3 - ความฝันมันกินไม่ได้
หลังจากวันนั้น
“เป็นยังไงบ้างลูก”
แม่ของผมถามเรื่องที่ผมไปออดิชั่นรายการใหม่ของประเทศไทย ตอนแรกผมก็ไม่ได้อยากเล่าหรอกเพราะผมทำวีรกรรมไว้ในรายการเยอะมาก แต่มันจำเป็นเพราะนี่มันคือความฝันที่ผมอยากทำให้มันเป็นจริง ผมยังไม่เคยแสดงความสามารถนี้ให้ใครเห็นมาก่อน ผมไม่ปิดกั้นความสามารถถ้าใครมาล้มด้วยคำพูดทับทมหรือดูถูกหมดกำลังใจ ผมจะสู้ต่อไปจนกว่ามันจะเป็นจริง
แม่ถามผมว่าผมไปออกรายการเป็นยังไง ผมเข้าใจว่าแม่เป็นห่วงและอยากรู้ แต่ว่าผมขอพูดความจริงไม่หมดเปลือกได้ไหม เพราะกลัวแม่ได้ยินแล้วจะไม่สบายใจ นิสัยความเป็นชายของผมเหมือนผู้ชายส่วนใหญ่ พร้อมบวกและสู้ด้วยหมัดมือถ้าใครมาทำร้ายก่อน ผมบอกไปว่าราบรื่นไปด้วยดี ผมแสดงความสามารถที่ใครทำไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ใช่นินจา
“แม่ไม่ห้ามความฝันของลูกหรอกนะแดง แม่ไม่เหมือนครอบครัวอื่นที่ชอบกดดันหรือเอาความันไปยัดเยียดใคร ลูกอยากทำอะไรถูกกฎหมายแม่ไม่ห้ามแต่ขออย่าเดียว อย่าไปทำอะไรขายหน้าคนทั้งประเทศล่ะ”
“แม่...”
“ไม่ต้องร้องไห้หรอก ลูกทำเต็มที่แล้ว”
ผมชอบเวลาที่แม่ผมให้กำลังใจผมเสมอว่าผมทำความฝันและพยายามด้วยความตั้งใจ ไม่ได้กีดกันหรือให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นมากจนกดดันตัวเอง ผมอยากทุ่มเทเพื่อทำให้ชีวิตของผมมีทุนและความฝันควบคู่ไปด้วยกัน ผมไม่มีวันไปทำอะไรไม่ดีเพื่อทำให้คนอื่นหรือตัวเองเดือดร้อนหรอก
“ว่าแต่ลูกภูมิใจไหมที่ทำอาชีพสุจริต”
“คนที่ไหนไม่ชอบทำงานถูกกฎหมายล่ะครับ ผมขายน้ำเต้าหู้ก็ไม่ได้แย่ครับ แต่ไม่ชอบให้ใครมาดูถูกเกินควร” พูดถึงน้ำเต้าหู้ ผมยังจำได้ดีที่กรรมการจอห์นดูถูกผมไว้ ตอนนั้นผมโกรธแทบโยนไมโครโฟนลงพื้น ยอมจ่ายค่าเสียหายให้รายการเลยก็ได้ แต่ผมมีวุฒิภาวะมากกว่าผู้ใหญ่ เก็บความโกรธไปลงส่วนตัว ไม่รู้ว่าเขาพูดแบบนั้นไปได้ยังไง ผมรับไม่ได้จนกลับไปนอนร้องไห้ทั้งคืน ตื่นมาตาบวมจนถึงตอนนี้
“ดีแล้วล่ะแดง แม่เชื่อว่าลูกเต็มที่แบบไม่กดดันตัวเอง”
แม่ผมพร้อมให้กำลังใจผมเสมอ อายุแค่นี้แต่ความเข้มแข็งของผมก่อตัวไม่น้อยเลย ผมมีวุฒิภาวะมากกว่าผู้ใหญ่และไม่อ่อนแอหากสิ่งนั้นไม่ได้กระทบจิตใจมากเกินไป ผมไม่เคยร้องไห้พร่ำเพื่อหรืออ่อนแอให้ใครเห็นเพื่อก่อความอายให้ตัวเอง ผมไม่ได้ใจเปาะเมื่อปัญหาเข้ามา พยายามตั้งสติและค่อย ๆ ตอบไป
“ผมไปเตรียมของก่อนนะ”
ผมกับแม่จะต้องเตรียมน้ำเต้าหู้ถุงใหญ่ที่รับมา ตรวจสอบก่อนออกขายแต่ละวัน ร้านผมจะมีของดีหลายอย่างตั้งแต่น้ำเต้าหู้ชาเขียว รสชาติปกติ ชาไทยและใบเตย ผมแทบจะคิดค้นรสชาติน้ำเต้าหู้เองแล้ว ผมยกถุงขนาดใหญ่โดยมีถุงรองรับไว้ ตรวจสอบและทดสอบส่วนหนึ่ง ผมไม่อยากให้มันผิดพลาด การขายของบูดให้ลูกค้าถือว่าผิดจรรยาบรรณการขาย
“เดี๋ยวบ่ายนี้เตรียมพร้อมนะ”
“ครับแม่”
ผมช่วยแม่เตรียมอุปกรณ์และน้ำเต้าหู้พร้อมอาหารอย่างอื่นไปให้พร้อม ทุกวัตถุดิบผมทำด้วยความตั้งใจและอยากมอบให้ลูกค้าทุกคนด้วยความเต็มใจ ระหว่างนี้ผมรีบเตรียมให้พร้อมระดับหนึ่ง เมื่อขนขึ้นรถยนต์คู่ใจของพ่อผม ผมจะฉายแววและมัดใจลูกค้ามากกว่าเดิม ใจจริงอยากเอาสิ่งที่ไปประกวดมาใช้มากแต่รายการยังไม่ออกอากาศ ผมไม่สามารถบอกก่อนได้ เอาเป็นว่าตามไปให้กำลังใจแล้วกัน
ผมคือแดง VOCAL Season 1 ผู้ชนะที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้
ผมก็เพ้อเจ้อไปก่อนล่วงหน้าได้ยังไงเนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ
เวลาต่อมา
แดงมาเตรียมร้านช่วงใกล้บ่ายโมงตรง ผมเริ่มขายจริงตอนบ่ายสอง ตอนนี้ผมหิวมาก ใจอยากหาร้านอาหารตามสั่งมาก เบื่อข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อเหมือนกัน ผมเดินไปหาร้านอาหารก่อน ผมเห็นอาหารตามสั่งถือว่ารอดตายไปอีกหนึ่งมื้อ ผมอาจจะเรื่องมากแต่ก็กินทุกมื้อ ผมกำลังจะเข้าไปยืนสั่งอาหารหน้าร้าน แล้วผมไม่คิดว่าผมจะเจอใครบางคนที่นั่งอยู่ในร้านหน้าตาคุ้นเคย
“แดง”
ผมไม่คิดว่าแมกซ์จะนั่งอยู่ในร้านก่อนหน้า ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ ผมขออนุญาตนั่งกับเขาเพราะเห็นว่าเขามาคนเดียว เขาถามผมว่าวันนั้นเป็นยังไง ตอนนี้อาการทางใจดีขึ้นไหม ผมบอกแล้วว่าผมมูฟออนไวแต่ก็ยังฝังใจอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมกรรมการจอห์นต้องมีปัญหากับผมด้วย
“ไม่ต้องใส่ใจนะ กรรมการจอห์น ใคร ๆ ก็บอกปากต่อปากว่าตัดสินบางครั้งไม่เป็นธรรม ดูเส้นสายมากกว่าอีกสองคนอีก”
“ไม่ชอบเลยนะคนที่มีเส้นสาย”
ผมไม่ชอบคนที่มีเส้นสายเพื่อทำให้ทุกความฝันง่ายแบบไม่ต้องลงมือมาก หายใจพร้อมสวมรอยเลียนแบบพอประมาณ นั่นไม่ใช่การแข่งขันที่ยุติธรรมเลย ผมกับแมกซ์จะแข่งกันด้วยความเป็นธรรมที่สุด
“เราก็ไม่ชอบ ถ้าอย่างนั้นเราสองคนคงจะไม่เป็นศัตรูกันใช่ไหม”
“เราไม่คิดแบบนั้นนะ”
ผมไม่เคยมองแมกซ์เป็นศัตรูหรือคู่แข่ง ผมมองว่าเป็นผู้เข้าแข่งขันเหมือนกัน ต่อไปถ้าเราสองคนผ่านรอบออดิชั่นไปรอบคัดเหลือยี่สิบคนสุดท้าย ผมจะทำความรู้จักมากขึ้น ให้ตัวเองได้ความสัมพันธ์มากขึ้น
“ถ้าเจอกรรมการก็กลับไปบอกเขาด้วยนะว่าจะอยู่ทีมใครเพราะวันนั้นเขาบอกว่านายผ่านเข้ารอบแล้ว”
“นายด้วยใช่ไหม”
มันเป็นโอกาสดีที่ผมกับเขาผ่านเข้ารอบด้วยกัน และต่อไปผมจะได้ติดต่อและคุยกับเขามากกว่าเดิม ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเจ้าของร้านเสิร์ฟอาหารให้ผม ปกติร้านตามสั่งก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก แต่ที่นี่ครอบแก้วทรงกระบอกใบใหญ่มา ว่าแต่ข้างในซ่อนอะไรนอกจากข้าว
“ดูให้ดีนะแดง”
ผมแปลกใจและไม่คิดเลยว่าร้านนี้จะเล่นใหญ่ให้ผมคาดไม่ถึง ปกติร้านเครื่องดื่มจะมีช็อกโกแลตภูเขาไฟเป็นผงตักก่อตัวพูนล้นแก้ว แต่ร้านนี้ผมว่าขายกะเพราได้มากกว่าข้าว เพราะสิ่งที่ซ่อนในแก้วคือข้าวส่วนหนึ่งและภูเขาไฟกะเพรากรอบที่ผมสั่งไป เมื่อถอดแก้วออก กองภูเขาไฟใบกะเพราล้นถล่มลงบนข้าวและกับรอบจานราวกับต้นคริสต์มาสพลังใบ
“เห้ยย สุดยอดมาก”
“ร้านนี้พึ่งลงทำเลยนะ ภูเขาไฟใบกะเพรา เราว่าที่นี่กะเพราขายดีจนขาดตลาดแน่นอน ขอบคุณนะครับพี่พงศ์ ว่าแต่พี่รู้จักรายการ VOCAL ไหม” ผมกับเจ้าของร้านถือว่าสนิทกันระดับหนึ่ง ผมแกล้งถามว่ารู้จักรายการนี้ไหมเพราะซื้อลิขสิทธิ์จากสิงคโปร์ แล้วที่นี่ซื้อมาผลิตรายการประเทศแรก น่าเสียดายเขาไม่รู้จัก อาจจะไม่ได้ดูโทรทัศน์หรือเสพสื่อเยอะ แต่ไม่น่าเป็นไปได้เพราะรายการยิงโฆษณาทางออนไลน์รัวมาก ยังไงก็ต้องเห็น ผมบอกได้แค่นี้แต่ไม่บอกว่าผมกับแดงไปออกรายการ เดี๋ยวหมดเซอร์ไพร์ส วันดีคืนดีร้านนี้จะมีคนดังแบบเราสองคนมาทำให้ลูกค้าติดมากขึ้น
“งั้นมื้อนี้เราเลี้ยงนะ”
“ขอบคุณมากนะแมกซ์” ผมว่าคนตรงหน้านิสัยดีจนผมคาดหวังน้อยไป ถ้าเขาดีกับทุกคนรวมถึงผมราวกับเป็นพ่อไมโครเวฟก็ถือเป็นเรื่องดีที่ได้เพื่อนมนุษย์จริงใจมาเป็นเพื่อน ต่อไปผมขอให้เขาเป็นเพื่อนและเป็นมากกว่านั้นจะได้ไหม
เวลาต่อมา
“ขอบคุณนะที่เลี้ยง”
ผมกินกะเพรากุ้งอิ่มมากเลย เพราะร้านมีจุดเด่นที่ทำให้ผมสนใจจะกลับมากินอีก ผมกับแมกซ์เชื่อมั่นว่าการเติมอาหารทางท้องและใจจะทำให้เป็นแรงขับเคลื่อนความฝันต่อไป
“อยากกินน้ำเต้าหู้มากเลย”
ผมได้ยินเขาอยากกินน้ำเต้าหู้ มันก็เข้าทางผมน่ะสิเพราะผมขายของแบบนี้อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เขาไม่รู้เคยมาซื้อหรือเปล่าเพราะผมพึ่งมาช่วยแม่ขายช่วงนี้ไม่นาน อยากแบ่งเบาภาระและหาเงินให้ตัวเองมากขึ้น ผมกำลังจะเปิดปาก อยู่ ๆ มีเสียงคนตะโกนว่าขโมย ผมไม่ทันหันไป มีผู้ชายคนหนึ่งกระชากกระเป๋าผู้หญิงมาชนผม ผมตกใจเพราะชนเต็มแรงทำล้มลง ผมกำลังจะจับมันได้ แต่สิ่งตรงหน้าทำผมตกใจจนคาดไม่ถึงเพราะนั่นมันคือตัวผมจริง ไม่ใช่ส่องผ่านกระจก
“เห้ยย”
“แดง... เดี๋ยวก่อนนะ”