ตอนที่ 4
เอี๊ยดดด!!!!
ทุกคนในบริเวณนั้นต่างหันไปมองโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณหมอหนุ่ม ด้วยภาพที่เห็นคือหญิงสาวสวมเครื่องแบบคล้ายพนักงานออฟฟิศ เธอล้มหงายหลังอยู่บริเวณของฟุตบาตของถนนและเธอก็เกือบถูกรถยนต์คันหนึ่งชน
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!.มีโจรกระชากกระเป๋า!” หญิงสาวตั้งสติได้เธอก็รีบร้องขอความช่วยเหลือทันที มือเรียวบางชี้ไปยังชายร่างผอมสูง สวมหมวกกันน๊อตที่กำลังขับมอเตอร์แล่นหลบเข้าไปในซอกตรอกเล็กๆ ข้างตึกใหญ่ สุชาครีย์เดาได้ไม่ยากว่ามันคงผลักหล่อนจนล้มแล้วกระชากกระเป๋าไป ระยำ! สุชาครีย์ไม่รอช้าเขารีบวิ่งตามมอเตอร์ไซด์คันนั้นไป ดีว่ามีผู้คนพลุกพล่านเลยทำให้มอเตอร์ไซด์ของคนร้ายขับไปได้ไม่เร็วนัก เขาอาจไม่ใช่ผู้ชายที่ดีนักแต่ก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และ เนื่องจากละแวกนี้เป็นย่านธุรกิจซึ่งเขาก็เคยอยู่แถวนี้ตอนที่อยู่เมืองไทย
คุณหมอหนุ่มจึงตัดสินใจวิ่งไปอีกทางที่คุ้นเคยและจำได้ว่ามันเชื่อมไปยังซอกตึกที่โจรกำลังจะขับมอเตอร์ไชด์ไป ไม่กี่อึดใจสุชาครีย์ก็โผล่มาดักหน้ามอเตอร์ไซด์ของคนร้ายเอาไว้ได้สำเร็จ คนร้ายตัดสินใจที่จะขับมอเตอร์ไซด์ชนคุณหมอหนุ่ม เขาจึงกระโดดเกาะราวเหล็กด้านบนแล้วใช้ขาแข็งแรงทั้งสองข้างถีบไปที่ไหล่ทั้งสองของโจรร้าย เป็นผลให้มอเตอร์ไชด์ล้มไม่เป็นท่าส่วนคนร้ายกระเด็นไปอีกทางตรงกันข้าม
“โอ๊ย!” ไอ้โจรร้ายอุทาน หมวกกันน๊อตของมันหลุดจากใบหน้า เพราะสวมใส่ไม่ดีพอเนื่องจากเร่งรีบ ใบหน้าโจรร้ายแนบชิดพื้นคอนกรีตเพราะถูกเท้าใครบางคนเหยียบเอาไว้
“ฉันละเกลียดจริง ๆ ให้พวกผู้ชายที่ชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิงเพื่อชิงทรัพย์เนี่ย” เขากระทืบคนร้ายเสร็จก็รีบเดินไปหยิบกระเป๋าที่คาดว่าน่าจะเป็นของหญิงสาวเมื่อสักครู่นี้
จังหวะที่สุชาครีย์หันหลังไปเดินไปเพื่อจะเก็บกระเป๋าสะพายที่ร่วงหล่น แต่แล้วก็ต้องตกใจที่อีกฝ่ายตวัดปลายมีดคมกริบเพื่อจะมาแทงเขาจากทางด้านหลัง โชคดีที่เขาพอมีทักษะป้องกันตัวอยู่บ้าง สุชาครีย์จึงเอี้ยวตบหลบให้พ้นคมมีดได้อย่างหวุดหวิดพร้อมกับเตะไปที่เอวจนคนร้ายเซไปอีกทาง ชายร่างผอมสูงรีบลุกขึ้นจะแทงซ้ำ แต่สุชาครีย์จับแขนมันไว้ได้ เขากระแทกมือหยาบกร้านนั้นกับผนังตึกหลายครั้งจนมีดหล่นลงพื้น
ผัวะ!...ผัวะ!...ปึก!
เขาตอบแทนความคิดร้ายกาจของคนร้ายด้วยกำปั้นหนักๆ ไปทั่วบริเวณใบหน้าจนเลือดกบปาก ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา แล้วถีบเข้าตรงกลางอกจนคนร้ายเซหงายหลังล้มไปอย่างหมดท่า คนร้ายเริ่มหน้าซีดตัวสั่น เหลือบตามองกระเป๋าผู้หญิงในมือของคุณหมอหนุ่มด้วยความเสียดาย แล้วมันก็ลนลานลุกขึ้นวิ่งหนีไปทางตรงข้าม แน่ละ! สุชาครีย์ไม่คิดจะปล่อยให้คนร้ายไปก่อคดีกับใครอีก เขาจึงวิ่งตามไปเพื่อจะจับตัวมันส่งตำรวจ
“ไอ้ระยำ!” คุณหมอหนุ่มไม่รอช้ารีบวิ่งตามไปทันที
“ไอ้โจรห้าร้อย แกคิดว่าจะหนีรอดไปได้เหรอ!” คุณหมอหนุ่มวิ่งตามมากระโดดถีบจนคนร้ายล้มกลิ้งไปเป็นท่าอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคนร้ายไม่มีทีท่าว่าจะหนีได้อีก เขาจึงรีบโทรแจ้ง 191 ทันที คนร้ายนอนครวญครางเนื่องจากโดนบาทาไปหลายดอก จนกว่าตำรวจสายตรวจที่อยู่บริเวณนั้นจะมารับตัวมันไป
“หญิงสาวที่ยังกลัวกับเหตุการที่เกิดขึ้น เมื่อเธอได้พลเมืองดีช่วยพยุงเธอลุกขึ้นได้แล้ว หญิงสาวก็รีบเดินมาดูคนที่วิ่งไล่คนร้ายไป จนพบว่ามีตำรวจจับกุมคนร้ายไปแล้ว เธอจึงเดินมาหาคนที่ช่วยเหลือเธอ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมไม่เป็นไรครับ..แล้วคุณล่ะ เจ็บตรงไหนมั้ย”
“ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีว่าหกล้มตอนแย่งกระเป๋ากับคนร้าย”
“ดีนะครับที่รถคันนั้นไม่ชนคุณเสียก่อน”
“ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเหลือดิฉัน ถ้าได้ไม่ได้คุณดิฉันต้องแย่แน่ ๆ เลย และในกระเป๋าก็มีเอกสารจำเป็นหลายอย่างเสียด้วย” เธอหมายถึงเอกสารรายงานตัวเรื่องการเข้าอบรมในวันพรุ่งนี้ซึ่งถ้าหายไปก็ต้องแย่ ๆ แน่ ๆ
“ไม่เป็นครับ ผมยินดีช่วย” ชายหนุ่มกล่าวด้วยถ้อยคำสุภาพ
“เออ..แล้วคุณกำลังจะไปไหนคะ”
“อ๋อ...ผมกำลังจะไปที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ นี้เองครับ เผอิญว่าเมื่อสักครู่ผมรอแกร๊บคาร์อยู่ แต่บังเอิญเห็นคุณถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าก็เลยเข้ามาช่วยครับ”
“ดิฉันกำลังจะผ่านไปทางนั้นพอดี เดี๋ยวให้ดิฉันไปส่งนะคะ”
“อืม..”
“นะคะ”
“อืมห์! ถ้าไม่เป็นการรบกวน..เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ และอีกอย่างหนึ่งผมอยากพาคุณไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลซะเลย พอสะดวกมั้ยครับ พอดีว่าผมเป็นหมอนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ...แต่ว่าดิฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรได้ยังไงครับ คุณมีแผลที่บริเวณหัวเข่า แล้วเสื้อคุณก็เลอะฝุ่นไปหมด แผลของคุณอาจจะติดเชื้อได้หากว่าไม่ได้รับการรักษา” คุณหมอหนุ่มรีบหว่านล้อมหญิงสาว
“งั้นเดี๋ยวเชิญคุณไปขึ้นรถดิฉันค่ะ พอดีจอดไว้หน้าตึกที่คุณเดินออกมาก่อนหน้านี้ค่ะ”