ตอนที่ 2

1076 คำ
ตอนที่ 2 “ขอบใจมากจ้ะขวัญ ลูกสาวของแม่” เย็นวันนั้นคุณพรจันทร์ตัดสินใจโทรแจ้งเหมันต์ว่า ลูกสาวของท่านพร้อมแล้วแต่ขอเวลาอีกหนึ่งเดือน เพื่อลาออกจากงาน หากแต่ปลายสายไม่สนใจฟังในสิ่งที่ผู้สูงวัยบอก เขากำหนดว่าจะมารับเจ้าสาวในวันรุ่งขึ้นทันที เพราะอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเขาไม่สะดวกจะมารับใครทั้งนั้น คุณพรจันทร์ได้แต่ถอนหายใจไม่กล้าแย้งอะไร เพราะน้ำเสียงของปลายสายช่างดุดันเอาแต่ใจจนผู้สูงวัยต้องเงียบ ได้แต่รับปากไปเขาตามที่ต้องการ รถยนต์เอสยูวีสีดำยี่ห้อดังรุ่นท็อปที่จอดเทียบข้างรั้วบ้านหลังเล็กชานกรุง ทำให้คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เก้าอี้ไม้หน้าบ้านเงยหน้าขึ้นมอง เพียงขวัญวางหนังสือในมือลงแล้วจ้องมองไปยังรถ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ลงจากรถแล้วเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูรั้วบ้าน หญิงสาวลุกขึ้นมองด้วยความแปลกใจ วันนี้เป็นวันหยุด เพียงฟ้ากับมารดาไปซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เธออาสาอยู่บ้านทำความสะอาดและเก็บกวาดบ้าน ดังนั้นหากเขาจะมาหาใครที่นี่ นั่นหมายความว่าไม่มีคนที่เขาต้องการพบแน่นอน และคงไม่ใช่เธอแน่ เพราะเพียงขวัญไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ “ผมมาหาลูกสาวอาจันทร์” เพียงขวัญกะพริบตาปริบๆ พยายามคิดว่าเคยรู้จักผู้ชายคนนี้ที่ไหน “ผมชื่อเหมันต์” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่นอกรั้วเตี้ยๆแนะนำตัวสั้นๆ คราวนี้หญิงสาวจึงถึงบางอ้อ รีบวิ่งไปเปิดประตูให้เขาทันที “สวัสดีค่ะ คุณเหมันต์” เมื่อเปิดประตูให้เขาเข้ามาแล้ว เพียงขวัญจึงประนมมือไหว้ทักทายตามมารยาท “สวัสดีครับ คุณ...” ชายหนุ่มรับไหว้ แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “เอ่อ...ขวัญค่ะ ขวัญเป็นลูกคุณแม่พรจันทร์ค่ะ” ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆใบหน้าถึงได้ร้อนวูบขึ้นมาได้ ใบหน้างามก้มลงเล็กน้อยตอนบอกชื่อกับเขา เหมันต์กระตุกยิ้มมุมปาก แล้วถอนหายใจยาว “เจอตัวก็ดี ผมมีเวลาให้คุณสิบนาที คุณเตรียมกระเป๋าพร้อมแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงของคนพูดบ่งบอกว่าไม่ต้องการคำตอบ เพราะสิ่งที่เขาพูดนั่นคือประโยคบอกเล่า เหมันต์ก้าวเท้ามั่นคงไปนั่งยังเก้าอี้ตัวที่หญิงสาวเพิ่งลุกขึ้นมา เพียงขวัญปิดประตูแล้วเดินตามหลังไปอย่างงงๆ “เอ่อ...คุณแม่ไปซื้อของกับฟ้ายังไม่กลับมาเลยค่ะ คุณรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวขวัญจะไปหาน้ำมาให้ดื่ม” เพียงขวัญเอ่ยแผ่วเบา แล้วหมุนตัวเพื่อจะเดินกลับเข้าบ้าน “วันนี้ผมมาพร้อมเช็คเงินสดห้าล้านบาท คุณเหลือเวลาอีกแปดนาที” ใบหน้า นิ่งขรึมของผู้มาเยือนทำให้เพียงขวัญหน้าเจื่อนเล็กน้อย “เอ่อ...ขวัญให้คุณแม่เรียนคุณแล้วนี่คะ ว่าขวัญต้องแจ้งลาออกจากงานล่วงหน้าหนึ่งเดือน ขวัญเพิ่งยื่นใบลาออกไปเมื่อวานนี้เองค่ะ” ดูเหมือนผู้ชายตัวโตที่นั่งอยู่จะไม่สนใจสิ่งที่เธอพร่ำพูด เพียงขวัญเหลียวซ้ายขวาอย่างอึดอัด หญิงสาวชะเง้อคอมองออกไปนอกรั้ว หวังใจเหลือเกินให้มารดากับเพียงฟ้ากลับมาในตอนนี้ “เหลือเวลาอีกเจ็ดนาที” “เอ่อ...มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำรอคุณแม่ก่อนนะคะ เดี๋ยวขวัญไปเอามาให้” “ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งรอใครหรอกนะ ถ้าคุณไม่พร้อมก็รอปีหน้า เดี๋ยว ผมจะมารับอีกที ส่วนเช็คนี่ผมก็จะเอากลับไปด้วย” เพียงขวัญเพิ่งสังเกตว่าชายหนุ่มวางเช็คไว้บนโต๊ะ แล้วเขาก็เหยิบมันขึ้นมาพับใส่กระเป๋าเสื้อ ขยับตัวจะลุกขึ้นยืน หญิงสาวรีบถลาเข้าใกล้ไปดึงแขนแกร่งไว้ เหมันต์ก้มลงมองมือนุ่มนิ่มที่สัมผัสกับแขนกำยำของตน กลิ่นกายสาวหอมกรุ่นเย้ายวนจนเขาเคลิ้ม เผลอมองใบหน้านวลในระยะใกล้ ปากอิ่มสีชมพูขยับพูดอะไรเขาไม่ได้ยินแล้ว รู้แต่ว่าความต้องการข้างในมันพลุ่งพล่านจนต้องเมินหน้าหนีคนตรงหน้า “เอ่อ...ขวัญขอเวลาสักสามสิบนาทีได้ไหมคะ คือขวัญยังไม่ได้เก็บกระเป๋าเลยค่ะ” หญิงสาวปล่อยมือจากเขาแล้วก้มหน้าพูดเบาๆ “ผมบอกอาจันทร์ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน หากคุณยังไม่พร้อมผมก็จะกลับ ผมไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมารอใครได้หรอกนะ” เพียงขวัญขยับตัวชะเง้อมองไปนอกรั้วบ้านอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่ามารดาบุญธรรมกับบุตรสาวของท่านจะกลับมา “เหลือเวลาอีกห้านาที ผมจะไปรอคุณที่รถนะคุณเอ่อ...คุณขวัญ” เหมันต์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ซึ่งสูงกว่าคนที่ยืนทำหน้าเหลอหลามากนัก เพียงขวัญเงยหน้ามองเขาจนคอตั้งบ่า เขาเธอสูงแค่อกของเขาเอง ร่างก็บอบบางกว่าหลายเท่านัก ชายหนุ่มเดินไปยังรถของตัวเองหลังจากพูดจบ เขาไม่มองหน้าหญิงสาวด้วยซ้ำ เพียงขวัญรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน ก้าวขาเรียวขึ้นบันไดอย่างว่องไว เมื่อถึงห้องนอนของตน หญิงสาวก็หยิบกระเป๋าใบใหญ่ออกมา เปิดมันออกแล้วจับเสื้อผ้าที่พอจะกวาดเอาได้ในตู้ยัดลงไปแล้วรูดซิป ก่อนจะคว้าเอากระเป๋าถือและโทรศัพท์มือถือ หิ้วกระเป๋าใบใหญ่ลงบันไดแล้วลากตรงไปยังรถที่จอดสตาร์ทรอเธออยู่แล้วที่รั้วหน้าบ้าน เหมันต์ลงจากรถมาจัดการยกกระเป๋าใบโตของเธอเก็บด้านหลังรถ เพียงขวัญกล่าวคำขอบคุณเบาๆ หญิงสาวโทรศัพท์ถึงมารดาและเพียงฟ้าสลับกัน แต่ก็ไม่มีใครรับสายเธอเลย ใบหน้างามชะเง้อมองไปตามทาง แต่ก็ต้องผิดหวัง “คุณใช้เวลาเลยไปห้านาทีแล้ว ขึ้นรถ” เหมันต์สั่งเสียงเข้ม ชายหนุ่มขึ้นนั่งประจำ ที่คนขับ เพียงขวัญหน้าเสียอยากจะร้องไห้เหลือเกิน เมื่อได้ยินเสียงกดแตรเตือนสั้นๆ หญิงสาวจึงรีบวิ่งอ้อมไปด้านข้างคนขับ แล้วพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนรถอย่างสงบเสงี่ยม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม