บทที่ 7 คุณปู่ออกหน้า

1637 คำ
ทางฝั่งบ้านหลี่และบ้านรองหลี่นั่งกินอาหารกันด้วยอารมณ์โกรธที่ยังไม่หาย ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับหลี่อิงอิงที่แสนจะขี้ขลาดคนนั้น “พ่อคะ เราจะทำยังไงดี นังอิงอิงมันให้เวลาเราสามวันเองนะคะ ปู่ย่าช่วยหน่อยสิ ถ้าหากต้องย้ายออกจากที่นั่นไม่เท่ากับเรากลัวคำขู่มันเหรอ” หลี่เหยาพูดอย่างไม่ยินยอมเมื่อคิดว่าเธอจะต้องย้ายออกจากบ้านแล้วกลับมาอยู่รวมกับบ้านหลี่ เธออายเขาตาย “ไม่ใช่เพราะแกเหรอที่ไปหาเรื่องนังอิงอิง ไม่อย่างนั้นจะโดนมันไล่ออกจากบ้านหรือไง” หลี่หยวนหันมาตวาดใส่ลูกสาว มีอย่างที่ไหนอยู่ดีไม่ว่าดีไปหาเรื่องจนโดนไล่ออกจากบ้าน ตัวเขาเองก็ไม่ยินยอมเหมือนกัน ไล่ออกแล้วยังไงในเมื่อเขาไม่ออกซะอย่างใครจะทำไม กล้าอกตัญญูไหมล่ะ แต่หลี่หยวนลืมไปว่าเขาไม่ใช่พ่อแม่ของหลี่อิงอิง “แล้วแกจะทำยังไงเจ้ารอง แม่ว่าแกกลับมาอยู่ที่บ้านเราเหมือนเดิมเถอะ ตอนนี้หลี่อิงอิงก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว หากว่าหลานแจ้งทางการขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง” นางฉินซื่อพูดกับลูกชาย “ไม่เอาหรอกแม่ อยู่บ้านเจ้าสามก็สบายดีอยู่แล้ว ไม่อยากไปอุดอู้กับครอบครับพี่ใหญ่” หลี่หยวนนั้นไม่ค่อยถูกกับพี่ชายของตัวเองเท่าไหร่ เพราะตัวเขานั้นแอบชอบกุ้ยฮวาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กสาวแล้ว แต่ใครจะคิดว่าพี่ชายจะแต่งงานกับเธอ ตั้งแต่นั้นเขาเลยมักจะไม่ลงรอยกับพี่ชายจนมาถึงปัจจุบันนี้ “แล้วแกไม่กลัวหลานจะแจ้งทางการหรือไง แม่คิดว่าหลี่อิงอิงคงจะทำจริงหากว่าครอบครัวของแกไม่ย้ายออกมา” “เธอก็อย่าไปกดดันเจ้ารองเลย ฉันไม่คิดว่าหลี่อิงอิงจะกล้าทำหรอก อย่าลืมว่าอย่างน้อยๆ เราก็ยังเป็นปู่กับย่าของเธอ หากเราจะลองไปพูดดูอีกครั้ง” หลี่ตวนตัดสินใจที่จะคุยกับหลานสาวอีกครั้ง ในใจเขาคิดเพียงว่าหลานสาวคนนี้ช่างอกตัญญูนักที่กล้าไล่ลุงของเธอออกมาจากบ้านแบบนี้ แถมยังไล่ต่อหน้าคนอื่นมากมายแบบนี้ด้วย เมื่อได้ยินปู่พูดแบบนี้หลี่เหยาจึงทำสีหน้าดีขึ้นก่อนจะกินอาหารต่อเพราะกลัวจะหมดเวลาพัก เมื่อได้เวลาลงงานช่วงบ่ายทุกคนก็ยังตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองให้เสร็จ ตอนนี้หลี่อิงอิงเริ่มจะปรับตัวได้บ้างแล้ว เพราะว่าเธอเริ่มจะชำนาญถึงแม้ว่าร่างกายนี้จะทำมาก่อนแต่ตัวเธอไม่เคยทำและลำบากแบบนี้ ทีแรกจึงคิดถอดใจ ทุกกิริยาของหลี่อิงอิงมักจะมีคนๆ หนึ่งคอยมองอยู่เสมอ ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องคอยมองสาวน้อยคนนี้ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เดินก็แทบจะชนกันแต่เขาก็ไม่คิดที่จะสนใจ แต่วันนี้เขากลับมองว่าหลี่อิงอิงนั้นมีบางอย่างที่ดึงดูดเขาไว้ แต่กลับบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร “พี่จี้หยวน พี่เป็นอะไรหรือเปล่า วันนี้ดูท่าทางไม่ปกติ” หลงจื่อถามสหายของเขา เฉิงจี้หยวนนั้นหันสายตามามองคนที่พูดครั้งหนึ่งจากนั้นก็หันกลับไปทำงานต่อแบบไม่พูดอะไร ทำให้หลงจื่อนั้นส่ายหัวให้กับสหายของเขาคนนี้ ที่แปลกไม่มีใครเกินจริงๆ แต่อย่างว่าถ้าไม่แปลกก็คงไม่มาอยู่ที่นี่หรอก “ผมว่าหลี่อิงอิงวันนี้แปลกมาก แต่ก็นะ อาจจะเจออะไรมาหนัก ได้ยินเธอบอกว่าเกือบตายด้วยไม่ใช่เหรอเมื่อวาน นี่แหละคนเกือบตายจึงจะทำให้คิดได้และต้องลุกขึ้นสู้เพื่อชีวิตรอดของตัวเอง” “แต่ว่าก็ว่านะพี่ ผมว่าเธอจะต้องมีปัญหาตามมาแน่ เล่นไล่ลุงของเธอออกจากบ้านต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น รู้ๆ กันอยู่ว่าบ้านหลี่ร้ายจะตาย แต่เว้นครอบครัวลุงใหญ่ของเธอ” หลงจื่อยังคงพูดต่อตามสิ่งที่เขาเห็นและได้ยิน ส่วนเฉิงจี้หยวนนั้นไม่ได้สนใจที่จะฟัง แต่พอได้ยินว่าหลี่อิงอิงนั้นจะเกิดปัญหาก็หันกลับมามอง “นายคิดว่าจะเกิดปัญหาอะไร” เฉิงจี้หยวนหันกลับมาถามสหายของเขาหลังจากที่ไม่สนใจมาพักใหญ่ ทำให้หลงจื่อแทบจะทำเคียวในมือหลุดเพราะว่าสหายของเขาสนใจโลกภายนอกแล้ว “ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าหากว่าหลี่อิงอิงนั้นสามารถทำอย่างที่พูดคือทวงบ้านคืนได้ อดีตคู่หมั้นที่ลูกพี่ลูกน้องอย่างหลี่เหยาแย่งไปนั้นต้องกลับมาวุ่นวายกับเธออีกแน่นอน ไม่เชื่อพี่คอยดูสิ” หลงจื่อคิดว่าเขาไม่ใช่คนชอบนินทา แต่เรื่องนี้มันดังมากที่คู่หมั้นขอถอนหมั้นเพื่อที่จะมาคบกับลูกพี่ลูกน้องของหลี่อิงอิง “ถ้าเป็นอย่างที่นายพูด ก็จัดการด้วยแล้วกัน ทำยังไงก็ได้ให้มันไปจากหมู่บ้านนี้ หรือไม่ก็ทำให้เดินไม่ได้ จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายอีก” เฉิงจี้หยวนชายผู้แสนจะเย็นชา ถึงแม้จะมีแผลเป็นที่คิ้วขวาก็ไม่ทำให้ความหล่อของเขาลดลงเลย แต่หญิงสาวในหมู่บ้านไม่ค่อยจะกล้าเขาใกล้เพราะว่าชายคนนี้ไม่สนใจและไม่เคยไว้หน้าใครหากคนคนนั้นเข้ามาวุ่นวายกับเขา “พี่เอาจริงเหรอ” หลงจื่อถามสหายอีกครั้ง นานแค่ไหนแล้วที่สหายของเขาไม่สนใจใคร แต่ทำไมกับสาวน้อยนามว่าหลี่อิงอิงคนนี้ทำให้ชายหนุ่มผู้แสนจะเย็นชาและไม่สนโลกกลับมาสนใจได้ เฉิงจี้หยวนไม่พูดแต่กลับไปสนใจงานตรงหน้าต่อ ตัวเขาเองยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะเพราะสายตาที่ไม่ยินยอมและไม่กลัวคนละมั้งที่ดึงดูดให้เขากลับมามองและสนใจเธอ เมื่อได้เวลาเลิกงานสัญญาณก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเก็บอุปกรณ์เข้าที่แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกลับบ้านของตัวเอง ส่วนยุวปัญญาชนนั้นต่างก็กลับที่พักที่ทางคอมมูนจัดไว้ให้ โดยแยกชายหญิง หลี่อิงอิงนั้นกำลังจะเดินกลับบ้านพร้อมกับสหาย แต่ดันได้ยินเสียงเรียกเธอไว้เสียงดัง “อิงอิงรอคุยกับปู่ก่อน” หลี่อิงอิงหันกลับไปตามเสียงเรียกก็เจอกับบ้านหลี่ทั้งบ้านขาดเพียงครอบครัวของลุงใหญ่ เธอจึงทำได้เพียงแต่ถอนใจ “ปู่มีอะไรหรือเปล่าคะ เรียกฉันไว้ทำไม” “ปู่มีเรื่องจะคุยกับเราหน่อย ขอคุยกันแต่ในครอบครัวได้ไหม”ระหว่างที่หลี่ตวนพูดนั้นก็ปรายตาไปมองครองครัวคังที่ยืนกับหลานสาวอยู่ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณปู่ ลุงคัง ป้าเหมยนั้นเป็นเหมือนครอบครัวของฉัน เพราะตั้งแต่ที่พ่อแม่จากไปก็มีแต่ครอบครัวลุงคังนี่แหละค่ะที่คอยช่วยเหลือและให้อาหารฉันกินอยู่ตลอด” หลี่อิงอิงนั้นแสดงจุดยืนชัดเจนว่าใครคือคนในครอบครัวของเธอ หลี่ตวนได้ยินหลานสาวพูดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะว่าเขานั้นแทบจะไม่ได้สนใจหลานสาวคนนี้เลย "ปู่จะคุยกับเราเรื่องลุงรอง ทำไมต้องให้ลุงรองออกจากบ้านอยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ ในเมื่ออยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้ว" "การที่ฉันให้ลุงรองนั้นออกจากบ้านก็สมเหตุสมผลที่สุดแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันเองก็อายุสิบหกจะเข้าสิบเจ็ดปีโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่มาดูแลอีก ปู่จำไม่ได้เหรอครั้งที่ลุงรองต้องการเข้ามาอยู่ในบ้าน ปู่และลุงรองพูดว่ายังไง" หลี่อิงอิงพูดตามความทรงจำ ก่อนจะกันหน้ามองทั้งสองคนที่ตอนนี้แสดงสีหน้าแทบจะดูไม่ได้ "ถึงปู่และลุงรองจำไม่ได้ แต่ฉันหลี่อิงอิงกลับจำได้ดีเลยนะคะ ปู่บอกว่าให้ลุงรองมาดูแลฉันที่บ้านจนกว่าฉันจะดูแลตัวเองได้ หรือว่าจนกว่าจะเรียนจบ ตอนนี้เรื่องเรียนจบปัดทิ้งไปได้เลย เพราะลุงรองยึดเงินที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้เพื่อเรียนหนังสือและเลี้ยงตัวเองไปจนหมด ส่วนเรื่องดูแลตัวเองนั้นฉันคิดได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ ฉันโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว หากให้ลุงรองหรือคนในครอบครัวของลุงรองดูแล ฉันคงจะตายจริงๆ เข้าสักวัน ฉันไม่สนใจหรอกนะคะว่าใครจะคิดยังไงที่ฉันทำแบบนี้ และไม่เคยลืมธรรมเนียมตั้งแต่โบราณที่สอนมาตลอดว่าให้กตัญญูกับบิดามารดา แต่คุณปู่ลืมไปหรือเปล่าคะว่าพ่อของฉันหรือลูกชายคนที่สามของคุณปู่นั้นได้ตายไปหลายปีแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่จำเป็นต้องกตัญญูต่อใครอีก"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม