บทที่3.1

2073 คำ
ผมจำคำพูดของลูกพลัมให้ขึ้นใจก่อนขับรถไปส่งเธอที่คอนโดฯ แล้วออกมาข้างนอกในเวลาต่อมา ในกระเป๋ามีเงินสดอยู่เท่าไหร่ผมเอามันไปซื้อของกินให้ลูกพลัมหมด ไม่ต้องห่วงนะ... แค่นี้ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วง กระทั่งผมหอบหิ้วมันขึ้นมาบนห้อง ยัยนั่นเลยมีอาการตกละตึงยกใหญ่ “กินให้หมดด้วยนะ” ผมทิ้งตัวนั่งบนโซฟาขณะมองยัยมนุษย์เมนส์ที่หันซ้ายหันขวามองของกินจำนวนมากรอบๆ เองตัวอย่างตื่นตะลึง พูดเองว่ากินได้หมด ดูท่าจะหิวมาก ซื้อมาให้ขนาดนั้นแล้ว ไม่หมดจะตีให้ช้ำไปทั้งตัว “นี่นายประชดฉันเหรอแอล” หลังจากอึ้งกับอาหารมากมาย ในที่สุดลูกพลัมก็ลากสายตากลับมาและจ้องหน้าผม “เยอะขนาดนี้เอามาขุนหมูหรือไง” “ใช่มั้งครับ” ผมตอบ ตอนที่เรายังดีๆ ต่อกัน ประจำเดือนเธอมาเมื่อไหร่ผมมักจะทำแบบนี้ อยากได้อะไรก็ซื้อให้ ถ้าสงสัยว่าทำไมตอนนี้ผมยังตามใจ... คำตอบคือผมยัง ‘รู้สึกดี’ กับเธอเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ‘ความเกลียด’ ที่มีมากพอกัน “เป็นหมูไปซะก็ดี ไอ้สัตว์คิมจะได้เลิกกับเธอ” “เขาดีกว่านายแล้วกัน” รู้สึกฉุนขึ้นมาทันทีเมื่อลูกพลัมเข้าข้างมันอย่างออกนอกหน้านอกตา แต่ผมพยายามข่มกลั้นไม่ให้อารมณ์มันเดือดปะทุ สุดท้ายเลยทำได้แค่ถีบเก้าอี้ใกล้ๆ จนมันกระเด็นไปชนฝาผนัง ‘ตึง...’ การกระแทกกระทั้นและแรงสั่นสะเทือนทำให้ลูกพลัมสะดุ้ง “เลิกพูดมากแล้วหาอะไรกินซะ” ผมเลิกมองหน้าเธอก่อนล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง และใช่... “แอล นั่นของฉัน เมื่อไหร่จะเลิกเสียมารยาทกับของๆ ฉันสักที!” ยัยมนุษย์เมนส์แผดเสียง แต่สักพักก็ไอค่อกแค่กอย่างน่าสงสาร ไม่สบายยังจะปากดี ต้องเช็ดตัวให้ไหมนะ? “ของเธอก็เหมือนกับของฉัน” “นั่นมันเมื่อก่อน” “...” “ตอนนี้ไม่ใช่” ผมแค่นหัวเราะเล็กน้อย แสร้งทำหูทวนลมและเข้าเฟซบุ๊กของลูกพลัมอย่างถือวิสาสะ ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งโพสต์หน้าไทม์ไลน์เธอเมื่อสี่ชั่วโมงก่อน K.Kim ►Lalit Lukplum -หายไปไหนเนี่ย ไม่สบายหรือเปล่า- ผมบล็อกไอ้คิมทันทีอย่างไม่รีรอ และตามบล็อกผู้ชายทุกคนที่ส่งคำขอเป็นเพื่อนจนหมดเกลี้ยง เหลือเพียงไม่กี่คนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง เสน่ห์แรงนัก [จบบทบรรยาย :: แอล] คืนนั้น ฉันอ่อนเพลีย... ฤทธิ์ไข้และอาการปวดท้องประจำเดือนมีส่วนทำให้ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าและไม่อยากทำอะไรนอกจากนอน หลังจากกินเสร็จฉันเลยลากสังขารป่วยๆ ของตัวเองขึ้นมานอนบนโซฟาที่ห้องรับแขก ส่วนแอล... เขากำลังอาบน้ำ ขอให้ลื่นล้มหัวฟาดพื้นตาย ฉันแอบแช่งเขาด้วยความไม่พอใจในหลายๆ เรื่อง อย่างวันนี้เขาทำตัวไร้มารยาทด้วยการไล่บล็อกเพื่อนผู้ชายในเฟซบุ๊กจนหมด แม้แต่คิมเขาก็ไม่เว้น นั่นสินะ แล้วเขาจะละเว้นไปเพื่ออะไร คนเห็นแก่ตัวแบบเขาน่ะ... เหอะ ฉันนอนคิดอะไรอย่างเงียบเชียบ สองหูได้ยินเสียง ‘ซ่า’ ดังอยู่ตลอดเวลาจากทิศทางของห้องน้ำ ภาพในวันเก่าๆ ไหลย้อนเข้ามาในหัวทันที “โอ๊ย ไรเนี่ย!” “เค้าว่าบีบบ่อยๆ นมจะใหญ่” ตอนนั้น... แอลอุ้มฉันเข้าไปในห้องน้ำ เราอาบน้ำด้วยกันบ่อย และมันมักจะจบด้วยการที่เขาทำตัวหื่นกามใส่อยู่เสมอ “ใหญ่ไปอ่อยผู้ชายคนอื่นน่ะเหรอ?” “พูดไรออกมา เดี๋ยวโบกเลย” “กล้า!?” “พะ พูดเล่นเฉยๆ คร้าบ” “ไร้สาระ” ฉันบ่นพึมพำก่อนจะส่ายศีรษะไปมาสองสามทีเพื่อขับไล่ภาพในวันวาน ผ่านมาแล้วจะไปคิดถึงทำไมนะ รกสมองชะมัด ฉันนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่น้ำเย็นเฉียบหยดกระทบปลายจมูก... ฉันปรือตาขึ้น เห็นเงาสูงใหญ่ของผู้ชายอยู่เหนือร่าง เรือนผมสีแดง ดวงตาคมกริบ ผิวขาวและเต็มไปด้วยรอยสัก กลิ่นของเขา แววตาของเขาที่กำลังมองฉัน... มันอบอุ่นและสับสน ฉันเงียบ ริมฝีปากเกร็งเหมือนถูกแช่แข็ง ดูเหมือนแอลไม่รู้ว่าฉันมีสติและรับรู้การมาของเขา เพราะแบบนั้นใช่ไหม... ผู้ชายใจยักษ์ใจมารคนนี้ถึงจูบฉันด้วยสัมผัสแผ่วเบาหนึ่งครั้ง ก่อนกระซิบด้วยโทนเสียงที่ใครฟังคงละลายกลายเป็นน้ำ แต่สำหรับฉัน มันทรมานและเสียดลึกไปถึงขั้วหัวใจ “ยัยขี้เซา ต้องให้อุ้มไปนอนที่เตียงอีกแล้วนะ” คำพูดนั้นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย เหมือนตอนที่เรายังรักกัน แต่ตอนนี้เขาเกลียดฉันแล้ว และฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกันหรอก ฉันยังแกล้งหลับต่อไปเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของเขา กระทั่งแผ่นหลังสัมผัสกับความนุ่มหยุ่นของเตียงนอน ก่อนผ้าห่มจะถูกดึงขึ้นมาคลุมไว้ระดับหน้าอก ฉันได้ยินเสียงลมหายใจของแอล... มันดังอยู่ใกล้ๆ ฉัน ใกล้มากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจกรุ่นร้อน ฟุบ... เวลาต่อมาเตียงยุบลงเล็กน้อยตามน้ำหนักของเขา ฉันรับรู้ได้ว่าเขาอยู่ข้างๆ ฉัน ก่อนความใกล้ชิดนั้นจะกลายเป็นสัมผัสที่แนบสนิทขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้จูบฉัน ไม่ได้กอดฉัน ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าเอาหลังมือของตัวเองมาชนหลังมือฉัน ไม่รู้จริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ได้แต่เก็บความสงสัยเหล่านั้นจนกระทั่งฝ่ามือฉันถูกกุมแน่น แล้วเรื่องมันก็จบลงตรงที่... เขาไม่พูดอะไร ฉันเองก็ไม่เคลื่อนไหวหรือตื่นขึ้นมาตีกับเขาอย่างที่ควรจะเป็น หายหัวไปเป็นปี กลับมาทั้งทีก็ไม่วายทำให้ฉันทรมาน ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทั้งตอนที่ ‘ขาดเขา’ หรือตอนที่ ‘มีเขา’ ความเจ็บปวดมันไม่ได้ต่างกันเลยสักนิด เช้าวันต่อมา “พี่ลูกพลัมๆๆ ตื่นเร็วค่า!” เสียงเจื้อยแจ้วที่ดูตื่นตระหนกกว่าปกติทำให้ฉันรู้สึกตัวทันที ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นจึงพบว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นของอายนั่นเอง วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสีครีม น่ารักจนอยากฟัดแก้มเลยทำไงดี “แต่งตัวน่ารักจังเลย” ฉันลุกขึ้นนั่งอย่างสะลึมสะลือ สองตาพิจารณาชุดเดรสบนตัวอายไปด้วย เธอตัวเล็กและผิวขาวอมชมพูราวกับตุ๊กตา อะไรๆ เลยดูเข้ากับเธอไปซะหมด “ไม่ใช่เวลามาชมหนูน้า แบบว่าๆ พี่แอลโดนพ่อลากคอกลับบ้านแย้ว!” ฉันชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตกใจอะไรขนาดนั้น โดนพ่อลากคอกลับบ้านก็ดีสิ ถือเป็นโอกาสที่ฉันจะไปออกไปจากที่นี่สักที “อ้อ” ฉันครางออกมาหนึ่งคำเพราะยังไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอายกลับไปยังไง จนเธอเริ่มอธิบาย “ไอ้พี่เฮงซวยมันไปตีกับคนอื่นอ่ะพี่ลูกพลัม เห็นว่าเป็นศัตรูเก่าแก่” ฉันพยักหน้ารับ แอลมีสายเลือดอันธพาลมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก่อนเราจะคบกันเขาก็เที่ยวมีเรื่องกับคนอื่นไปทั่ว ด้วยเหตุผลส่วนตัวบ้าง ช่วยเหลือคนถูกรังแกบ้าง หรือบางทีแค่ไปเหยียบเท้าคนอื่นเข้าจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต แอลไม่เคยยอมใคร ถ้ากล่าวขอโทษแล้วอีกฝ่ายไม่จบ เขาก็ไม่จบจนกว่าคนๆ นั้นจะหมดสภาพ โรงพักน่ะ เขาไปบ่อยยิ่งว่ามหาวิทยาลัยซะอีก ส่วนบ้าน... ถ้าเรื่องมันเกินทนจริงๆ พ่อของแอลจะลากไปสั่งสอนที่นั่นอีกที พอกลับมาก็ทำหน้าบูดบึ้งทุกครั้ง “พี่ชายอายใจร้อน สมควร” ฉันพูด “ใช่! ก็สมน้ำหน้าแหละ” อายพยักหน้า เราดูเข้ากันได้ดีนะ “เพราะแบบนี้ไงคะ ไอ้พี่บ้ามันเลยให้หนูมาอยู่กับพี่ลูกพลัมชั่วคราว” “...” “มันบอกว่าพี่ไม่สบาย เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะแย่” อายมองหน้าฉัน เธอยิ้มนิดๆ “เนี่ย พี่หนูมันปากหมาทำตัวเกเรเฉยๆ หรอก ใจจริงมันรักพี่จะตาย” “เหรอ” ฉันแค่นหัวเราะ ปลายเล็บจิกแน่นกับผ้าห่ม ยังไงอายก็ต้องเข้าข้างพี่ชายตัวเองอยู่แล้ว ถูกไหม? “หูย ไม่อยากจะโม้ มันน่ะ...” “แต่พี่ไม่อยากอยู่ที่นี่ค่ะ” ฉันเสียมารยาทด้วยการแทรกเสียงขึ้นมา ทำเอาอายชะงัก สีหน้าเธอเจื่อนลงทันตาเห็น “แอลเกลียดพี่ และพี่ก็เกลียดเขา เราอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก” “ไม่ใช่นะคะ...” อายเบ้ปาก เธอขึ้นมานั่งบนเตียงกับฉันพร้อมทั้งเอาสองมือขยุ้มหน้าตักฉันอย่างเอาแต่ใจ “ไอ้พี่บ้ามันรักพี่ลูกพลัมมากกกก แต่มัน...” “แต่มันเลวค่ะ” ฉันตอบให้ อะไรที่แอลทำกับฉันไว้ ฉันไม่เคยลืม จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม... ฉันขอไม่กลับไปรักคนอย่างเขาอีกแล้ว สาบานเลย “อ่า” อายอ้าปากพะงาบเหมือนหมดคำพูด ฉันเลยยกมือขยี้เรือนผมนุ่มสลวยเธอสองสามทีแล้วลุกเข้าห้องน้ำ จัดการกับตัวเองประมาณสิบนาทีจึงออกมา เห็นอายนั่งจุมปุ๊กอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ความคิดหนึ่งถึงโฉบเข้ามาในหัว... ทำให้ฉันเดินเข้าไปหาเธอ ชวนเธอคุยเป็นปกติ อายแสดงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มแย้ม พูดจาไม่หยุดตามประสาเด็ก จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองชั่วโมง ฉันจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้น “อาย พี่ปวดหัว” ฉันยกมือคลึงขมับ สีหน้าคงดูไม่ค่อยดีเอามากๆ อายจึงทำหน้าตื่น และใช่... ถึงฉันจะป่วยจริง แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ปวดหัวอย่างที่ปากกว่า ฉันเสแสร้ง ฉันมันมารยา ในเมื่อใช้กับพี่ชายไม่ได้ กับน้องของเขา... ฉันก็ต้องลอง “ยา! ยาๆ” อายกระเด้งตัวขึ้นแล้ววิ่งไปทั่วห้อง เธอหายาทุกซอกทุกมุมภายในห้อง ก่อนจะกลับมาพร้อมใบหน้าซีดเซียว “ไม่มียาเหรอคะพี่ลูกพลัม หนูจะไปซื้อให้!” ฉันเพิ่งไปหาหมอมาเมื่อวานนะ ได้ยามาหลายแผง แต่ที่อายไม่เห็นเพราะฉันเอามันยัดไว้ในเสื้อชั้นใน... “พี่วานให้อายออกไปซื้อให้หน่อยได้ไหมคะ” ฉันล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนแรง อายเลยพยักหน้าหงึกหงักอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะวิ่งตัวปลิวออกจากห้องไปอย่างร้อนรน คล้อยหลังเธอ ฉันรอจนแน่ใจว่าทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้วถึงได้ลุกขึ้นจัดการเก็บโน้ตบุ๊กและของจำเป็นสี่ห้าอย่างใส่กระเป๋าเป้ สิ่งที่ฉันทำต่อจากนั้นคือก้าวท้าวออกจากห้องอย่างระแวดระวัง ตอนอยู่กับแอลฉันมีโอกาสหลายครั้ง แต่เพราะรู้ดีแก่ใจว่าคงหนีไปได้ไม่ไกลเลยรอจังหวะ คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะต้องกลับบ้านเอาตอนนี้ อายดูหัวอ่อนเล็กน้อยในสายตาฉัน ไม่สิ เธอแค่บริสุทธิ์เกินไป มันเป็นช่องโหว่ที่ฉันเอามาต่อยอดให้ตัวเองอย่างที่เห็น ฉันใช้เวลาไม่นานถึงออกมาข้างนอกได้สำเร็จ ถือว่าโชคเข้าข้างที่ลุงยามไปเข้าห้องน้ำพอดี ฉันจึงไม่สนใจอะไรอีกต่อไป พ้นเขตคอนโดฯ ของแอล ฉันรีบต่อสายหาสีเพลิงทันทีอย่างไม่รีรอ ถึงครามแฟนเธอจะเป็นเพื่อนสนิทของแอลก็เถอะ แต่ฉันไว้ใจเธอ เธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันในตอนนี้นี่นะ... [ฮัลโหล หายไปไหนมา] เสียงของสีเพลิงดูกังวลแต่ก็เจือความไม่พอใจ จริงสินะ... ช่วงที่แอลขังฉันไว้ในคอนโดฯ เขาแทบไม่ให้ฉันแตะโทรศัพท์มือถือเลย การที่สีเพลิงตั้งคำถามแบบนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “เพลิงๆ ฉันขอไปนอนด้วยได้ไหม” [หือ? ได้สิ ทำไมล่ะ] เสียงจากปลายสายเต็มไปด้วยความฉงนสงสัย “เดี๋ยวเล่าให้ฟังทีหลัง วางก่อนนะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม