บทที่3.2

1326 คำ
คืนนั้น ฉันนอนเล่นเกมโทรศัพท์จนผล็อยหลับไป และไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน... รู้เพียงแค่ว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว อ่า~ เสียงลมหายใจ การยุบตัวของเตียงนอน แล้วก็... อะไรบางอย่างที่ทาบทับเบาๆ บนแก้มของฉัน ให้ความรู้สึกร้อนและเย็นไปในคราวเดียว ฉันเหมือนคนมีสติ แต่ก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ สงสัยฝันอยู่แน่ๆ “งือ” ฉันดิ้นด้วยความรำคาญเพราะบางสิ่งที่สัมผัสผิวแก้มมันแข็งๆ คล้ายไรหนวด หรืออาจจะเป็นอะไรสักอย่างคล้ายเส้นผมแต่แข็งกว่า “ไม่กวนแล้ว” และเสียงทุ้มกังวานปริศนานั่นก็กระซิบข้างหู ก่อนจะหายไปพร้อมๆ กับสติของฉันในคืนนั้น เช้าถัดมา เมื่อคืนฉันโดนผีอำ!! จำไม่ได้หรอกว่ามันเป็นยังไง แต่มีบางอย่างอยู่ใกล้ๆ และสัมผัสตัวฉัน ตอนแรกคิดว่าแค่ฝัน แต่ความรู้สึกมันบอกว่าฉันไม่ได้คิดไปเอง! มีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉันจริงๆ! “พี่จุน ตื่นๆ! ตัวเล็กโดนผีอำ” ฉันวิ่งแจ้นเข้ามาในห้องเขาทันทีที่รู้สึกตัว พี่จุนที่นอนหลับปุ๋ยครางเบาๆ และค่อยๆ ลืมตาขึ้น “ห้องนั้นมีผี!” ฉันฟ้องพลางชี้นิ้วไปยังห้องของตัวเอง “บ้าบอ” พี่จุนตอบสั้นๆ แล้วหลับต่อ เขาดูเหนื่อยและเพลียเอามากๆ ครั้นเมื่อดูเวลาก็พบว่านี่มันเพิ่งแปดโมงเช้า ถ้าจำไม่ผิด พี่จุนบอกว่าเขาเลิกงานตีสองตีสามตลอด แสดงว่าตั้งแต่เลิกงานมาเขาได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงเองสินะ “รอพี่จุนตื่นก่อนก็ได้” ยังไงเขาก็ต้องตื่นก่อนบ่ายอยู่ดี วันนี้ฉันมีเรียนบ่ายสองน่ะ ฉันเห็นใจคนทำงานจึงไม่รบกวนเวลานอนเขาอีก ทว่าในช่วงที่หมุนตัวเตรียมเดินออกมา ร่างทั้งร่างก็ถูกรั้ง ส่งผลให้ถลาลงไปนอนแหมะบนเตียงอย่างช่วยไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงของพี่จุนโอบกอดอย่างแน่นหนาซะแล้ว “ไหนเล่า” พี่จุนเอาหน้ามาซบไหล่และหลับต่ออย่างไม่ทุกข์ร้อน แต่ปากดันขยับเหมือนรับรู้ทุกๆ อย่างแม้สองตาจะปิดสนิท “พี่นอนต่อก็ได้ค่ะ ตื่นแล้วตัวเล็กจะเล่าให้ฟัง” ฉันพยายามดันเขาออก แต่พี่จุนทำตัวยิ่งกว่าปลาหมึกซะอีก! “พี่จุนนนน ตัวเล็กอึดอัดน้า” กอดแน่น กอดแรง กระดูกจะหักอยู่แล้วเนี่ย “เล่ามา พี่ฟังอยู่” พี่จุนเอ่ยพึมพำชิดซอกคอ ฉันตัวชาวาบแต่พยายามไม่คิดอะไร “มีผีในห้องนั้นอ่ะ” ในเมื่อเขาไม่ยอมปล่อย ฉันจึงตัดสินใจเล่าให้ฟังซะตอนนี้ “ผีมันทำเตียงยุบได้ด้วย แก้มตัวเล็กยังร้อนๆ อยู่เลย” “ทำไมแก้มต้องร้อน” เขาถามกลับมา “ตัวเล็กไม่รู้” ฉันเลยส่ายหน้า เมื่อคืนเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ฉันเป็นพวกหลับลึกแล้วชอบละเมอ แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย พี่จุนขยับตัวเล็กน้อยในลักษณะที่ยังเกยคางและกอดก่าย “เรากลัวหรือไง” พี่จุนกระซิบถาม แน่นอนว่าฉันพยักหน้ารับคำ ใครจะไม่กลัวผีบ้างล่ะ ยังดีที่ฉันรู้สึกตัวตอนเช้า ถ้าเผลอสะดุ้งตื่นตอนกลางคืนได้มีน้ำตาแตกแน่ๆ “คราวหลังถ้ากลัว... มานอนนี่ก็ได้” คำบอกกล่าวนั้นทำให้ฉันเอี้ยวหน้าไปหาเเละเห็นว่าพี่จุนตื่นแล้ว เรือนผมยุ่งๆ ยิ่งขับให้เขาดูแบดเเละน่ารักไปพร้อมๆ กัน “ตัวเล็กนอนได้เหรอคะ” ฉันถาม รู้สึกตื่นเต้นกับความใจดีของเขา พี่ชายฉันใจป๋าโคตร! “ได้สิ เตียงพี่กว้าง” ถึงจะรู้สึกทะแม่งหน่อยๆ ก็เถอะนะ... หนึ่งชั่วโมงต่อมา “คอพี่จุนมีรอยสีม่วงน่ากลัวมากอ่า!” ฉันมองรอยแปลกๆ บริเวณต้นคอพี่จุนตาปริบๆ ในขณะที่เจ้าตัวดูไม่ทุกข์ร้อนเท่าไหร่นัก เอาแต่นั่งดูทีวีสบายใจเฉิบอยู่ได้ เราเพิ่งทานอาหารเช้าเสร็จเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กว่าจะถึงเวลาเรียนก็อีกหลายชั่วโมง พี่จุนเลยพาฉันมานั่งเล่นที่ห้องรับแขกและเปิดทีวีให้ดู ทว่าฉันมัวแต่สนใจรอยตรงคอเขาไง ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งเห็นชัดเจนว่ามันช้ำมากขนาดไหน เสียดายคอขาวๆ เลยนะเนี่ย... “มองอะไรขนาดนั้น ไม่เคยเห็นหรือไง” พี่จุนละสายตาจากทีวีแล้วหันมาหาฉัน “เคยเห็นในหนังค่ะ... ผู้ใหญ่เขาทำกัน” ฉันตอบตรงๆ และคิดว่ามันไม่น่าอายเท่าไหร่ที่จะพูด ก็พี่จุนเป็นผู้ใหญ่แล้วนี่นา เขาเรียนจบแล้ว ทำงานแล้วด้วย ประสบการณ์ความรักแบบลึกซึ้งถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หูย ฉันไม่ควรยุ่งใช่ไหมอ่ะ แต่เห็นมันช้ำมากเกินไปเลยอดถามไม่ได้ไง “แล้วตัวเล็กอยากเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า” พี่จุนยกมือขยี้ผมฉันจนยุ่งเหยิงเป็นอีเพิ้งราวกับมันเขี้ยว ไม่เเน่ใจว่ามันเขี้ยวจริงหรือเปล่า เล่นซะฉันโคลงไปทั้งตัวเลย ถึงอย่างนั้นก็เถอะ! คำถามแบบนั้นคืออะไรกัน พูดจาแปลกๆ อีกแล้วนะเนี่ย “ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วโดนแบบนั้นตัวเล็กไม่เอาดีกว่า...” ยิ่งมองรอยช้ำบนคอพี่จุนก็ยิ่งกลัว “ว่าแต่... มันเจ็บไหมอ่ะ” ฉันชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ใช้นิ้วแตะเบาๆ บริเวณนั้น แต่สัมผัสโดนแค่นิดเดียวข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้ด้วยฝ่ามือที่ร้อนและเย็นไปในคราวเดียวอย่างแปลกประหลาด ฉันทำหน้างง เมื่อกี้แตะแรงไปเหรอ “ตัวเล็กอย่างลองไหมจะได้รู้” พี่จุนถามในขณะที่ข้อมือยังถูกเขากอบกำเอาไว้ ไม่แน่นเท่าไหร่ แต่ก็สลัดไม่ออก “โหย ไม่เอาค่า” ฉันส่ายหน้าเป็นพัลวันชนิดที่ว่าคอแทบหลุดออกจากบ่า อยู่ดีๆ กรอบหน้าก็พร่างพราวไปด้วยเหงื่อ “งั้นตัวเล็กทายาให้พี่หน่อย ตอนนี้เจ็บนิดๆ แล้ว” พี่จุนเบ้หน้าเล็กน้อยจนฉันแปลกใจ เมื่อกี้ยังดูชิลล์ๆ ไม่ใช่เหรอ อยู่ดีๆ เจ็บเฉย! แต่ฉันก็พยักหน้า ไม่ปฏิเสธเพราะเมื่อวานเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาทายาให้ฉัน แถมยังทำอาหารให้กินตอนเช้าอีกด้วย เรื่องตอบแทนพระคุณน่ะขอให้บอก ตัวเล็กไม่เกี่ยง! “โอเช พี่จุนรอแป๊บค่า” พอพี่จุนปล่อยข้อมือ ฉันก็รีบวิ่งเข้าไปในห้อง ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาพร้อมยาทาตลับเดียวกันกับที่พี่จุนทาให้เมื่อวาน “ไหนๆๆ เอาคอมาให้ตัวเล็กดูหน่อย เดี๋ยวทาให้ครับผม~” ฉันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขาซึ่งใกล้กว่าเดิมเล็กน้อย เวลาฉันเริ่มสนิทกับใครก็จะเป็นแบบนี้แหละ แม้ว่าพี่จุนยังคงมีกลิ่นอายความน่ากลัว แต่เขาดีกับฉันมากเลยนะ “...” พี่จุนไม่พูดอะไร เขายอมยื่นคอเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นแชมพูหอมๆ จากเรือนผมสีเทาของเขา ฉันป้ายยาลงบนรอยช้ำสีเข้ม ค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วกดนวดด้วยแรงระดับหนึ่งที่ไม่ทำให้พี่จุนเจ็บ แต่ว่านะ เสียงครางต่ำจากเขาทำให้ฉันหยุดชะงัก “ตัวเล็กทำแรงไปเหรอ ขะ ขอโทษ” ฉันกลืนน้ำลายลงคอเมื่อร่างสูงใช้สายตาราบเรียบชำเลืองมาทางนี้ กระทั่งเสียงหัวเราะในคอเล็ดลอดออกมา... แต่หน้าเขายังเป็นเหมือนเดิมเลย ชักงงๆ การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าของเขาเเล้วนะ “แรงๆ เลย พี่ชอบ” พี่ชายฉันเป็นมาโซคิสต์เหรอเนี่ย...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม