10

1193 คำ
10 รูปกายของราชสีห์เป็นอีกข้อที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าเขาจะสวมใส่เสื้อคลุมปิดทับ เธอยังมองเห็นความบึกบึน กำยำแฝงอยู่ภายใต้เสื้อคุลมตัวนั้น ไม่อยากจะคิดต่อไปเลยว่า หากเรือนกายกำหนัดของชายผู้นี้ปราศจากเสื้อผ้า รูปร่างของเขาจะเป็นเช่นไร แค่คิดใจก็สั่นพรั่นพรึง สมองของญาตาวีเหมือนจะหยุดทำงาน เมื่อเขาเดินมาหยุดตรงหน้า เธอก็รีบก้มหน้างุดไม่กล้าสบสายตาร้อนแรงของเขา เพียงวินาทีแรกที่ราชสีห์ได้ยลโฉมอาหารหวานจานใหม่ หัวใจของเขาเต้นเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สาวตรงหน้าไม่ใช่คนสวยเลิศเลอจนต้องเหลียวมอง หากแต่ยิ่งมองแล้วรู้สึกอย่างมองไม่รู้เบื่อ รูปร่างของเธอประเมินจากสายตาก็ไม่ได้เร้าใจเท่าใดนัก ตัวเล็กสัดส่วนอื่นคงเล็กตามไปด้วย ไม่น่าอภิรมย์ใจเหมือนกับสาวคนอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ทำไมเธอถึงได้มีแรงดึงดูดใจมากกว่าสาวหลายๆ คน แต่พอนึกได้ว่า สาวตรงหน้าคือลูกของภรรยาน้อย สถานะที่เขาเกลียดเข้าไส้ ความพึงพอใจแปรเปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้าม “เธอพร้อมแล้วใช่ไหม” เสียงใหญ่เอ่ยถามสาวร่างเล็กที่นั่งก้มหน้ามองปลายเท้าของเขา ที่ไม่คิดจะตอบกลับ และนั่นทำให้คนขี้หงุดหงิด อารมณ์ขึ้นทันที “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง” ญาตาวีสะดุ้งสุดตัว เงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่ยืนถมึงทึงตรงหน้า “คะ พะ...พร้อมอะไรคะ” แทนที่เธอจะตอบ แต่กลับถามออกไปราวกับว่าไม่รู้ความหมายของคำถามนั้น จะให้เธอรับรู้ได้อย่างไร ในเมื่อเวลานี้สติของญาตาวีไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันเตลิดไปไหนต่อไหน มีเพียงความตื่นเต้น ความหวาดกลัวที่เข้ามาแทนที่ “เธอโง่หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ที่ไม่เข้าใจความหมายที่ฉันถาม” เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ หัวใจของญาตาวีเต้นกระหน่ำแทบหาจังหวะไม่ได้ และอยากจะสกัดกลั้นลมหายใจของตนเอง เมื่อเห็นเสื้อคลุมสีน้ำตาลที่เขาสวมใส่อยู่ลงมากองอยู่บนพื้น ตัวเธอสั่นราวกับเจ้าประทับองค์ ไม่กล้าเงยหน้ามองผู้พูด เพราะไม่รู้ว่าบนร่างกายของราชสีห์จะมีเสื้อผ้าอาภรณ์ติดตัวหรือไม่ ซึ่งเธอก็จินตนาการไปก่อนว่าไม่มี หากมองขึ้นไปตอนนี้เธออาจจะช็อกก่อนเวลาอันควร “ฉันไม่ชอบถามซ้ำถามซากนะ ถ้าไม่พร้อมก็ออกไปจากห้องนี้ได้เลย แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปเอาเงินคืนจากพ่อของเธอ” เขาเริ่มจะหงุดหงิดกับสาวร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นห้องเต็มที “พร้อมค่ะ ตาพร้อมแล้ว” ญาตาวีตอบกลับเสียงสั่น เธอจะให้เขาทำตามที่พูดไม่ได้ นั่นเท่ากับว่าชีวิตของมารดาตกอยู่ในอันตราย แม้ว่าเธอจะหวาดกลัวกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไปมากแค่ไหน จะอดสูมากเพียงไร ญาตาวีก็ต้องอดทนเพื่อมารดา “ถ้าเธอพร้อมก็เงยหน้าขึ้นมองฉัน หน้าฉันอยู่ข้างบนไม่ได้อยู่ที่พื้น” เขาตวาดไม่ดังมาก “เงยหน้ามองฉัน” คำสั่งของเขาทำให้ญาตาวีต้องทำตามคำสั่งอย่างเสียมิได้ ดวงตาที่มองปลายเท้าหนาค่อยๆ ไต่ขึ้นสูงไปตามท่อนขาแข็งแรง หัวเข่า หน้าขา หัวใจดวงน้อยๆ เต้นแรงขึ้นเมื่อคิดว่าเวลานี้ร่างกายของราชสีห์เปล่าเปลือย เธอจึงหลับตาแน่นขณะที่กำลังขยับใบหน้าไปยังใจกลางร่ายกายบึกบึน แล้ว เงยหน้าพรวดขึ้นสูงลืมตามองใบหน้าคมหล่อของเขา หัวใจของญาตาวีแทบจะหยุดเต้น หลังจากที่ตนลืมตามองใบหน้าของราชสีห์ ดวงตาของเขาช่างร้อนแรงราวกับดวงตะวันที่พร้อมจะแผดเผาร่างกายของเธอ แล้วยังมีแสงแห่งความเกลียดชังที่เปล่งรัศมีออกมา มันทำให้เธอรู้สึกหน้าชาไปเป็นแถบ และไม่เข้าใจว่าเขาเกลียดชังเธอด้วยเรื่องอันใด ทั้งที่เพิ่งพบเจอกันแค่ครั้งแรกเท่านั้น “ลุกขึ้นยืน” เสียงใหญ่เข้มห้วนเอ่ยสั่ง แต่ทว่าคนถูกสั่งก็ยังเงยหน้ามองเขา ไม่เคลื่อนไหวตามที่เขาบอก “ฉันบอกให้ลุกขึ้นยืน ทำไมเธอชอบให้ฉันสั่งหลายรอบ” ญาตาวีลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินคำสั่งย้ำของเขา และการที่เธอลุกขึ้นยืนนี้เองทำให้ร่างกายของเขาและเธอแทบจะชิดกัน มีระยะห่างกันเพียงไม่กี่นิ้ว ส่งผลให้ใจเธอเต้นผิดจังหวะมากขึ้น “ถอดเสื้อผ้าออก” คำสั่งของราชสีห์เรียกความตกใจให้กับญาตาวีเป็นอย่างมาก มากเสียจนเธออ้าปากค้าง หน้าซีด ปากสั่น ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก “ถะ...ถอดเสื้อผ้าเหรอคะ” ญาตาวีถามเสียงสั่น “ใช่ ฉันบอกให้เธอถอดเสื้อผ้าออก” ราชสีห์ตอบย้ำ ขยับกายไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ดวงตากวาดมองไปทั่วร่างสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “ฉันอยากดูสินค้าก่อนใช้ อยากมองให้เห็นเต็มตาว่าสินค้าชิ้นนี้มันเป็นยังไง แล้วมันคุ้มกับเงินที่ฉันเสียไปหรือเปล่า” ญาตาวีหน้าร้อนผ่าวราวกับถูกไฟแนบ ก่อนที่ความชาจะแทรกผิวกายทุกสัดส่วน ไม่มีวันไหนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองไร้ค่ามากเท่าวันนี้ หัวใจดวงน้อยเหมือนถูกบีบด้วยกำมือของชายตรงหน้า เจ็บปวดเป็นที่สุด คำพูดของเขาสร้างความเจ็บช้ำให้ไม่พอ สายตาเย้ยหยัน ดูถูกของเขาก็สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับญาตาวีขึ้นหลายเท่าตัว เธออยากจะร้องไห้เหลือเกิน ต้องการให้น้ำตาชะล้างความรู้สึกต่างๆ ที่ตนเองได้รับ ใช่...เธอเป็นเพียงสินค้าชิ้นหนึ่ง เป็นสินค้าที่มีลมหายใจและมีชีวิต แต่ไม่อาจจะเดินไปตามทางเดินที่ตนอยากจะไปได้ และเวลานี้ญาตาวีกำลังก้าวย่างลงไปอยู่ในขุมนรก โดยมีมือของผู้เป็นพ่อดุนหลัง และมีชายตรงหน้าฉุดกระชากลงไป “ถ้าเธอไม่ยอมทำตามที่ฉันบอก ฉันจะไปเอาเงินคืนจากพ่อของเธอ เพราะสินค้าไม่ได้คุณภาพ” คนที่นั่งนอนบนเตียงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อน มองสาวน้อยตรงหน้าด้วยสายตาดังสิงห์ร้ายมองเหยื่อ อยากจะตะปรบขย้ำให้หนำใจ แต่ก็เลือกที่จะยลโฉมเหยื่อสาวก่อนเขมือบ คนที่ฟังอยู่ใจสั่น ร้อนอกร้อนใจและหวาดหวั่นกับคำพูดของราชสีห์ ญาตาวีจะให้เขาทำตามที่พูดไม่ได้ หากเขาทำคนที่เดือดร้อนจะไม่ใช่รณชัยเพียงคนเดียว ผกากรองมารดาสุดที่รักก็จะพลอยเดือดร้อนตามไปด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม