กวินภพขับรถคันหรูของตัวเองมาจนถึงผับแห่งหนึ่งตามที่ได้นัดเจอกับคู่ขาของตัวเองเอาไว้ ชายหนุ่มพยายามดับอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองด้วยการใช้น้ำเมาเป็นตัวช่วย โดยมีลิลินคอยบริการให้อยู่ไม่ห่างตัวไปไหน
ทว่าภายในใจของเขากลับเอาแต่คิดเรื่องของผู้หญิงอีกคนไม่ยอมหยุด จนกระทั่งทนต่ออารมณ์บ้า ๆ ของตัวเองไม่ไหวจึงขอตัวมาเข้าห้องน้ำ และโทร.กลับไปที่บ้านเพื่อถามอะไรบางอย่างจากคนที่นั่น
“นี่ฉันเองกวินภพ มัทนากลับถึงบ้านหรือยัง” ยิ่งถามก็ยิ่งหงุดหงิดตัวเองว่าทำไมต้องไปเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคนนั้นด้วย ไม่เข้าใจตัวเองในตอนนี้เอาเสียเลย ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นฝ่ายทิ้งเธอมา แต่ทำไมในใจมันถึงได้ว้าวุ่นชอบกล
“ยังไม่เห็นเลยค่ะคุณวิน แล้วนี่ยัย เอ่อ…คุณมัทไม่ได้อยู่กับคุณวินหรอกเหรอคะ” คำตอบจากสาวใช้ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วหม่นก่อนจะก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองเหมือนคนกำลังใช้ความคิด นี่มันผ่านมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว ป่านนี้เธอควรต้องถึงบ้านแล้ว แต่ทำไมยังไม่ถึงอีก
“ช่างเถอะ แค่นี้นะ” เสียงสบถดังตอบก่อนจะกดวางสายและหมุนตัวเดินกลับเข้าไปหาคู่ขาของตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับใบหน้าที่เคร่งเครียดจนอีกฝ่ายต้องร้องถาม
“เป็นอะไรไปหรือเปล่าคะวิน แล้วนี่ทำไมหายไปนานจังเลยคะ ลินว่าจะไปตามคุณอยู่แล้วเชียว” นางแบบสาวเอ่ยถามพร้อมทั้งทำท่าจะลุกขึ้นเข้าหา ติดตรงที่เสียงของอีกคนดันดังขึ้นมาเสียก่อน
“ขอโทษครับลิน พอดีผมนึกขึ้นมาได้ว่ามีธุระด่วนต้องรีบไปทำ คงต้องขอตัวกลับก่อน เอาไว้ผมจะโทร.หาคุณนะครับ” เขาไม่ตอบอะไรมากนอกจากบอกลากันเพียงสั้น ๆ และเดินจากมา ทิ้งไว้แต่เสียงแหลม ๆ ที่ร้องไล่ตามหลังมาติด ๆ แต่ก็ยังคงดังไม่มากพอให้เขาหันกลับไปหาเธออีกครั้งอยู่ดี
กวินภพวกกลับไปยังร้านชุดแต่งงานอีกครั้งแต่ก็ไม่เห็นคนที่เขาทิ้งเอาไว้ก่อนหน้า ชายหนุ่มจึงตัดสินใจขับรถกลับบ้าน และไม่ลืมที่จะพยายามสอดส่องสายตาเพื่อมองหาใครบางคนไปด้วยระหว่างทาง จนเมื่อถึงซอยทางเข้าบ้านภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นจากใครก็ปรากฏต่อสายตาของเขาเข้า
“มัทนาขึ้นรถ!”
เสียงที่ดังออกมาจากรถที่จู่ ๆ ก็ขับเข้ามาประชิดตัว ทำให้คนที่ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเดินมุ่งหน้ากลับบ้านต้องรีบหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว ก่อนดวงตาที่สั่นไหวจากการร้องไห้มาตลอดการเดินทางจะเบิกกว้างขึ้น เมื่อได้เห็นเจ้าของเสียงที่ว่ากับตา
“คุณวิน” มัทนาครางชื่อของคนที่กำลังเดินลงมาจากรถพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาหาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองสักเท่าไรว่าจะเป็นเขาที่หวนกลับมาหากัน
คนที่ทิ้งเธอเอาไว้ตอนนี้กำลังเดินเข้ามาหา พร้อมสีหน้าที่ไม่บอกก็รู้ ว่าเขาคงกำลังโกรธ และไม่พอใจกับอะไรบางอย่างอยู่
“นี่เธอทำบ้าอะไรของเธอห๊ะ! ทำไมไม่เรียกแท็กซี่กลับ” นี่หล่อนหลุดมาจากยุคไหนกัน หรือโง่งมจนไม่รู้แม้กระทั่งวิธีเรียกแท็กซี่กลับบ้านเลยต้องเดินเท้ากลับเอาแบบนี้
“มัทพยายามเรียกแล้วนะคะ แต่มันดึกมากแล้วก็เลยไม่มีคันไหนยอมจอดรับเลยสักคัน อีกอย่างมัทก็ไม่มีเงินติดตัวด้วย มัทก็เลย...” มัทนาบอกไปตามความจริงที่เธอพยายามมาตลอดทางแต่ก็ไม่สำเร็จ มันคงเป็นโชคดีของเธออยู่ไม่น้อยที่ร้านชุดที่เขาทิ้งเธอไว้อยู่ไม่ไกลจากทางเดินกลับไปยังบ้านมลทนาพรเท่าไร
“ช่างเถอะ รีบไปขึ้นรถสิ”
น้ำเสียงที่อ่อนลงทำให้หญิงสาวพยักหน้ารับช้า ๆ ก่อนจะเดินตามแผ่นหลังของกวินภพ ไปที่รถของเขาโดยไม่พูดอะไรต่อ
ท่ามกลางความเงียบที่น่าอึดอัดค่อย ๆ ผ่านพ้นอย่างเชื่องช้าจนผิดสังเกต กวินภพที่ทำท่าจะเอ่ยปากชวนคนข้างกายพูดคุยชะงักไปเมื่อเขาหันมาเจอภาพของใบหน้าอ่อนหวานที่เปื้อนไปด้วยหยาดเหงื่อ กำลังหลับตาพริ้มพิงศีรษะเข้าหาประตู
มัทนากำลังหลับสนิท อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินเท้ามานานร่วมครึ่งชั่วโมงเลยทำให้หญิงสาวเผลอหลับไปทันทีที่รถคันหรูเริ่มเคลื่อนตัวออกไปเบื้องหน้า
“คุณปู่คิดอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้อยากให้เราสองคนแต่งงานกัน” กวินภพเอ่ยถามผู้เป็นปู่ที่ล่วงลับไปแล้วเบา ๆ เขาคิดไม่ออกเลยว่าปู่ของเขาคิดอะไรตอนที่เขียนพินัยกรรมบ้า ๆ นั่นขึ้นมา แต่ที่แน่ ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเขาก็มาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับไปได้แล้วตอนนี้ เพราะไม่ว่ายังไงสุดท้ายเขากับมัทนาก็ต้องแต่งงานกันตามที่พินัยกรรมระบุไว้ อย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ท่านต้องการ เขาก็จะจัดให้ตามที่ท่านขอ!
ชายหนุ่มขับรถมาจนถึงจุดหมายก่อนจะจอดเทียบที่จอดรถด้านหน้าตัวบ้าน พร้อม ๆ กับเอี้ยวตัวหมายจะปลุกแม่คนขี้เซาที่จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังหลับสบายไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียที
“มัทนาตื่น ถึงบ้าน...”
“คุณปู่คะ พี่วินเขาเกลียดมัท เขาเกลียด” ทว่าคำพูดที่เผลอหลุดออกมาจากริมฝีปากสวยทำให้เขาต้องหยุดชะงัก แต่ไม่นานก็เปลี่ยนจากเสียงเรียก เป็นการเขย่าตัวของอีกฝ่ายแรง ๆ
“ตื่นเสียที! คิดจะนอนเฝ้ารถให้ฉันไปทั้งคืนเลยหรือยังไง” ครั้งนี้ได้ผลชะงัดเมื่อหญิงสาวสะดุ้งสุดตัวก่อนจะลืมตาขึ้นจ้องมองคนที่ตวาดเธอด้วยสีหน้ารู้สึกผิด นี่เธอเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไร แล้วทำไมเขาถึงต้องโมโหใส่กันขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้ คนอะไรเจ้าอารมณ์ไม่มีใครเกิน
“ขอโทษค่ะ” กวินภพไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเดินลงจากรถโดยมีหญิงสาวมองตามไปติด ๆ คนอะไรเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่รู้เลยว่าเธอเผลอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจนักหนาเขาถึงได้เกลียดเธอนัก
อีกด้านหนึ่ง กวินภพที่ทำท่าจะเดินขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเองจำต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนนั่งรอการกลับมาของเขาอยู่ที่โซฟาภายในห้องรับแขก แทนที่จะขึ้นไปนอนหลับพักผ่อนที่ด้านบนเหมือนอย่างทุกวัน
“ดึกแล้วทำไมยังไม่เข้านอนอีกครับแม่” ชายหนุ่มเอ่ยถามมารดาที่เขาทั้งรักและเคารพมากกว่าใคร ๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายและทิ้งตัวนั่นลงข้างๆ ท่าน ตั้งแต่จำความได้เขาก็มีแต่แม่คนเดียวเท่านั้นที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนพ่อนั้นเสียไปตั้งแต่ตอนที่แม่ของเขาอุ้มท้องเขาได้เพียงแค่ห้าเดือนกว่าด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงไม่แปลกที่เขาจะรักแม่และยอมอ่อนข้อให้กับท่านมากกว่าใครทั้งหมด