เล่ห์ร้าย กลรักกามเทพ EP.06 คนปากไม่ตรงกับใจ (2)

1489 คำ
ส่งยิ้มให้สาวน้อยอีกคน ก่อนจะเดินออกจากร้านอาหาร ตรงไปยังจุดหมายที่แม่เด็กน้อยของเขายืนคุยโทรศัพท์ แล้วหยุดอยู่ด้านหลัง โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว เพราะยังคงสนใจคู่สนทนาอยู่นั้นเอง “ได้ แล้วเจอกัน อืมม์... อีกประมาณชั่วโมงนะพี่วิทย์ เจอกันที่หน้าโรงหนังเลย กนกก็จะออกไปแล้วเหมือนกัน” ตัดสายคู่สนทนา แล้วหันกลับ เธอก็ชนเข้ากับอกใครบางคน “ขอโทษคะ” พอเงยหน้าเพื่อจะยิ้มให้แต่พอเห็นว่าเป็นใคร เท่านั้นแหละ ใบหน้าหวานที่กำลังจะส่งยิ้มให้กับหุบยิ้มลงทันควัน “มายืนทำบ้าอะไรของลุง ยังไม่กลับอีกเหรอ” น้ำเสียงที่ถามนั้นไม่ได้อ่อนหวาน เหมือนกับตอนที่เอ่ยขอโทษไปเลย เวคินทร์สบตามองใบหน้าหวานซึ้งนั้นอย่างชังใจ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เวลาเราพูดหวานๆ น่ารักมากเลยรู้ไหม” คำพูดที่ชายหนุ่มพูดออกไป ทำเอาคนที่ถูกชมถึงกับหน้าแดงด้วยความอายและโกรธที่เจออีกฝ่ายพูดแบบนี้ “หลานขอตัวก่อนนะลุง พอดีมีนัด จะต้องรีบไป” กนกจันทร์สบตาคมเข้มสีนิลนั้นด้วยความสะใจ เธอรู้ดีกว่า ชายหนุ่มตรงหน้านี้เกลียดนักหนากับคำพูดที่ว่าตนแก่ ยิ้มหวานให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินผ่านร่างสูงใหญ่ไป “เดี๋ยวสิ!” น้ำเสียงที่เรียกนั้น มันดูทะแม่งยังไงก็ไม่รู้ จะว่ามันหวานก็ไม่หวาน จะว่าขู่เธอก็ไม่ใช่ กนกจันทร์หยุดเดิน แล้วหันมามองแต่แล้วก็ต้องอึ้งไปเลย เพราะพอเธอหันกลับไปมอง ก็เจอใบหน้าคมเข้มนั้น ก้มลงมาจนชิดใบหน้าเธอ โดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว สบตาคมเข้มสีนิลนั้นด้วยความตกใจ เพราะมันอยู่ใกล้ใบหน้าเธอจนเกินไป ยังสายตาที่ส่งมาให้เธอเหมือนกับว่า สายตาสีนิลคู่นั้นกำลังส่งยิ้มหวานมาให้เธอ ปากหยักสวยได้รูปของชายหนุ่มประทับลงใบแก้มเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดขึ้นต่ออีกว่า “มัดจำเอาไว้ก่อน แล้วที่เหลือฉันจะตามมาทวงเก็บดอกที่หลัง เด็กน้อยของฉัน!” กนกจันทร์ยังคงยืนงงอยู่แบบนั้น จนสายตาเธอมองไม่เห็นชายหนุ่มเสียแล้ว ยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเองด้วยความงุนงง ถ้าเธอจำไม่ผิด สมองไม่ได้พิการ เมื่อกี้เธอโดนตาลุงนั้นหอมแก้มใช่ไหม? กำมืออีกข้างเอาไว้แน่นด้วยความโกรธ ที่เธอโดนจู่โจมแบบนี้ แถมยังโดนตาแก่บ้านั้นขโมยหอมแก้มเธออีก “คุณเปิดสงครามกับฉันเองนะ คุณเวคินทร์ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” กนกจันทร์สาวเท้าตรงเข้าไปในร้านอาหารด้วยความโกรธ เริ่มคิดแผนการเอาคืนชายหนุ่มขึ้นมาทันที ตอนนี้เธอต้องทำสีหน้าและน้ำเสียงให้เป็นปกติเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะเจอคำถามที่เธอไม่อยากตอบจากเพื่อนรักทั้งสองอีก ////////// กนกจันทร์สาวเท้าเดินตรงมายังหน้าโรงหนังด้วยความรีบร้อน เนื่องจากเธอนัดกับเพื่อนชายแต่หัวใจหญิงตั้งแต่เช้าว่าวันนี้เธอและชายหนุ่มจะมาดูหนังด้วยกัน เมื่อคืนเธอก็เสียมารยาท แอบหนีกลับก่อน ตอนไปเที่ยวผับ หญิงสาวก้มมองนาฬิกาบ่นข้อมือด้วยความไม่สบายใจ เนื่องจากเธอมาเลยเวลาที่นัดเอาไว้เกือบครึ่งชั่วโมง เหลียวซ้ายเหลียวขวามองหาก็ไม่พบเพื่อนชายคนสนิทของเธอสักที สาวเท้าเดินตรงไปยังหน้าร้านกาแฟข้างจุดนัดพบของเธอและเพื่อน วางกระเป๋าใบใหญ่ลงบนเก้าอี้ที่ทางห้างจัดเอาไว้ ก่อนก้มลงนั่งด้วยความเหนื่อย เนื่องจากเธอรีบมากจนตั้งวิ่งขึ้นมาเลยทีเดียว ‘พี่วิทย์ไปไหนเนี้ย หรือว่าเรามาสายเกินไป แบบนี้มีหวังพี่วิทย์ด่าเละแน่’ แล้วจึงบ่นกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด พลางนึกไปถึงตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องมาสาย แล้วก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไม เธอจะต้องคอยทะเลาะกับตาลุงไม่มีหัวคิดนั้น จะว่าไปหน้าตา ตาลุงนั้นก็ไม่ได้แก่อย่างที่เธอว่าสักหน่อย แต่สมองนี่สิ ไม่แน่ใจว่าครบสามสิบสองหรือเปล่า ถึงได้คอยหาเรื่องรังควานเธอไม่เลิกสักที ก่อนล้วงกระเป๋าขึ้นมาดูว่าเป็นใครโทรฯมาหา แล้วกดรับด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่าเป็นเธอใคร “พี่วิทย์ ตอนนี้อยู่ที่ไหน กนกอยู่ที่เมเจอร์แล้วนะ” (ขอโทษทีนะกนก พอดีฉันไปไม่ได้แล้ว) “ทำไมล่ะค่ะพี่วิทย์” กนกจันทร์ถึงกับหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เธออุตสาห์รีบเกือบตาย และคนที่นัดเธอดันไม่มาเสียนิ มันจะอะไรนักหนา ทำไมวันนี้มันมีแต่เรื่องก็ไม่รู้? (พอดี พี่ติดธุระจริงๆ ขอโทษนะกนก ที่พี่ชวนกนกไปแล้ว พี่ดันมาผิดนัดนะ อย่าโกรธกันนะ เอาไว้วันหลังน้านะ กนกที่รัก พี่จะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนนะ แค่นี้ก่อนนะ ที่รักพี่มาแล้ว) กนกจันทร์ถึงกับนั่งอึ้ง เซ็งกับการผิดนัดแบบนี้จริงเลย แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงละ เพื่อนเธอทุกๆ คน ก็ทำงานกันหมด แล้วพัชราก็คงกลับบ้านไปแล้วด้วย ส่วนปานดาวนั้นไม่ต้องพูดถึง หญิงสาวคงกลับไปทำงานพร้อมกับสามีรูปหล่ออย่างคิมหันต์อีกนั่นแหละ “เฮ้อ...ดูคนเดียวก็ได้” เธอถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็ง ลุกขึ้นสาวเท้าเดินตรงไปยังจุดที่ขายตั๋วหนัง เงยหน้าขึ้นไปมองตารางหนังด้วยความเร็ว “ดูเรื่องนี้แหละ น่าจะมัน น้องค่ะ เอาเรื่องนี้ใบหนึ่งนะ” “สองใบเลยครับ” เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหลัง ทำเอากนกจันทร์ถึงกับอึ้ง จะถอยหลังก็ทำไม่ได้เพราะ ตาลุงที่บ่นอยู่เมื่อกี้ ดันมายืนซ้อนด้านหลังเธออยู่ แถมยังยืนเสียชิด เหมือนกับว่าตาลุงนี่กำลังโอบกอดเธอจากด้านหลังเสียด้วยซ้ำ “คุณตามฉันมาหรือไง” กนกจันทร์เอียงข้างหน้าขึ้นมามองเวคินทร์ด้วยความโมโห เวคินทร์ก้มลงมามอง สบตาสวยคู่นั้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนตอบคำถามที่ทำเอาคนเอ่ยถามถึงกับเม้มปากเอาไว้แน่นด้วยความโกรธ “ใช่! ตามมาตั้งนานแล้วด้วย ไม่รู้หรือไง” แล้วขยับเข้าไปอีก จนตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขากำลังยืนกอดกับแม่สาวน้อยของเขาอยู่ ยื่นเงินให้แก่พนักงานขายตั๋ว “นี่ครับเงิน” ก่อนเอื้อมมือมาดึงร่างบางให้เดินตามเขามา “ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ” “เมื่อกี้พูดใหม่สิ เราเรียกฉันว่าอะไรนะ” “ฉันก็เรียกคุณว่าลุงไง มีอะไรไหม” กนกจันทร์ตอบกลับคนตรงหน้าอย่างกวนๆ พยายามดึงมือบางออก แต่ก็ไม่สำเสร็จ เพราะมันแน่นจนเกินไป “ถ้าเรายังเรียกฉันแบบนั้นอีก ฉันจะทำให้เราอายหนักกว่านี้ ไม่เชื่อก็ลองดูสิสาวน้อย” “เหรอ?” “อยากลองดีกับฉันใช่ไหม กนกจันทร์” เวคินทร์ก้มลงมาสอบตาคู่สวยนั้นด้วยรอยยิ้มเหี้ยม เพราะเขาไม่คิดว่าคนแม่สาวน้อยผู้นี้จะกล้าลองดีกลับเขาถึงขนาดนี้ ยิ่งเห็นแววตาคู่สวยนั้นแล้ว อารมณ์ที่เริ่มดีก็ยิ่งหงุดหงิดเข้ามาแทน “ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ คุณนั้นแหละที่โรคจิต คุณลุง ทำไมแก่แล้วไม่อยู่ส่วนแก่ละ ปล่อยให้เด็กๆอย่างฉัน อยู่อย่างสบายเถอะนะ รู้ไหมว่ามันเบื่อ และรำคาญมากเลย เวลาที่มีลุงมาอยู่ใกล้ๆแบบนี้” “เธอ” เวคินทร์ถึงกับ โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ยิ่งคำพูดที่แม่สาวน้อยนี้พูดแล้ว ทำไมมันถึงได้เจ็บจี๊ดในอกแบบนี้ เขาไม่มีค่าในสายตาของเธอเลยหรือไง เขาไม่แก่อย่างที่ผู้หญิงคนนี้บอกเสียหน่อย “อยากลองดีฉันใช่ไหม” ดึงร่างบางเข้ามากอด ก้มลงมาปิดปากอิ่มอูมนั้นด้วยความโกรธ และอยากสั่งสอนให้หญิงสาวรู้สำนึก แต่พอจูบไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนกับว่า เขาเจอกำแพงที่หนาแน่น ที่ปิดกั้นความรู้สึกลึกๆ ภายในจิตใจของหญิงสาวในอ้อมกอด เขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง เมื่อรับรู้ถึงความต้องการ ที่กำลังก่อตัวขึ้น ภายในจิตใจเขา ////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม