หลังจากคืนนั้น คืนที่โดนชายหนุ่มฉวยโอกาสเอาด้วยจูบที่แสนจะไร้มารยาท เธอก็เอาแต่หลบหน้า ไม่ยอมเจอเขา ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมาขอพบที่บ้านก็ตาม วันนี้ก็เช่นกัน วารีดาออกมาข้างนอกกับเพื่อนรักอย่างม่านหมอก สองสาวชวนกันมาดูหนังฟังเพลงตามประสาคนไม่มีงานทำ ก็เพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ จึงยังไม่ได้งานทำ ส่วนม่านหมอกนั้นไปสมัครและสัมภาษณ์ไว้หลายที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกตัวเลย จึงว่างออกมาเที่ยวกับวารีดา
“หมอก...ตัวเองไม่ไปทำงานกับพี่รักเหรอ สบายดีออกนะ” วารีดาเอ่ยถามเพื่อนขณะเดินออกมาจากโรงหนัง ก็วันก่อนเห็นพี่ชายมาบ่นให้ฟังว่าชวนม่านหมอกมาทำงานด้วย แต่เพื่อนเธอปฏิเสธเอา วันนี้เธอเลยเอ่ยถามเพื่อน เพราะอยากให้พี่ชายและเพื่อนรักใกล้ชิดกัน
“วิดวิ้วอย่าถามเราได้ไหม ตัวก็รู้ว่าหมอกไม่อยากอยู่ใกล้พี่รัก” ม่านหมอกเอ่ย ใช่...เรื่องที่เธอแอบรักพี่ชายของเพื่อนนั้นเพื่อนสาวรู้มาตลอด แต่ไม่อยากอยู่ใกล้ชิด เพราะกลัวตัวเองหลงรักชายหนุ่มไปมากกว่านี้ แค่นี้ก็ยังจะถอนตัวไม่ขึ้นอยู่แล้ว
“ไม่ถามไม่ได้นะหมอก หมอกรักพี่รักมานานแล้ว ทำไมไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดพี่เราล่ะ คิดดูสิ เห็นหน้ากันทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวันมีหรือพี่เราจะไม่หลงเสน่ห์ของหมอก” วารีดารู้ว่าเพื่อนตนเป็นคนขี้อาย อีกอย่างพี่ชายของเธอนั้นก็คอยแต่จะแกล้งเพื่อนตนอยู่ร่ำไป จึงเป็นเหตุให้ม่านหมอกไม่อยากไปทำงานด้วย แต่วารีดาเชื่อนะว่าพี่ชายของเธอนั้นก็มีใจให้ม่านหมอกเช่นกัน ก็ดูจากแววตาที่มองเพื่อนตนทุกครั้ง พี่ชายมักจะอารมณ์ดีเสมอ แถมสายตานั้นก็เป็นสายตาของคนที่เอื้อเอ็นดูมากกว่าจะเกลียดอย่างที่เพื่อนตนเข้าใจ
“มันไม่มีวันนั้นหรอกวิดวิ้ว พี่รักชอบผู้หญิงสวย แถมเจ้าชู้อีก เราคงไม่ได้อยู่ในหางตาพี่เขาหรอก อีกอย่างตัวก็ดูเราสิแต่งตัวก็เชย เฉิ่มก็เฉิ่ม จะมีเสน่ห์ที่ไหนให้ผู้ชายมาหลงรัก” สาวเฉิ่มเอ่ยตามที่คิด
“เพราะหมอกคิดแบบนี้ไงเล่าถึงไม่สมหวังในความรักสักที” วารีดาเอ่ย เวลา 4 ปีเต็มที่เพื่อนแอบรักพี่ชายตน แต่ก็ได้แค่แอบรัก ไม่คิดจะมาปรับปรุงตัวเองเพื่อให้ผู้ชายวิ่งเข้าหาบ้างเสียเลย ทั้งๆ ที่เธอจะพาไปเปลี่ยนลุคก็แล้ว แต่สาวเจ้าไม่ยอม เอาแต่พูดว่า ‘ถ้าเขาจะรักก็ต้องรักที่ตัวตนที่แท้จริง’ แล้วเป็นไงล่ะ 4 ปีแล้วเขาก็ยังไม่มาสารภาพรักเลย
“ว่าแต่เรา ตัวเองก็เหมือนกันแหละ บอกหมอกมาเลยนะวิดวิ้วว่าเป็นอะไรกันกับพี่หมอใหญ่ ทำไมถึงเอาแต่หลบหน้าพี่เขามาเป็นอาทิตย์แล้ว” ม่านหมอกก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเพื่อนตนกับหมอหนุ่ม
“หมอก...มันใช่เรื่องไหม เราคุยเรื่องของตัวอยู่นะไม่ใช่เรื่องของวิดวิ้ว” วารีดาใส่อารมณ์ ก็จะให้บอกได้ไงว่าตัวเองโดนชายหนุ่มฉวยโอกาสเอาในคืนวันงานเลี้ยงฉลองเรียนจบ
“มาทำเป็นใส่อารมณ์ บอกเรามาเลย โกรธอะไรพี่เขา งอนอะไรพี่เขา วิดวิ้วมีความลับกับเรานะทุกวันนี้” เอ่ยอย่างแง่งอน
“ก็เขาจูบเรา อุ๊บ!...” วารีดาปิดปากแทบไม่ทัน แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วความลับหลุดออกไปแล้ว แถมเสียงดังฟังชัดเสียด้วยสิ
“ฮะ!” ม่านหมอกไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่ตนได้ยินมานั้นมันคือเรื่องจริง หญิงสาวจึงดึงรั้งเพื่อนเพื่อให้หยุดเดิน ก่อนจะมองหาที่นั่งใกล้ๆ แถวนั้น แล้วสายตาก็หันไปเห็นม้านั่งที่อยู่ไม่ไกล จึงดึงเพื่อนไปนั่งเพื่อตนจะได้ซักฟอกให้ขาวสะอาดว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง ทำไมเพื่อนถึงไปจูบกับหมอหนุ่ม แต่ก็แปลก คนถูกเขาจูบแทนที่จะดีใจ แต่กลับโกรธเขา ทั้งๆ ที่ปกติออกจากตื๊อชายหนุ่มขนาดนั้น
“เล่ามาให้หมด ถ้าไม่เล่าไม่พากลับบ้านนะวิดวิ้ว ตัวก็รู้ว่าเราอยากรู้” เมื่อนั่งลงเรียบร้อยก็จัดการยิงคำถามทันที แม้รูปลักษณ์ภายนอกของม่านหมอกจะเป็นคนขี้อาย เฉิ่ม เชยแสนเชย แต่ใช่ว่าจะพูดน้อย สาวเจ้าพูดเก่งพอๆ กับเพื่อนรักเลย ยิ่งสนิทกันด้วยแล้วยิ่งทำให้คนรอบข้างพูดตามไม่ทัน แต่มีอยู่กับคนหนึ่งที่หญิงสาวจะไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเวลาเจอคือแอบรัก พี่ชายของเพื่อนนั่นเอง
“พี่หมอใหญ่จูบเรา แค่นี้พอใจรึยัง” วารีดาเอ่ยตอบเพื่อนรัก ก็จะไม่ให้พูดได้ไง เพราะรู้ว่ายังไงก็ปิดเพื่อนได้ไม่นานหรอกเรื่องนี้
“ว่าอะไรนะ? จูบ...” ม่านหมอกไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลยว่ามันคือเรื่องจริง แต่มองหน้าเพื่อนแล้วไม่มีท่าทีพูดเล่นให้เห็นคงต้องเชื่อแล้วแหละว่ามันคือเรื่องจริง แล้วทำไมวารีดาถึงหลบหน้า เขาจูบไม่ดีเหรอ เห็นแอบรักเขามานานแล้ว น่าจะดีใจนะ
“ไม่ดีใจเหรอที่พี่เขาจูบตัวเอง?”
“ดีใจน่ะดีใจที่พี่หมอใหญ่เป็นจูบแรกของเรา แต่ที่ไม่ดีใจคือมันเป็นจูบที่หยาบโลน จูบที่เราไม่ปรารถนาอยากได้มัน” วารีดายังจำวันนั้นได้ วันที่เขาหักหาญเธอนั้นมันเป็นยังไง เพียงแค่คิดถึงภาพวันนั้นก็ไหลซ้อนเข้ามาในหัวแล้ว
“แล้วนี่จะเอาไงต่อ จะหลบหน้าแบบนี้ไม่ดีนะ หมอกว่าวิดวิ้วน่าจะหันหน้าคุยกับพี่เขานะ” เอ่ยแนะนำเพื่อนรัก
“เรายังไม่พร้อม ขอเวลาตั้งหลักหน่อยได้ไหม ยังไม่รู้ว่าจะตีสีหน้ายังไง เอาจริงๆ นะ วิดวิ้วเขิน” ถึงแม้จะผ่านมาหลายวันแล้วก็ยังเขินและกรุ่นโกรธชายหนุ่มอยู่ในทีกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ไม่พร้อมน่ะ อย่านานนะ ระวังเสียพี่หมอไป เราไม่รู้ด้วยนะ”
“ไม่มีทาง เราจะสกัดทุกทาง ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหนก็ไม่มีทางได้เข้าใกล้ชิดพี่หมอ” วารีดาสวนทันควัน แอบรักมานาน เฝ้ามองมาก็นานแล้ว จะปล่อยให้หญิงนางอื่นคาบไปกินไม่มีทาง ชายหนุ่มต้องเป็นของตนเท่านั้น หญิงสาวจึงตัดสินใจปรึกษาเพื่อนว่าตัวเองควรทำยังไงดีกับความรักครั้งนี้ของตน