ตอนที่ 2

1362 คำ
คำกล่าวของธิศาลดุจจะให้พร อีกคนที่อยู่ในงานด้วย ชักสีหน้าไม่พอใจแต่ก็นึกเกรงใจเจ้าภาพ และผู้คนที่เข้ามาร่วมงานคนอื่น เติมพงษ์จึงรีบลุกจากที่ตรงไปยังรถของเขาที่จอด หลังจากที่เสร็จสิ้นการสวดอภิธรรม คันธมาสดูเหมือนจะได้ต้อนรับ ธิศาลอีกคราวด้วยการถามไถ่ทุกข์สุข เรื่องราวต่างๆในช่วงเวลาที่เขาได้ไปไปปฏิบัติงานอยู่กลางท้องทะเลอ่าวไทย ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทที่ขายส่งก๊าซพลังงานระดับบิ๊กในประเทศ ซึ่งเขากับคันธมาสห่างกันด้วยเช่นนี้ ธิศาลมีครอบครัวที่ฐานะดีกว่าแม่ของเขานั้นก็บ่งบอกว่าไม่ค่อยชอบคันธมาสสักเท่าใดนัก แต่คันธมาสไม่เคยแคร์ในเรื่องนี้และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หล่อนก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ไปมากกว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง คันธมาสเจียมตัว แต่ว่าธิศาลต่างหากที่เป็นฝ่ายหลงรักหล่อน จนเขาทำในสิ่งที่คุณอำภามารดาของเขาห้ามปราม แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ และนี่คืองานของบิดาของหล่อน คันธมาสไม่อยากแสดงความรู้สึกต่างๆออกมาให้ใครได้เห็นจะเห็นได้ว่า หล่อนพยายามตัดบทธิศาลอย่างที่สุดเห็นสีหน้าของเขาแล้ว มันก็บอกว่า เขาไม่พอใจเช่นกัน แต่หล่อนไม่อาจจะทำหรือช่วยอะไรได้ และรู้ ที่เขาไม่ยอมที่จะรีบกลับบ้าน ทั้งๆที่ สวดอภิธรรมก็จบลงไปนานแล้ว เขายังจะแช่ตัวเอง เข้ามาอยู่ในวงของญาติพี่น้องของหล่อน คันธมาสแก้เก้อ หรือต้องการที่จะไม่ให้เขาอยู่ใกล้ชิดมากเกินไป ด้วยการเดินเข้าไปช่วยงานในครัว เพื่อเบนความรู้สึกของหล่อนด้วย แต่หล่อนก็รู้ว่าเขามองมายังหล่อน ด้วยสายตาที่น้อยใจ คันธมาสบอกกับตัวเองว่าหล่อนจะต้องเข้มแข็งอย่างที่สุดซึ่งในที่สุดเขาก็ยินยอมที่จะกลับบ้านเมื่อรู้ว่า หนทางที่เขาจะเข้าใกล้ขยับตัวไปหาคันธมาส มันไม่ง่ายเลย หญิงสาวทั้งปกป้องและหวงตัวเอง เห็นทีคืนนี้ คงจะหลับยาก แต่ว่า หล่อนจะต้องข่มตาให้หลับ คันธมาสไม่กลัวเลยที่จะกลับมานอนที่บ้าน แต่ก็มีบรรดาญาติอีกสองสามคน ตามมานอนเป็นเพื่อน คงมีแม่และไปรมา เท่านั้นที่ไม่ยอมตามมาด้วยไปรมาให้เหตุผลว่า “เบื่อ ไปรขี้เกียจกลับเข้าบ้าน นอนที่นี่ดีกว่า” หล่อนหมายถึงศาลาวัดที่สามารถหลับนอนได้ เพราะบรรดาญาติที่มาช่วยงานก็เตรียมทั้งมุ้งหมอนเสื่อ และเครื่องนอน คันธมาสจะหลับแล้วในบ้านของเธอยังจะมีญาติอีกสามสี่คนที่ตามมาเป็นเพื่อน อบอุ่นใจกว่าอย่างอื่น เพราะไม่อยากให้พ่อมาหาแล้วเธอก็ไม่อยากนึกถึงภาพนั้นด้วย หลับตาข่มใจให้หลับ เนื่องจากความเพลียในงานด้วยเมื่อช่วยเหลือเสร็จทุกคนแทบจะหลับเป็นตาย เช้าตรู่อีกวัน ที่คันธมาสมุ่งหน้าไปที่วัด เธอได้ขอลากับฝ่ายบุคคลเพื่อหยุดทำภารกิจสำหรับครอบครัว ภารกิจที่อยู่ในภาวะโศกเศร้า ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เรื่องราวในครอบครัวของคันธมาสก็เกิดจนแทบตั้งรับไม่ทัน หล่อนไม่ได้คำนึงถึงเพื่อนที่บริษัท หรือว่าการงานอยู่ในหัวสมอง หล่อนขจัดและผลักมันออกไป ในเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องที่คันธมาสจะสุมเอาเรื่องเครียดพวกนี้เข้าสมอง เสื้อชุดดำเช่นเดียวกับกระโปรง ผมเผ้าหวีอย่างลวกๆไม่ได้แต่งหน้า พร้อมด้วยใบหน้าที่ซีดขาว มาพร้อมด้วยเครือญาติที่นอนกันอยู่ในบ้าน เป็นเพื่อนทั้งคืน คันธมาสไม่ได้มาแบบสะโหลสะเหลตื่น เธอต้องเข้ามาช่วยแม่ จัดเตรียมอาหารคาวหวาน เพื่อถวายเป็นภัตตาหารเช้าของพระ และพิธีกรรมในวันนี้ ยังไม่จบ การเริ่มต้นสวดยังคงเป็นวันที่สอง คิดถึงผู้หญิงคนหนึ่ง..ธันวายุเข้ามาถึงที่ทำงานแต่เช้าตามเคย หลังจอดรถคันหรูถอยเข้าซองในช่องจอดส่วนตัว และส่วนตำแหน่งของหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร หรือ รองประธานของบริษัท ชายหนุ่มนั้นในวันนี้ เนี้ยบไปหมด ไม่ว่าผมเผ้า เสื้อผ้าหน้าผม จัดเต็มทีเดียว กางเกงสแลคส์สีดำ กับเสื้อเชิ้ต สีขาวตัดแดงลายขวาง เนคไทค์สีอ่อนเข้าชุดเดินตรงไปที่ลิฟต์ พอเดินเข้ามาใกล้โต๊ะทำงานของพนักงานในออฟฟิศซึ่งแบ่งเป็นแผนกตั้งแต่บัญชีและจัดซื้อจัดจ้างฝ่ายการตลาดยันเสมียน เสี้ยวหน้าคมคายรู้สึกสะดุดอะไรบางอย่าง เมื่อมองไปที่โต๊ะทำงานซึ่งว่างเปล่า ถ้าเป็นปกติทุกวัน พนักงานสาวสวยหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง จะเข้ามานั่งประจำที่ และท่าทางของเธอเรียบร้อย อ่อนหวาน นิ่ง ไม่ค่อยที่จะสุงสิงหรือพูดจากับใคร อ้อทำให้เขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ฝ่ายบุคคลของบริษัทบอกเขาไปเมื่อเย็นนี้ว่าญาติของหญิงสาวเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เธอขอลาเพื่อร่วมทำพิธีทางศาสนากับครอบครัว พร้อมทั้งให้เสร็จสิ้นจนถึงวันฌาปนกิจสายตาที่ตรวจตราละเอียดแม่นยำและเข้มงวดยังคงมองไปที่โต๊ะว่างเปล่า ปกติเขาจะเห็นรอยยิ้มบางๆผ่านให้จากโต๊ะนี้ ธันวายุยังคงใช้สายตาเหลือบมอง และหยุดอยู่ตรงที่ว่างนั้น พลางอมยิ้ม ก่อนที่จะเดินเข้าไปที่ห้องของตัวเอง คันธมาสยังยุ่งตั้งแต่เช้า ไปจนถึงเที่ยง เพราะแขกเหรื่อที่รู้จักกับบิดา มากันไม่ขาดสาย ไหนจะเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงนี่อีก เป็นธรรมดาของงานศพ ที่จะต้องอยู่ยามเฝ้าโยงกัน ในบรรดาญาติแต่ส่วนมากจะมีผู้ชายเสียมากกว่า ที่ไม่ขี้ขลาดตาขาว กลัวในเรื่องที่มองไม่เห็น คันธมาสกลัวอย่างเดียวคือมาตั้งวงเล่นการพนันในงานศพของพ่อหล่อนซึ่งหล่อนไม่ชอบแม้จะมีข้ออ้างจากบรรดาญาติว่า อยากจะอยู่เป็นเพื่อนศพ คันธมาสอนุญาตเพียงอย่างเดียวให้กินเหล้าเมาได้แต่อย่าลามไปถึงการพนัน “งานของพ่อ หนูอยากจะให้อะไรมันขาวสะอาด ในเมื่อพ่อจากไปแล้ว แล้วตอนที่พ่อยังอยู่ แกก็ห่างไกลวัดวาเหลือเกินหนูจึงอยากทำให้แกเต็มที่” คันธมาสเป็นฝ่ายบอกญาติเหล่านั้นซึ่งก็มีเสียงงึมงำหน้าบึ้งเช่นกัน จากบรรดาหนุ่มฉกรรจ์ แต่คันธมาสไม่สนใจ หล่อนต้องการให้เป็นแบบนี้เพื่อวิญญาณพ่อจะได้ไปสู่ที่สงบ แต่ในที่สุด ไม่มีใครที่จะฝืนคำสั่งของหล่อนที่จะห้ามเด็ดขาด ขาพนันทั้งหลายแหล่แอบเสียใจอยู่ลึกๆ ที่กะตั้งเป้าจะเล่นให้หนำและจุใจ จนสว่างคาตา แต่ทุกคนก็รู้ฤทธิ์ของคันธมาส และเมื่อเสร็จสิ้นจากงานศพของบิดาผ่านพ้นไปคันธมาสติดตามเอกสารทั้งหมดของบิดา ที่เกี่ยวข้องกับการตายครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทประกันรถที่ถูกอัดก๊อปปี้จนใช้การไม่ได้หล่อนต้อมาเหนื่อยในเรื่องนี้ เพราะเป็นผู้หญิงด้วย ไม่เคยรู้มาก่อนว่า การติดต่อกับบริษัทประกันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากที่สุดในชีวิตทั้งๆที่ฝ่ายประกัน ควรจะรู้ดีว่าผู้เอาประกันจะต้องได้รับสิ่งใดเป็นการตอบแทนจากอุบัติเหตุครั้งนี้ค่าสินไหมทดแทน ที่ผู้รับเคราะห์ถึงกับเสียชีวิตล่าช้าโยนเรื่องนั่งคอย เธอรู้สึกเบื่อหน่าย จนอยากจะกลับ พรุ่งนี้คันธมาสถึงเริ่มต้นทำงานครั้งแรกอีกครั้ง ส่วนอัฐิของบิดานั้น มารดาบอกว่าจะนำไปลอยอังคาร แถวชายหาดเมืองระยองและไม่เสร็จเหมือนเคยแต่ทางบริษัทประกัน นัดให้มาพบอีกครั้ง ในวันจันทร์หน้า “นี่คุณ ดิฉันไม่มีเวลาที่จะลาบ่อยขาดบ่อยหรอกค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม