ลักษณาใช้ชีวิตเหมือนปกติ เพียงแต่ใบหน้าสวยที่เคยสดใสเศร้าหมองลงไปอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ลมกรดเป็นห่วงกลัวว่าแฟนสาวของตนจะป่วยไม่สบายเอา จึงพาเธอมาหาหมอในวันนี้ พอหาหมอเสร็จ หมอบอกแข็งแรงดี เขาก็สบายใจ แต่ทำไมถึงได้ดูเศร้าสร้อยแบบนี้นะ หรือว่าจะเป็นเรื่องแหวนที่เธอบอกว่าทำหายทำให้เธอเครียดกังวลกัน
ใช่ หลังจากวันนั้นสามวัน เขามารับเธอที่ห้องเหมือนทุกครั้งแล้วมองไปยังนิ้วมือเรียวสวย ไม่เห็นแหวนที่มอบให้หญิงสาวเขาก็อดถามไม่ได้ พอได้รู้เรื่องว่าเธอทำมันหาย ตอนได้ยินเขาก็รู้สึกเสียใจ น้อยใจที่ลักษณาไม่ได้ให้ความสำคัญกับแหวนที่ตนมอบให้
“ฮันนี่คิดมากเรื่องแหวนรึเปล่าครับ ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องคิดมากนะครับ เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่ก็ได้ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ” เขาบอกเธอขณะขับรถบนท้องถนนแล้วเอื้อมมือไปกุมมือเล็กที่วางไว้ที่ตักของเธอมากุมไว้แล้วบีบนวดให้อย่างปลอบโยน
“ขอโทษนะคะพี่ลม เราแต่งงานกันเลยไหมคะ”
คำพูดของลักษณาทำให้เท้าเหยียบเบรกแทบจะทันที
เอี๊ยด!
“ว่ายังไงนะครับ” เมื่อรถจอดนิ่งก็หันมาถามคนข้าง ๆ อีกครั้ง แต่ก็ต้องหันไปมองข้างหลังเมื่อมีเสียงแตรรถของคันข้างหลังบีบไล่ เขาจึงรีบเคลื่อนตัวรถต่อ แล้วถามย้ำอีกครั้ง
“ฮันนี่ว่ายังไงนะครับ”
“แต่งงานกันนะคะพี่ลม” เธอบอกเขาเสียงแผ่วนัยน์ตาเศร้า
“ฮันนี่ไม่ได้หลอกให้พี่ดีใจเล่นใช่ไหมครับ”
“ค่ะ ฮันนี่จะแต่งงานกับพี่ลม” ครั้งนี้หล่อนตอบเสียงหนักแน่นพร้อมเอี้ยวหน้าหันไปมองคนขับรถที่หันมาทางเธอพอดี สายตาของทั้งคู่สอดประสานกันก่อนจะละออกจากกัน แล้วต่างมองทางข้างหน้า
“ขอบคุณนะครับฮันนี่” มือใหญ่บีบกุมมือเล็กแน่นกว่าเดิมเพื่อเป็นคำสัญญาว่าต่อจากนี้ไปเขาจะดูแลลักษณายิ่งกว่าชีวิตของเขา
“เราไปหาพี่รักที่ออฟฟิศก่อนนะคะ ฮันนี่อยากบอกพี่รักให้รู้เรื่องของเราค่ะ แล้วเราค่อยไปบ้านของฮันนี่ ไปบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ฮันนี่ค่ะ”
“ครับผม”
ลมกรดยิ้มตลอดการขับรถ ส่วนลักษณาก็ได้แต่ฝืนยิ้มแห้ง ๆ และนึกสมเพชตัวเอง ในเมื่อเลือกเดินกลับมาแล้ว ชีวิตของเราต้องเดินต่อไป จะเอาไปผูกติดกับความสาวที่เสียให้ผีนรกตัวนั้นทำไมกัน ในเมื่อตอนนี้เขาเป็นคนฉีกหัวใจรักที่หล่อนมีต่อเขาทิ้งเอง แล้วจะแคร์จะรักเขาทำไม แม้บอกตัวเองแบบนั้นแต่ลึก ๆ แต่ลักษณาไม่เคยคิดที่จะเลิกรักหรือหยุดรักลวงร้อยได้เลยแม้แต่น้อย