ตอนที่ไม่มีชื่อ

1242 คำ
13 “อืม...อืม...คุณสิงห์ คุณสิงห์” ไม่ใช่ว่าร่างสาวจะร้อนเพียงคนเดียว ร่างกายสูงใหญ่ของราชสีห์ก็ร้อนไม่ต่างกัน เพลิงปรารถนาลุกท่วมตัวอย่างรวดเร็ว ลามเลียไปทุกอวัยวะในร่างกาย เป็นเพลิงปรารถนาที่มีอานุภาพแรงกล้ามากที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมา กับหญิงสาวที่ผ่านมาราชสีห์จะต้องใช้เวลามากกว่านี้ ต้องให้พวกเธอเหล่านั้นเป็นฝ่ายทำให้เขาเกิดอารมณ์พิศวาส จากนั้นเขาถึงสร้างอารมณ์ตอบกลับไป แต่ทว่ากับญาตาวีไม่ใช่ เพียงแค่เธอนอนบิดตัว ส่งเสียงครางให้เขาเชยชมร่างกาย เท่านี้ไฟพิศวาสก็ถาโถมเข้ามาในร่างอย่างมากมาย...มากเสียจนเขาไม่อาจทนต่อไปได้ “เตรียมตัวทำหน้าที่ที่สมบูรณ์ของเธอได้แล้ว” เขาเงยหน้าเอ่ยบอกให้เธอตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเอง ละมือจากสิ่งที่จับต้อง ขยับตัวลุกขึ้นนั่งเอื้อมมือไปหยิบของบางอย่างที่เขาถือติดมือมาด้วย แกะห่อมันออกหยิบเครื่องป้องกันระหว่างรวมเพศมาสวมใส่ จากนั้นก็ขยับร่างขึ้นคร่อมร่างเล็กที่นอนหอบหายใจแรง นอนตัวเกร็ง ตื่นเต้นระคนหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ว่าเธอจะรู้สึกเช่นไรญาตาวีก็ไม่อาจหนีรอดเงื้อมมือเขาไปได้ เนื่องจากความปลอดภัยของมารดาอยู่ในมือของเธอ ร่างเล็กเกร็งอยู่ภายใต้ร่างหนา หลังจากที่เรียวขางามทั้งสองข้างถูกแยกออกไปทางด้านข้าง และรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังย่างกายเข้ามาในร่างของตน เธอแทบหยุดหายใจ ใบหน้าซีด ปากสั่นตัวสั่น ด้วยความกลัวเต็มอยู่ในจิตใจ ชายร่างโตรู้ดีว่า เธอยังใหม่สดในเกมแห่งกาม แทนที่เขาจะทะนุถนอมและค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไม่เร่งรีบ เขากลับดันตัวตนเข้าไปภายในกลีบดอกไม้งามครั้งเดียวสุดทางรัก ไม่นำพาว่าหญิงสาวร่างเล็กจะเจ็บปวดกับสิ่งแปลกปลอมอ่อนนุ่มแต่แข็งขึงมากเพียงไร เป็นเพราะความชิงชังและเกลียดสถานะของ ญาตาวี ราชสีห์จึงไม่ปรานีปราศรัยอาหารว่างจานใหม่ “กรี๊ดดด...เจ็บ ฮือ” ญาตาวีกรีดร้องสุดเสียง เป็นเสียงกรีดร้องแสดงความเจ็บปวดเกินคำบรรยาย เธอไม่รู้ว่ามันเจ็บมากเท่าใด รู้เพียงว่าเจ็บมากกว่าความเจ็บปวดทุกสิ่งอย่างที่เคยเผชิญ “โอ้...พระเจ้า” เขาครางออกมาอย่างยากสุดจะกลั้น “ฮือ...ฮือ...เจ็บค่ะคุณสิงห์ ตาเจ็บ” เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดที่เขาได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นเสียงกรีดร้อง เสียงสะอื้นไห้ และหยาดน้ำตา ไม่ได้ทำให้ราชสีห์ที่เกลียดลูกเมียน้อยเข้ากระดูกดำเช่นเขาเห็นใจแม้แต่น้อย ดวงตาและความรู้สึกอัดแน่นไปด้วยความสะใจ “นั่นมันเรื่องของเธอ” น้ำตาของญาตาวีไหลพรากเมื่อได้ยินคำพูดไม่ใส่ใจความรู้สึกของราชสีห์ จริงตามที่เขาพูด เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรือสนใจความเจ็บปวดของตน สิ่งที่เขาสนใจคือความสุขที่จะได้รับจากเธอมากกว่า หญิงสาวหลับตานิ่ง ปล่อยสายน้ำตาระบายความทุกข์ ความปวดร้าวที่ตนเองกำลังจะได้รับนับจากวินาทีนี้ แน่นอนที่ว่าบทสวาทบทแรกในชีวิตของญาตาวี ไม่มีคำปลอบประโลมให้คลายความเจ็บปวด ไม่ได้นุ่มนวลและอ่อนโยนเหมือนกับที่ควรจะเป็น มีเพียงความรุนแรงที่เขาสาดซัดใส่อย่างบ้าคลั่ง ถดโถมร่างกายราวกับว่าไม่กลัวร่างเล็กจะบุบสลาย เคลื่อนไหวอยู่บนเรือนร่างงดงามที่สะอึกสะอื้นไห้ตลอดเวลา หัวใจของราชสีห์เต็มไปด้วยเอิบอิ่ม สิ่งแรกคือได้พรหมจรรย์ของญาตาวี อย่างที่สองคือความรู้สึกดีจากการไม่เป็นงานของเธอ ทำให้เขารู้สึกสุขสมมากว่าคนเป็นงานของหญิงสาวที่ผ่านๆ มาหลายเท่า ซึ่งมันน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก ยิ่งสัมผัสแนบชิดมากเท่าไรราชสีห์ก็ยิ่งหยุดตัวเองไม่ได้ ความมันที่มาพร้อมกับความหฤหรรษ์ก็เดินทางมาเหมือนเงาตามตัว ตามติดไปทุกครั้งที่เขาโยกไหวแก่นกายใหญ่ล่วงล้ำเข้าสู่ช่องทางเล็กที่กระชากจิตวิญญาณ ความเจ็บปวดของญาตาวีเกิดขึ้นในช่วงแรกๆ แต่หลังจากนั้นมันคือความเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยามที่เขาอัดกระแทกกายเข้าใส่ จะรู้สึกความสยิวเสียวที่แล่นผ่านทั่วร่างประกอบกับมือแข็งแรงบีบเคล้นทรวงอกข้างซ้าย โดยที่ข้างขวาถูกปากและลิ้นของเขาละเลงไม่หยุด ก่อนจะสลับเปลี่ยนไปซ้ายและย้ายมาขวา สาวอ่อนหัดถูกรุกพร้อมกันเช่นนี้ มีหรือจะทานรับได้ ทางสีรุ้งที่ญาตาวีมองเห็นไกลๆ เริ่มเข้ามาใกล้เธอทุกขณะ เส้นทางนั้นเปรียบเสมือนสะพานให้เธอก้าวผ่านไปยังวิมานชั้นฟ้า วิมานที่เธอไม่เคยย่างกายไปถึง ไม่คิดด้วยว่าจะมาย่ำเยือนเร็วกว่าที่ตนคิดไว้ ญาตาวีรู้สึกเหมือนเลือดลมในร่างแปรปรวน คล้ายมีพายุก่อวนในร่าง ปลายเท้าเย็นเชียบ ความเย็นยะเยือกไล่ขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมาหยุดนิ่งและแทรกซึมอยู่ในกลีบกุหลาบที่เต้นเร่า เกร็งกระตุก “กรี๊ดดดดด...คุณสิงห์”ญาตาวีไม่รู้ว่าเหตุใดจึงกรีดร้องออกมา รู้แค่ว่าหากเธอไม่ระบายเสียงนี้เธอคงจะคลั่งตายหรือไม่ก็ร่างระเบิดเป็นจุน และเมื่อเสียงกรีดร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขถูกปล่อยออกมา ร่างสาวรู้สึกเบาโหวง และลอยขึ้นสูงสู่ปุยเมฆ ก่อนจะขึ้นสูงไปสู่สวรรค์ชั้นเจ็ด “โอ้...พระเจ้า” เสียงครางห้าวต่ำระบายออกมา เมื่อถูกถ้ำสวรรค์บีบรัดตัวตนของเขาอย่างแนบแน่น ขยับเขยื้อนกายแทบไม่ได้ จำต้องสาวสะโพกด้วยแรงมากกว่าเดิมและเร็วขึ้น ราชสีห์ขับเคลื่อนพลังแห่งกามารมณ์ทั้งเร็ว ทั้งแรง หนักหน่วงทุกจังหวะ ด้วยช่องทางคับแน่นขมิบรัดท่อนเนื้อชายของเขามากจนทำให้ความสุขที่พยายามกลั้นไว้กำลังจะระเบิดไม่กี่วินาทีนี้ แม้ว่าใจอยากจะขับเคลื่อนต่อไปอีกสักระยะก็ตาม ฝ่ามือใหญ่เท้าลงบนข้างหัวไหล่ทั้งซ้ายขวาของญาตาวี เป็นหลักยึดในการควบจังหวะสุดท้าย เขาดันร่างกระชั้นแก่นกายชายเข้าออกรวงผึ้งหวานฉ่ำระรัวเร็ว และไม่นานเขาก็พบกับความสุข ที่สุขทั้งกายและหัวใจ ราชสีห์พลิกกายลงนอนข้างร่างญาตาวีที่พลิกตัวหันหลังให้ชายหนุ่มทันที เขาหันมามองแผ่นหลังชื้นไปด้วยเหงื่อของเธอเพียงนิด ก่อนจะละความสนใจมาจัดการกับเครื่องป้องกัน ถอดมันออกจากกายแกร่ง โยนมันลงบนพื้นแล้วจับท่อนแขนเล็กออกแรงไม่มากให้เธอกลับมาอยู่ในท่าเดิม “หน้าที่ของเธอคืนนี้ยังไม่หมด ไม่ต้องสำออย” ญาตาวีไม่เคยรู้สึกอดสูตนเองเท่าวันนี้มาก่อน เธอข่มความเจ็บปวดทั้งกายและใจเอาไว้ก้นบึ้งของความรู้สึก ตอบสนองบทสวาทครั้งแล้วครั้งเล่าของเขาทั้งน้ำตา ภายในใจนึกถึงเพียงคนๆ หนึ่งที่ทำให้เธอทนรับทุกสภาพที่เกิดขึ้นกับตนด้วยความเต็มใจ และกว่าที่เธอจะหมดหน้าที่ก็ปาเข้าไปเกือบรุ่งสาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม