเป็นกันเอง “ขอบคุณจ้ะลุง ลูกชายลุงเขาจะเอาหนูเหรอ นี่บิลจ้ะ” “ชอบสิ มันบอกหนูสวยขนาดนี้” ลุงยศยังไม่ยอมหยุดที่จะขายลูกชาย “เดี๋ยวครั้งหน้าลุงจะให้มันมาซื้อแทนลุงแล้วจะได้คุยกัน...” ลุงยศบอกพร้อมกับหัวเราะเสียงสดใส ต่างจากคนที่กำลังเดินตรงมาทางฉัน ใบหน้านิ่ง ๆ ของเขานั้นคนอื่นคงจะบอกว่าปกติเพราะเขามักจะหน้านิ่งเป็นปกติอยู่แล้ว แต่สำหรับฉัน...ใบหน้าแบบนี้สายตาแบบนี้รับรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังหงุดหงิด แต่หงุดหงิดเรื่องอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันเพิ่งเอากาแฟไปส่งเขาเองนะ ถ้าเขาจะมาร้านอยู่แล้วทำไมต้องให้ฉันเอาไปส่งด้วย แดดมันแรงมากเลยนะร้อนด้วย แม้โซนแคชเชียร์พ่อจะกั้นห้องแล้วติดแอร์ให้มันก็ยังร้อนนี่นา หากเดินไปมาอยู่แบบนี้ แต่ที่จริงส่วนมากฉันไม่ค่อยเปิดแอร์หรอกมันเปลืองไฟ อีกอย่างทั้งลูกน้องทั้งลูกค้ายังอยู่ข้างนอกได้เลยทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้ล่ะ เปิดพัดลมแทนก็พอได้อยู่นะ “พี่มาทำอะไรอะ” ทอนเงินให้ลุงยศเสร็จถึงได้หันกลับมาถามพี่ครามที่เดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ฉันที่หลังเคาน์เตอร์คิดเงิน เขาเข้าออกที่นี่อย่างกับเป็นเจ้าของเลยล่ะนะ ก็คงเหมือนกับฉันและพี่หวานใจที่เข้าออกไร่และสำนักงานไร่เขานั่นแหละ “รอกินข้าว” “อ้าว ที่โรงอาหารพี่ไม่มีเหรอ?” ฝั่งไร่ของพี่ครามจะมีมื้อเที่ยงให้คนงาน ไม่ต่างจากฝั่งฉันที่ตอนเที่ยงคนงานจะได้กินข้าวฟรี ส่วนในตอนเช้าและตอนเย็นต้องดูแลตัวเอง “มีแต่ไม่กิน” พี่ครามตอบเสียงนิ่ง จนฉันเริ่มสงสัยว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ ====== เปิดเจิมตอนแรก มาเด็กซนและหนุ่มคลั่งรักมาเสิร์ฟค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ เบาสมอง ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน ความรักของทั้งคู่ให้เติมโตไปด้วยกันค่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม