“ไปอาบน้ำ!” เสียงที่ดังบอกทำให้หญิงสาวขยับตัว เธอคว้าเอาข้าวของที่เตรียมไว้ระหว่างรอเขาอาบน้ำมาถือก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็กลับออกมาอีกครั้งด้วยสีหน้าลำบากใจ
“คุณวินคะ” หญิงสาวเอ่ยเรียกคนที่เพิ่งจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเสียงแผ่ว รู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ กับสิ่งที่กำลังจะขอร้องให้เขาช่วยขึ้นมา หากไม่จำเป็นจริง ๆ เชื่อเถอะว่าเธอคงไม่มีทางกล้าเสี่ยงที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากเขาแน่ ๆ
“อะไรอีก!”
“ช่วยถอดซิปด้านหลังให้มัทหน่อยได้ไหมคะ มัทเอื้อมไม่ถึง” เพราะชุดแต่งงานแสนสวยที่สวมใส่อยู่เป็นชุดที่ต้องถอดซิปจากด้านหลังถึงจะสามารถถอดมันออกได้ เธอเลยจำเป็นต้องแบกหน้ามาขอร้องให้เขาช่วย และหวังว่าเขาจะเห็นใจกันและช่วยเหลือเธอตามที่ขอ
“เรื่องมากจริง! ถ้าไม่มีปัญญาถอด ก็นอนมันทั้งอย่างนั้นนั่นแหละ” คนเจ้าอารมณ์ว่าก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เขาทำราวกับว่าปัญหาที่เธอกำลังเผชิญอยู่เป็นเรื่องที่เธอต้องหาทางออกด้วยตัวเองไม่มีผิด ขณะที่เธอเองยังอุตส่าห์ผสมน้ำให้เขาได้อาบแท้ ๆ แต่กะอีแค่ช่วยกันแค่นี้เขากลับไม่ยอมทำให้กัน
เห็นแก่ตัวที่สุด! หญิงสาวต่อว่าอยู่ภายในใจก่อนจะสาวเท้ามุ่งหน้าไปที่ประตูห้อง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เปิดมันออกไปด้านนอกเสียงตวาดกลับดังขึ้นเข้าอีกหน
“แล้วนั่นเธอจะออกไปไหนอีก! นี่จำที่คุณแม่สั่งเอาไว้ไม่ได้หรือไงว่าคืนนี้เราสองคนต้องอยู่ในห้องนี้ ห้ามออกไปไหนจนกว่าจะเช้า” กวินภพเอ่ยถามก่อนจะจ้องมองร่างบอบบางที่ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องด้วยสายตาเอาเรื่อง ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้หงุดหงิดไปซะทุกเรื่องเวลาที่เห็นท่าทางหวาดกลัวของมัทนาที่มีต่อตัวเอง เธอเห็นเขาเป็นยักษ์เป็นมารหรือยังไงกัน ถึงได้ทำท่ากลัวกันแบบนี้ทุกทีที่อยู่ใกล้กัน
“มัทจะออกไปหาคนมาช่วยถอดซิปให้ค่ะ” เสียงหวานตอบไปตามความจริง ที่เขาเองก็น่าจะรู้ดีกว่าใครทั้งหมดว่ามันเป็นเพราะความแล้งน้ำใจของเขาที่มีต่อเธอ
“นี่เธอ...”
“ถ้าเกิดคุณวินง่วงก็นอนไปก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวมัทรีบไปรีบกลับค่ะ” มัทนาไม่รอให้อีกคนตะโกนอะไรกลับมาอีกเธอตัดสินใจเอื้อมมือไปจับลูกบิดเอาไว้แน่นและทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่คงจะทำเช่นนั้นแล้วหากต้นแขนไม่ถูกกระชากจากด้านหลังเข้าซะก่อน
“นี่คิดจะยั่วโมโหกันหรือไง! คิดบ้าอะไรถึงได้จะเที่ยวเดินออกไปให้คนอื่นถอดซิปให้” คนพาลตวาดขึ้นอย่างอดไม่ไหว ไม่นานเขาก็จับเธอหันหลังก่อนจะบรรจงรูดซิปให้อย่างเบามือ มัทนารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาเสียเฉย ๆ ยามเมื่อปลายนิ้วของเขาโดนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอเข้า สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้หญิงสาวลืมแม้กระทั่งวิธีหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง เพราะไม่บ่อยนักที่กวินภพจะอ่อนโยนกับเธอ
“เสร็จแล้ว! รีบ ๆ ไปอาบน้ำสักทีจะได้เข้านอน” กวินภพตวาดลั่น ข่มเอาความรู้สึกร้อนรุ่มไว้ในอก เขาเฝ้ารอจนกระทั่งมัทนาเดินหายกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
ลำคอของเขาแห้งผากราวกับคนที่เพิ่งออกไปวิ่งมาก็ไม่ผิด ภาพแผ่นหลังเนียนสะอาดที่ปรากฏตัวลงตรงหน้าเมื่อสักครู่มันยังคงลอยเด่นอยู่ในหัว แม้ว่าเจ้าของจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วก็ตาม
มัทนาขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะกลับออกมาอีกครั้งในสภาพที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด เธอสวมชุดนอนลายหมีแขนยาวสีขาวที่ปิดมิดชิดตั้งแต่ปลายเท้าจรดคอ ก่อนจะสวมทับเข้าอีกทีด้วยเสื้อแขนยาวตัวหนา ที่แค่เพียงสวมใส่ก็เรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี
ภาพที่เห็นสร้างความรู้สึกไม่พอใจจากกวินภพเป็นอย่างมาก นี่หล่อนคิดว่าเขาจะหน้ามืดปล้ำหล่อนเข้าหรือไงถึงได้แต่งตัวปิดมิดตั้งแต่หัวจรดเท้าเอาแบบนั้น ชายหนุ่มได้เพียงแต่คิดโดยไม่พูดอะไรจนกระทั่งหญิงสาวค่อย ๆ เดินตรงเข้ามาใกล้เตียง แต่แทนที่เธอจะล้มตัวลงนอนข้างกันกลับเอื้อมคว้าเอาหมอนที่วางอยู่อีกฝั่งไปถือเอาไว้แทน
“นั่นเธอคิดจะทำอะไร!”
“มัทจะไปนอนที่โซฟาค่ะ” มัทนาบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงออกไป ก่อนเธอจะพบกับใบหน้าที่ดุดันเอาเรื่องมองตอบกลับมาแทบจะทันที
“เธอรังเกียจฉันมากนักหรือไง!” ยิ่งถามความหงุดหงิดไม่พอใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว เธอคิดว่าเขาเป็นสิ่งสกปรกโสโครกหรือยังไงถึงได้ชอบทำท่าหวาดกลัวกันทุกทีที่เจอหน้าเอาแบบนั้นอยู่เรื่อย
“มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ มัทแค่ไม่อยากให้คุณวินรู้สึกอึดอัด อีกอย่างเตียงนี้ก็แคบมาก มันคงจะดีกว่าถ้ามัทไปนอนที่อื่น คุณวินจะได้นอนหลับสบาย” รู้สึกอึดอัดเหมือนอย่างที่เธอกำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้ และมันก็มักจะเกิดขึ้นทุกทีที่ใกล้ชิดกันกับเขา
“ฉันบอกตอนไหนว่าอึดอัด! เธออย่ามาอ้างไปหน่อยเลย แค่ยอมรับความจริงว่าเกลียดฉันมันยากนักหรือไง!” คนอะไรไม่เคยฟังคนอื่นเลยสักครั้ง เขาเอาแต่คิดเองเออเองอยู่เรื่อย เป็นแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากันจนกระทั่งถึงตอนนี้ เวลานี้นิสัยที่ว่าก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนไปเสียที
“มัทไม่ได้เกลียดคุณวินค่ะ แค่คิดก็ไม่เคยเลย คุณวินต่างหากที่เกลียดมัท ถ้ายังไงคุณวินนอนที่นี่ไปเถอะนะคะ มัทจะไปนอนที่โซฟาเอง ว้าย!” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบประโยคคนเอาแต่ใจก็ผุดกายลุกขึ้นนั่งก่อนจะจัดการกระชากเธอจนล้มลงไปนอนบนเตียงด้วยกันกับเขาอย่างแรง แค่เพียงหญิงสาวทำท่าว่าจะขยับหนีอ้อมกอดแน่น ๆ ก็โอบรัดร่างของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วไม่ยอมปล่อยกันง่าย ๆ
“คะ...คุณวิน”
“รู้อะไรไหมมัทนา...ยิ่งฉันรู้ว่าเธอเกลียดหรือว่าไม่ชอบอะไรฉันก็ยิ่งอยากจะทำแบบนั้นกับเธอมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นทำใจซะว่ายังไงคืนนี้เธอต้องนอนร่วมเตียงกับคนที่เธอเกลียดไปจนถึงเช้า แล้วหลังจากพรุ่งนี้ไปฉันจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเธออีกเลย เราสองคนจะอยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยาก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น หลังจากนั้น...ก็ต่างคนต่างอยู่ไปจนกว่าจะครบกำหนดหนึ่งปีตามที่พินัยกรรมกำหนดจำเอาไว้!” กวินภพกระซิบประโยคร้ายกาจแนบชิบใบหูเล็ก ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปปิดโคมไฟทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ต่างจากมัทนาที่เริ่มจะหายใจไม่สะดวกเข้าไปทุกชั่วขณะที่ต้องนอนตัวแข็งในอ้อมกอดของคนที่ตราหน้าว่าเกลียดเธอตั้งแต่แรกเห็น
แต่ครั้นพอเธอเริ่มขยับอ้อมกอดของคนบ้าอำนาจก็ดูเหมือนจะยิ่งบีบรัดกันมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก ราวกับเขาจะแกล้งกันไม่มีผิด สุดท้ายเมื่อทำอะไรไม่ได้หญิงสาวจึงผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ และพยายามข่มตาจนกระทั่งเผลอหลับไปในที่สุด