ประตูรั้วของคฤหาสน์คาสโตรเซ่นช่างสูงลิบจนผู้หญิงเอเชียตัวเล็กจิ๋วแบบหล่อนไม่อาจจะมองเห็นภายในได้เลย แม้จะกระโดดสูงแค่ไหนก็ตาม
วรันธารายืนทอดถอนใจด้วยความท้อแท้แถมหน้ารั้วยังมีผู้ชายตัวยักษ์อีกสามคนคอยเฝ้าเอาไว้อีกด้วย
แล้วแบบนี้หล่อนจะเข้าไปข้างในได้ยังไงกัน ลำพังแค่แอบมองอยู่แบบนี้ก็กลัวถูกจับได้จะแย่อยู่แล้ว
หญิงสาวทรุดกายลงนั่งกับพื้นหญ้าหลังพุ่มไม้เตี้ย พยายามคิดพยายามนึกถึงหนทางที่จะเข้าไปข้างในอาณาจักรของเควิน แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก
“นี่จะต้องตกงานจริงๆ เหรอเนี่ย”
หญิงสาวบ่นคนตัวเล็กพึมพำในลำคออย่างอ่อนล้า อ่อนแรง และอ่อนเพลียอยู่ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายแก่จัด สมองที่เคยฉลาดไม่อาจจะหาทางออกให้กับชีวิตได้เลยในยามนี้
หล่อนจะทำยังไงดี...?
ร้อยครั้งพันครั้งที่ถามตัวเองออกไปแบบนี้ แต่ไม่มีเลยสักครั้งเดียวที่จะได้คำตอบใดกลับคืนมา
ในที่สุดวรันธาราก็จำต้องลุกขึ้นจากพุ่มไม้ และเดินคอตกจากไปอย่างหมดหวัง
“ป้าเดซี่จะออกไปตลาดหรือครับ”
“ใช่จ้ะ”
“แล้วทำไมไม่ให้คนขับรถไปส่งล่ะครับ”
“คนขับรถประจำของป้าไม่ว่างน่ะ และอีกอย่างป้าก็ซื้อของไม่กี่อย่างด้วย ไปเองแบบนี้แหละสะดวกดี”
เสียงสนทนาแว่วๆ ดังมาเข้าหู และมันก็ทำให้ร่างของวรันธาราหันขวับกลับไปมอง
ร่างของสตรีวัยกลางคนรูปร่างท้วมยืนพูดคุยอยู่กับสามยักษ์ตัวใหญ่ และแน่นอนว่าแผนการบางอย่างเกิดขึ้นในหัวอย่างรวดเร็ว
“คิดออกแล้ว... คิดออกแล้ว...”
รอยยิ้มแห่งความดีใจระบายเต็มใบหน้างาม ก่อนที่หญิงสาวจะรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกคล้ายๆ กับมีคนแอบตามมาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็ทำให้ป้าเดซี่ที่กำลังจะก้าวออกจากซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่หลังจากซื้อของเสร็จแล้วต้องหันกลับไปมองด้านหลังหลายครั้งติด
“ไม่มีนี่น่า สงสัยคิดมากไปเอง”
แต่ก็โล่งใจได้พักเดียวเท่านั้น เพราะพอเดินห่างออกมาจากแห่งชุมชน ผู้ชายตัวโตส่วนที่ปิดปากเอาไว้ครึ่งใบหน้าก็กระโดดมาขวางด้านหน้ากะทันหัน
ป้าเดซี่ตกใจทำของในมือร่วงกับพื้นพร้อมกับถอยหลังหนี แต่ก็ดันไปชนเข้ากับผู้ชายอีกคน
“พวกแกตามฉันมาทำไม”
พวกมันหันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะชอบใจ
“ตามมาแบบนี้ยังต้องให้บอกอีกเหรอป้าว่าพวกฉันเป็นใคร”
กระบอกปืนสีดำถูกดึงออกมาจากขอบกางเกงยีนส์สีซีด ก่อนที่จะเล็งตรงมายังป้าเดซี่
“โจร...” ป้าเดซี่ละล่ำละลักหวาดกลัว “พวกแกเป็น... โจร...”
“ก็ใช่น่ะสิป้า มาดักรอในที่เปลี่ยวๆ แบบนี้ไม่ใช่โจรแล้วจะเป็นอะไรไปได้ล่ะ”
พวกมันหัวเราะร่วนอีกแล้ว แต่ปืนก็ยังเล็งตรงไปยังป้าเดซี่ตลอดเวลา
“แล้วพวกแก... ต้องการอะไรจากฉัน”
“เงินไงป้า มีเท่าไหร่เอามาให้หมด”
“ฉันไม่มีหรอก อย่าเข้ามานะ... อย่าเข้ามา...”
ป้าเดซี่ถอยกรูดเข้าข้างทาง แต่ไม่ช้าก็ต้องกรีดร้องตกใจ เมื่อมือของหนึ่งในโจรห้าร้อยมากระชากแขนเอาไว้
“ปล่อยฉันนะ ไอ้โจรบ้า ปล่อยสิ”
“ก็เอาเงินมาสิป้า เอาเงินมา...”
“ก็บอกว่าไม่มีไงล่ะ ปล่อย!” ป้าเดซี่ยังดิ้นสุดแรงไม่ยอมแพ้ “ถ้าไม่ปล่อยจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้แหละ”
พวกมันหัวเราะเยาะเย้ย พร้อมกับข่มขู่ “ป้าตายก่อนจะได้แจ้งมั้งครับ”
“อย่า... อย่าฆ่าคนแก่อย่างฉันเลยนะ ปล่อยฉันไปเถอะ” เมื่อเห็นไม่มีทางรอดป้าเดซี่อ้อนวอน
“ไม่ฆ่าก็ได้แต่เอาเงินมา”
“ฉันไม่มีจริงๆ ซื้อของไปหมดแล้ว”
“โกหก!”
หนึ่งในโจรกำลังยกมือขึ้นจะฟาดลงบนหน้าของป้าเดซี่ แต่เสียงร้องห้ามก็ดังขึ้นมาก่อน
“หยุดนะ ปล่อยผู้หญิงซะ”
ป้าเดซี่มองผู้หญิงตัวเล็กที่ขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยอย่างดีใจ “แม่หนูช่วยป้าด้วย พวกมันจะฆ่าป้า”
“คุณป้าไม่ต้องกลัวนะคะ ตำรวจกำลังมาแล้ว พวกมันเข้าคุกแน่นอนค่ะ”
“เฮ้ย แกแจ้งตำรวจเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ อีกแปบเดียวก็คงมาถึงแล้ว พวกแกไม่รอดแน่”
สองโจรมองหน้ากันเลิ่กลั่ก “เอาไงดีลูกพี่”
“หนีสิโว๊ย มึงอยากติดคุกหรือไง”
แล้วสองโจรก็ซอยเท้าวิ่งจากไปอย่างไม่น่าเชื่อ วรันธารารีบเข้ามาประคองเดซี่ด้วยความเป็นห่วง
“คุณป้าเป็นอะไรมากไหมคะ”
“ป้าไม่เป็นไรแม่หนู แค่ตกใจเท่านั้นเอง”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูพาไปส่งที่บ้านนะคะ”
ป้าเดซี่มองหญิงสาวต่างเชื้อชาติตรงหน้าด้วยความขอบคุณ “แม่หนูไม่ใช่คนเทกซัสใช่ไหม”
“เอ่อ หนูไม่ใช่คนที่นี่หรอกค่ะ หนูมาอพยพมาจากเมืองไทยน่ะค่ะ”
ป้าเดซี่พยักหน้ารับรู้
“มาอยู่ที่นี่กันกี่ปีแล้วล่ะ”
“หกเจ็ดแปดปีแล้วค่ะป้า”
หญิงวัยกลางคนกวาดตามองสำรวจสตรีสาวสวยตรงหน้าอย่างพิจารณา
“ขอบใจมากนะพี่เข้ามาช่วยป้าเอาไว้ นี่ถ้าไม่ได้แม่หนู ป้าก็อาจจะถูกโจรพวกนั้นฆ่าได้แล้วก็ได้”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะป้า พอดีหนูเดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี ต่อให้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่หนู ถ้ามาเห็นคนแก่ถูกทำร้ายก็ต้องช่วยค่ะ”
“แม่หนูเป็นคนดีมากเลยนะ”
“หนูไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอกค่ะป้า”
แล้วใบหน้าของวรันธาราก็หม่นหมองลงเพราะรู้สึกละอายใจ แต่ป้าเดซี่กลับคิดไปในอีกทิศทางหนึ่ง