“ถึงแล้วครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้านหลังตัวเธอ คนคิดเตลิดถึงกับสะดุ้งหลุดจากภวังค์ด้วยคำพูดนั้น หวันยิหวารีบสลัดความคิดนั้นออกไป พลางมองไปข้างหน้าเห็นบ้านไม้ซุง 2 ชั้นทอดยาวหลายเมตรหลังงาม ประดับไปด้วยต้นเฟื่องฟ้าและกุหลาบสองทางเดิน ม้าหยุดนิ่ง ชายหนุ่มลงจากหลังม้าไปอย่างง่ายดาย แล้วหันมามองหญิงสาวที่จะพยายามจะลงจากหลังม้าด้วยตัวเอง
“เดี๋ยวผมช่วยครับ” ชายหนุ่มด้านล่างสอดแขนแกร่งเข้ามาใต้ขาและประคองหลังยกตัวเธอลงจากหลังม้าอย่างง่ายดาย
“ขอบคุณค่ะ” เธอไม่ลืมที่จะขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้าที่ไม่ปล่อยให้เธอต้องลำบากลงเอง
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีคุณเป็นแขกของพ่อเลี้ยง” แค่มองผ่านแสงพลบคํ่ายังสวยบาดตาขนาดนี้ ใบหน้ารูปไข่คางเรียวมน บ่งชัดว่าไร้รอยมีดหมอ รูปร่างก็สมส่วนได้มาตรฐาน อกเอวสะโพกรับกันอย่างเหมาะเจาะจนน่าจับถอดเสื้อผ้าสํารวจดูว่าทั้งหมดที่หล่อนมีนั้นเป็นของแท้หรือเปล่า ไม่มีคนไหนจะมองข้ามเสน่ห์อันเย้ายวนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเธอไปได้เลย แล้วนี่เขาจะแก้แค้นเธอได้ลงเชียวหรือ
หญิงสาวพาตัวเองก้าวผ่านแปลงกุหลาบเข้าไปในบ้านไม้ซุง 2 ชั้นที่ทอดยาว ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยครบครัน อากาศเริ่มหนาวและทุกอย่างก็เงียบผิดปกติ หวันยิหวาจึงถามกับชายหนุ่มที่มาส่งเธอ
“นี่บ้านของพ่อเลี้ยงงั้นเหรอคะ?” หล่อนมองไปรอบ ๆ บ้าน ที่ตกแต่งได้สวยงามลงตัว สัญลักษณ์ของบ้านนี้คือมีต้นเฟื่องฟ้าที่สวยงามเด่นอยู่หน้าบ้าน
“ใช่ครับ” ริมฝีปากหยักหนาใต้หนวดครึ้มเกือบจะยิ้มแต่แล้วมันก็จางหายเป็นคมเข้มกันไว้ดุจเดิม
“บ้านพ่อเลี้ยงสวยงามมากค่ะ”
“บริเวณรอบ ๆนี้ มีอีกหลายหลังครับ เมื่อก่อนเปิดให้แขกที่มาเที่ยวชมไร่พักที่นี่ครับ แต่ตอนนี้พ่อเลี้ยงสั่งปิด รวมแล้วพื้นที่ทั้งหมด 21 ไร่ครับ ที่เราผ่านมาคุณจะเห็นว่ามีห้องอาหารเฟื่องฟ้า พรุ่งนี้เช้าผมจะพาคุณไปลองทานอาหารที่นั้นครับ ส่วนมือเย็นผมจะให้ป้าชื่นแม่ครัวมาทำอาหารให้คุณทานที่นี่ครับ
“ขอบคุณมากเลยนะคะ”
“คุณนั่งรอตรงนี้สักครู่นะครับ ตอนนี้ผมโทรตามแม่บ้านก่อน จะได้พาคุณไปดูห้องพัก ชายหนุ่มโทรเรียกสาวรับใช้คนหนึ่งมาที่บ้านพักเธอชื่อเอื้อมจันทร์ ไม่นานก็มาถึงด้วยความเร่งรีบเธอถือผ้าเช็ดตัวใส่กระตร้าใบเล็ก ๆ มาด้วยเหมือนที่นี่คงเป็นทั้งโรงแรมและไร่ชาเลยละสิ! ภูดิศรีบเดินไปหาเอื้อมจันทร์ก่อนที่หญิงสาวคนจะทักเขาขึ้นมา จากนั้นเขารีบสั่งการบางอย่างกับเธอ
“เดี๋ยวผมจะให้เอื้อมจันทร์พาคุณไปที่ห้องพักนะ”
“เออ!..กระเป๋าเดินทางฉันอยู่ที่รถค่ะ”
“ผมขอกุญแจรถด้วยครับ เดี๋ยวผมจะให้คนไปขับมาไว้ที่นี่ให้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“เออ!...แล้วคุณชื่ออะไรเหรอคะ..คุยกันตั้งนาน ฉันยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลย?”
“อืม!....เรียกผมสั้น ๆ ว่าเอียดก็ได้ครับ” ภูดิศรีบโกหกชื่อที่เขาเพิ่งนึกได้ตอนนี้ ซึ่งตัวจริงเอียดเป็นหัวหน้าคนงานในไร่ ชายหนุ่มจึงโกหกไปอีกว่าเขาเป็นหัวหน้าคนงาน
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณเอียด คุณเรียกฉันว่ายิหวาก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยื่นมือมาทำความรู้จักแบบตะวันตก เพราะหล่อนเคยชินและเพิ่งเรียนจบมาจากที่บอสตัน ภูดิศยื่นมือมาแสดงความรู้จักกับหญิงสาวตรงหน้า ‘คนอะไรมือนุ่มจัง’ ดูแล้วเธอคนนี้คงไม่ต่างจากผู้หญิงทั่ว ๆ ไปที่เขาเจอมาคือ อ่อยเขาตั้งแต่แรกนั่นเอง
“พรุ่งนี้เช้าไม่เกินแปดโมงผมจะมารับนะครับ”
“ได้ค่ะ”
ชายหนุ่ม ไม่คิดว่าดวงใจที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลจะโทรตามลูกสาวให้มาที่นี่เร็วขนาดนี้ นี่คงจะเริ่มทำตามพินัยกรรมละสิ คิดได้ดังนั้นเขาจึงต้องวางแผนรับมือกับสองแม่ลูกให้จงได้
หวันยิหวาเข้าไปพักผ่อนในห้องโดยมีเอื้อมจันทร์พาไป ภายในห้องนอนใหญ่ที่ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำทะเลตัดสีขาว เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็มีสีเข้าชุดกัน การตกแต่งทุกอย่างเป็นไปตามความชอบของเจ้าของบ้าน หญิงสาวเดินออกมายังเฉลียงกว้างข้างนอก ซึ่งมีบันไดทางขึ้นจากชั้นล่างมายังชั้นสองได้โดยไม่ต้องผ่านชั้นล่าง หวันยิหวามองสวนดอกกุหลาบที่เพิ่งเดินผ่านเข้ามาเมื่อตอนแรก กุหลาบสีสันต่าง ๆ แข่งกันออกดอกอย่างงดงาม หญิงสาวสูดอากาศที่สดชื่นให้เต็มปอด หล่อนจำได้เมื่อครั้งยังเด็กก็มาวิ่งเล่นตรงนี้และปัจจุบันที่นี่ได้เปลี่ยนจากเดิมไปมากจนแทบจำไม่ได้ ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงหลังจากแสงแดดหมดลงไป มองไปโดยรอบเห็นไร่ชาไกล ๆ สุดตา สลับกับร้านที่เป็นอาคารคล้ายคาเฟ่อยู่บนพื้นที่กว้างโดยมีภูเขาที่สวยงามเป็นฉากหลัง
ชายหนุ่มรีบมากำชับเอื้อมจันทร์ทันทีว่าห้ามบอกหวันยิหวาตอนนี้ว่าเขาคือพ่อเลี้ยงภูดิศ
“ทำไมละคะพ่อเลี้ยง?” เอื้อมจันทร์สาวใช้เอ่ยถามขึ้น
“ทำตามที่ฉันบอกไปก่อน เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้เธอฟังพรุ่งนี้”
“ค่ะพ่อเลี้ยง” เอื้อมจันทร์มองหน้าพ่อเลี้ยงเหมือนจะถามอะไรขึ้นมาแต่เห็นแววตาเกรี้ยวกราดนั้นหล่อนเลยรีบหลบสายตาและเดินออกไป เอื้อมจันทร์เธอเป็นคนสนิทของดวงใจเลยทำให้ภูดิศไม่ค่อยจะเรียกใช้เธอสักเท่าไหร่ แต่เวลานี้หวันยิหวาเป็นลูกสาวดวงใจเจ้านายเธอ อีกไม่นานดวงใจก็คงจะโทรหาลูกสาวของเธอเอง
ไม่นานนักรถของหวันยิหวาก็ถูกขับมาจอดไว้ที่เรือนหลังงาม คนที่ลงมาจากรถเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยความที่ว่าไม่เคยขับรถหรูมาก่อน เขารีบเดินเอากุญแจมาให้ภูดิศที่รอเขาอยู่
“นี่กุญแจครับพ่อเลี้ยง”
“ขอบใจ”
“พ่อเลี้ยงครับ วันนี้ไปรับที่สาวคนไหนมาครับ?”
“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับแก”
“เออ..ผมว่าเธอสวยเหมาะกับพ่อเลี้ยงกว่าคนอื่นๆ เลยครับ”
“เรื่องนั้นฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง แล้วก็ห้ามไปบอกเธอล่ะว่าฉันเป็นใคร เธอคือลูกสาวของคุณดวงใจ ฉันจะเล่นเกมส์ของฉันบ้าง แกหุบปากให้สนิทห้ามบอกเรื่องอะไรให้เธอรู้เป็นเด็ดขาด”
“ครับพ่อเลี้ยง” เอียดรับคำอย่าง งง ๆ
“พรุ่งนี้ที่ไร่ ฉันจะอธิบายกับทุกคนเอง”
“เออ!..ครับพ่อเลี้ยง..แหะๆ ม่ะไม่มีๆอะไรแล้วครับ” แววตาเคร่งขรึมดุดันทำให้เอียดไม่กล้าเซ้าซี้ถามเหตุผลพ่อเลี้ยงอีกต่อไป
เอียดรีบออกไปก่อนจะทำให้พ่อเลี้ยงจะหงุดหงิด เขาเป็นจอมฮาของคนทั้งไร่ แต่วันนี้แค่อยากจะแซวพ่อเลี้ยงขึ้นมา แต่ว่าดูจากสายตาพ่อเลี้ยงเขาเลยไม่กล้าเล่นด้วย
ร่างสูงใหญ่เดินขึ้นบันไดมาด้วยกระเป๋าลากใบใหญ่ เขาเคาะห้องแต่ไม่มีเสียงตอบรับ เลยถือวิสาสะเปิดเข้าไปปรากฏมีแค่ห้องนอนที่ว่างเปล่า ภูดิศเดินตามหา เขาเดินมาที่เฉลียงก่อนจะพบกับสาวผมยาวสยายสีดำขลับแผ่กระจายเต็มแผ่นหลังดึงดูดสายตาได้อย่างชะงัด หวันยิหวาได้ยินเสียงฝีเท้าจึงหันกลับมามอง ดวงตากลมโตเบิกขึ้น ภูดิศเดินมายังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วทรุดลงนั่ง
“เป็นไงครับที่นี่อากาศดีไหม?” ชายหนุ่มทักขึ้นเพราะเห็นว่าเธอยืนรับลมอยู่ด้านนอก
“ดีค่ะ บรรยากาศดี วิวก็สวย” รอบพื้นที่บริเวณหน้าบ้านมีสระน้ำที่สวยงามและมีสะพานทอดข้ามมายังตัวบ้านอีกที สามารถชมวิวได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่างเลยทีเดียว ทั้งสีของต้นเฟื้องฟ้าและกุหลาบช่างสดใสงามตาเหลือเกิน
“บ้านพ่อเลี้ยงทำเป็นอุทยานสวนดอกไม้ย่อม ๆ ครับ จริง ๆ เมื่อก่อนก็เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย เปิดให้คนมาถ่ายรูปและพักที่นี่ได้ครับ...แต่ตอนนี้พ่อเลี้ยงสั่งให้ปิดไว้ก่อนครับ”
“ทำไมเหรอคะ? น่าเสียดายจัง”
“พ่อเลี้ยงจะซื้อที่ทำแปลงที่ติดกับไร่อีกฟากหนึ่งทำเป็น รีสอร์ตครับ ตรงนี้พ่อเลี้ยงจะเอาไว้พักส่วนตัว”
“แต่ฉันว่า...มันใหญ่เกินไปนะคะ แล้วพ่อเลี้ยงพักตรงส่วนไหนของที่นี่เหรอคะ?” ภูดิศจะตอบยังไงดี ถ้าหมายถึงพ่อเลี้ยงแสนคำก็พักเรือนเดียวกับเธอนั่นแหละ แต่ถ้าหมายถึงพ่อเลี้ยงอย่างเขาก็เรือนลีลาวดี เข้ายิ้มเล็กน้อย ๆ แล้วเอ่ยตอบเธอไป
“ก็พักห้องตรงข้ามกับคุณไงครับ” จริง ๆ แล้วภูดิศตั้งใจให้เธอนอนเรือนลีลาวดี เรือนเดียวกันกับที่เขาพัก แต่เพราะดวงใจแม่ของเธอก็พักที่นี่ ถ้าคืนนี้เป็นไปได้เขาก็อยากพาเธอไปที่นั่น แต่ช่างเถอะเก็บเธอไว้ก่อนอย่าเพิ่งขย่ำตั้งแต่มาถึงเลย รอให้แม่ของเธอบอกเรื่องพินัยกรรมก่อนเถอะ ดูสิ!..ว่าจะทำยังไง? จะยอมเป็นเมียเขาเลยแบบผู้หญิงอื่น ๆ หรือเปล่า? ภูดิศชักอยากรู้ รูปร่างหน้าตาเธอสวยใช่เล่น อกตึงสะโพกผึ่งผาย ดูสิว่าเขาจะอดใจได้สักกี่วัน
“อ๋อ...ค่ะ
“ผมเอากระเป๋าไว้ให้คุณที่ห้องนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“รถคุณจอดอยู่ด้านล่างนะครับ”
“ค่ะ ฉันเห็นแล้ว
“นี่กุญแจรถคุณนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวตรงหน้ามองไปรอบ ๆ ห้องที่นี่เปลี่ยนไปมาก หวันยิหวาเคยอยู่ที่นี่กับแม่ได้เพียงไม่นาน จำได้ว่าตอนนั้นเธออายุเพียง 10 ขวบคุณย่าก็มารับไปงานศพของพ่อจากนั้นเธอตัดสินใจที่จะอยู่กับคุณย่า เพราะท่านไม่มีใครอยู่ดูแลแต่คุณย่าก็ส่งหวันยิหวาไปเรียนที่เมืองนอกแต่เด็ก เพราะกลัวว่าดวงใจแม่ของเธอจะมารับตัวกลับ หวันยิหวาเพิ่งติดต่อกับดวงใจแม่ของเธอได้ตั้งแต่ตอนที่เริ่มมีโซเชียลนี้เอง
กลุ่มคนงานที่ตั้งวงกินเหล้าหลังเลิกงาน พอเห็นหัวหน้าเดินมาจึงรีบทักขึ้น
“เฮ้ย!..เอียด พ่อเลี้ยงให้แกไปทำอะไรวะ?”คนที่เพิ่งถูกพ่อเลี้ยงคนใหม่เรียกใช้งานหันมาตามเสียง ลุงชิดคนงานเก่าแก่ของที่ไร่เรียกตามความสนิทสนม เพราะเอียดก็เป็นหลานลุงชิด
“พ่อเลี้ยงให้ฉันไปขับรถแขกของพ่อเลี้ยงที่จอดอยู่ปากทางเข้าไร่ ไปไว้เรือนเฟื่องฟ้า
“แล้ววันนี้มีสาวคนไหนมาหาพ่อเลี้ยงหรือวะ?” ลุงชิดถามขึ้นเพราะปกติต้องไปพักเรือนลีลาวดี
“ไม่มีหรอก คนนี้ไม่ใช่เขาเป็นลูกสาวของคุณดวงใจ” เอียดบอกลุงชิดที่ถามไป
“ว่าแล้วคุณดวงใจต้องให้เธอมาที่นี่เพราะพินัยกรรม?”
“พ่อเลี้ยงบอกว่าห้ามบอกใคร พ่อเลี้ยงโกหกเธอว่าเป็นหัวหน้าคนงานในไร่ แถมยังบอกว่าชื่อเอียดอีกนะ”
“ตายแล้ว นี่เรื่องมันชักจะอีรุงตุงนังแล้วนะโว้ย!..”
“พ่อเลี้ยงจะมาบอกทุกคนพรุ่งนี้เช้าที่ไร่”
“เอ่อ!...แล้ววันนี้คุณโรสไม่มาเหรอว่ะ”
“อ๋อคุณโรส เขากลับไปแล้ว” เอียดรีบบอกเพราะเห็นภูดิศทะเลาะกับริสรินและไล่เธอกลับไปตั้งแต่เมื่อเช้า
ตั้งแต่คุณดวงใจเข้าโรงพยาบาลภูดิศก็มีหญิงสาวแวะเวียนมาตลอด ส่วนใหญ่ดวงใจจะสั่งนายเอียดให้คอยรายงานเธอเรื่องนี้เสมอ เอียดจึงต้องรู้เรื่องราวว่าเจ้านายเขามีหญิงกี่คนแวะเวียนมาหาบ้างเพื่อคอยรายงานดวงใจ
ลูกน้องต่างรู้กันดีว่า ภูดิศมักมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาแวะเวียนกันมาหาประจำ ทั้งที่คบกันแบบชั่วคราว และแบบระยะยาวแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยจริงจังกับใครเลย ที่จะมาบ่อย ๆระยะนี้ ก็มีแต่รสรินที่มาเป็นคู่ขาประจำของพ่อเลี้ยงภูดิศ
สำหรับการตื่นนอนของเช้าวันแรกที่ไร่ชาภูตะวัน หวันยิหวาเห็นอากาศยามเช้าสดชื่น หล่อนจึงมาเดินสูดโอโซน เธอเห็นทุกอย่างในไร่ชาท่ามกลางภูเขาแห่งนี้ ทิวทัศที่สวยงามของชาที่ปลูกในรูปแบบของขั้นบันได และยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ อีกสามที่ ‘น่าจะเอาไว้รับรอบนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะชิมชาของที่ไร่เป็นแน่’ จากนั้นหญิงสาวก็กลับไปที่เรือนเฟื่องฟ้าบังเอิญได้กลิ่นอาหารที่แม่ครัวกำลังทำอยู่ หวันยิหวาจึงตามกลิ่นนั้นเข้าไปในห้องครัว
“สวัสดีค่ะ ป้าชื่นมีอะไรให้ยิหวาช่วยไหมคะ?” เสียงหวาน ๆ เอ่ยขึ้น เธอนึกชื่อที่แม่ครั้วที่เขาบอกได้ว่าป้าชื่นจะมาทำอาหารให้เธอตั้งแต่เมื่อวานเย็น แต่เธอไม่อยากทานมื้อเย็น เลยให้มาทำมื้อเช้าแทน ป้าชื่นเธอคุ้นชื่อนี้เพราะตอนที่แม่พาเธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ ป้าชื่นก็ทำงานอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ป้าชื่นคงจะจำเธอไม่ได้หรอก เอาไว้แม่เธอออกจากโรงพยาบาลค่อยถามก็แล้วกันว่า ใช่ป้าชื่นคนเดียวกันหรือเปล่า
“อ๋อ ไม่มีหรอกค่ะป้าทำใกล้จะเสร็จแล้ว คุณยิหวาไปนั่งรอที่โต๊ะเลยเดี๋ยวป้ายกสำรับออกไปนะคะ” ป้าชื่นแม่ครัวประจำของที่นี่บอกกับหญิงสาว
“ป้า..วันนี้พ่อเลี้ยงเขาจะกลับมาเหรอยังคะ?”
“พ่อเลี้ยงเหรอค่ะ..?” ป้าชื่น แม่ครัวสูงวัยความจำไม่ค่อยจะดีนักพยายามนึกถึงคำสั่งของภูดิศเมื่อคืน เลยลืมนึกไปว่าคุณดวงใจมีลูกชื่อหวันยิหวา
“พ่อเลี้ยงน่าจะยังไม่กลับวันนี้นะคะ”
“แล้วลูกน้องพ่อเลี้ยงที่ชื่อนายเอียดล่ะคะ”
“อ๋อ น่าจะออกไปในไร่แล้วค่ะ”
ภูดิศ เรียกคนงานใกล้ชิดทุกคนให้เข้ามาฟังเรื่องที่เขาต้องการให้ทุกคนปิดบังฐานะที่แท้จริงของเขาเพื่อหลอกหวันยิหวาว่าเขาเป็นแค่หัวหน้าคนงานที่ไร่ เขาอ้างกับทุกคนว่า หวันยิหวามาตามพินัยกรรมเพราะเธออยากได้สมบัติ หวันยิหวารู้เพียงว่าแม่เธอให้มาช่วยงานพ่อเลี้ยงที่ไร่ คนงามที่เห็นใจภูดิศจึงช่วยกันปกปิดฐานะที่แท้จริงให้
“แล้วคุณภูจะทำอย่างไรต่อไปครับ”
“ถ้าเธออยากแต่งงานกับฉันเพราะอยากได้สมบัติละก็ ฉันจะทำให้เธอหย่าให้ได้ หลังจากทุกอย่างเป็นของฉันแล้วยังไงล่ะ”