ความจริงหรือว่าฝันไป3 nc18+

1199 คำ
ไม่นานนักรถสปอร์ตสีดำแล่นมาจนถึงหน้าคฤหาสน์จันทรา คนขับก็จอดรถอย่างนุ่มนวลก่อนจะหันมามองคนข้างๆ ซึ่งตอนนี้หลับปุ๋ยคอพับกับพนักพิงไปเรียบร้อยแล้ว “คุณครับ ถึงคฤหาสน์จันทราแล้วครับ ที่พักของคุณอยู่ที่ไหนครับ” เขาถามอย่างสุภาพ ทว่าคนถูกถามกลับไม่ไหวติง มีเพียงเสียงกรนฟี้ๆ บอกว่าเธอกำลังหลับสนิท “คุณครับ ตื่นได้แล้วครับ” เรียกดังขึ้นอีกนิด พลางสะกิดที่ต้นแขนนุ่ม เขย่าเบาๆ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ตื่น จนชายหนุ่มต้องตัดสินใจ ไม่ถึงนาทีต่อมาประตูคฤหาสน์ก็เปิดออก รถสปอร์ตเลี้ยวเข้าไปข้างในช้าๆ ไปจอดอยู่ใต้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่เปิดไฟไว้เฉพาะทางเดินขึ้นบันไดวนเท่านั้น ความสว่างรอบตัวคฤหาสน์ก็มาจากโคมไฟดวงใหญ่ที่ประดับประดาตามรั้วและข้างบนระเบียงที่ยื่นออกมา แต่ในตัวตึกกลับมืดทุกห้อง ทว่าเมื่อเมื่อแขกสาวถูกอุ้มออกมาจากรถอีกครั้ง ห้องบางห้องก็เปิดไฟสว่างไสวขึ้นมาเพื่อต้อนรับเธอ ประตูบานใหญ่ของห้องหนึ่งบนชั้นสามเปิดออก ร่างบางที่ตัวอ่อนป้อแป้ถูกวางลงบนที่นอนหนานุ่มสีขาว ความเย็นเยียบของที่นอนทำให้คนเมาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามอง แต่เหมือนทุกอย่างรอบตัวจะหมุนคว้างจนเวียนหัว จนเจ้าตัวต้องหลับตาลงอีกครั้ง “เจ้าพาใครมาหรือชาลอส” เสียงทรงอำนาจดังกังวานขึ้นข้างหลัง ไม่ต้องหันไปมองชาลอสก็รู้ว่าเป็นใคร ร่างสูงใหญ่ที่กำลังพิจารณาร่างเล็กที่กำลังหลับตาพริ้มด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะหยุดมองลำคอระหงที่โผล่พ้นขอบเสื้อโค้ทด้วยความกระหาย หยุดความรู้สึกของตนเองเอาไว้เมื่อค่อยๆ หมุนร่างกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้านาย “เธอเป็นลูกค้าที่ผับ เธอเมามาก ผมเลยพาเธอมาพักที่นี่ชั่วคราว” ตอบก้มหน้า สองมือประสานกันไว้ใต้เข็มขัดหนัง “กี่คนแล้วที่เจ้าพามาที่นี่ เหตุผลเพราะพวกหล่อนเมา นี่คงเป็นอีกรายที่จะกลายมาเป็นเหยื่อสวาทของเจ้าสินะ” “เอ่อ...คือ” “ข้าได้กลิ่นสาบสาวบริสุทธิ์ ผู้หญิงคนนี้เจ้าไม่ควรแตะต้องนาง” “เอ่อ ครับเจ้านาย ผมจะไม่แตะต้องเธอ” “ไปได้แล้ว” “ครับ” เมื่อบริวารที่สนิทพ้นประตูไปแล้ว ตามด้วยเสียงปิดประตูเบาๆ ร่างสูงสง่าในชุดดำที่สวมทับด้วยเสื้อคลุมผืนใหญ่ก็เดินมาที่ปลายเตียง ปลายนิ้วเรียวยาวเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าเนียนผ่องออก เผยให้เห็นดวงหน้างดงามหวานละมุนที่แสนคุ้นเคย “เราเจอกันอีกแล้วนะสาวน้อย” แต่เมื่อเพิ่งพิศมองใบหน้าสวยชัดๆ ความทรงจำเมื่อร้อยกว่าปีก่อนก็ผุดขึ้นมา ‘โอ...มันจะเป็นไปได้อย่างไร’ ผู้หญิงตรงหน้าช่างมีใบหน้าคล้ายกับชายาสุดที่รักของเขามากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นคิ้วเรียวสวย จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากเล็กสีกุหลาบน่าจุมพิต โครงหน้าที่ถอดแบบคนรักในอดีตของเขามาเป๊ะ แต่จะแตกต่างก็ตรงที่สีของเส้นผม ซิลเวียมีผมนุ่มสลวยสีบลอนด์ทอง ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็มีผมนุ่มสลวยดุจแพรไหมเช่นกันแต่เป็นสีน้ำตาลเข้ม แล้วดวงตาของเธอเล่าจะเป็นสีอะไร จะเป็นสีฟ้าอมเทาเหมือนดวงตาของซิลเวียหรือเปล่า เมื่อมองสำรวจร่างอรชรตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วก็มองผ่านอาภรณ์ที่เธอสวมใส่ ‘เขารู้มันใช่’ ผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นชายาของเขาที่กลับชาติมาเกิดแน่นอน แล้วมือกร้านก็ดึงผ้าพันคอไหมพรมออกจากลำคอขาวผ่อง ก็เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญห้อยอยู่ตรงสร้ายคอ ราชาฯ หนุ่มจึงตัดสินใจเปิดดูล็อกเก็ตนั้น แล้วก็เห็นภาพแห่งความทรงจำเมื่อร้อยกว่าปีก่อนใต้เข็มนาฬิกาที่ตายแล้ว หัวใจที่เหมือนถูกแช่แข็งมาเนิ่นนานก็กลับเต้นตุ้บๆ อยู่ใต้อกเขา ความอบอุ่นเริ่มแผ่ซ่านออกมาเมื่อดึงมือบางมากอบกุม...ความหวังว่าเธออาจจดจำเขาได้เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เริ่มรำไร... “ซิลเวีย คุณกลับมาหาผมใช่ไหมที่รัก อา...กรุณาลืมตาขึ้นเถิด ผมอยากให้คุณเห็นผมไวๆ” เขาหวังจริงๆ ว่าเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาเธออาจจะจำเขาได้ แต่ถึงจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อยๆ ทบทวนความทรงจำให้กับเธอเอง เจ้าของดวงตาสีท้องฟ้ายามราตรีที่กำลังเปล่งประกายไหวระริกไปมาด้วยความหวัง กำลังก้มลงไปใกล้ๆ ใบหน้าหวานซึ้งนั้น ริมฝีปากเย็นชืดกำลังจะแตะลงบนกลีบปากนุ่มมันวาวของเธอ แต่กลับหยุดชะงัก ‘ไม่...เขาไม่ควรใช้เวทมนต์กับเธอ’ เขาควรรอให้เธอตื่นขึ้นมาเอง อย่างมีสติครบถ้วน ไม่เป็นไร เขารอได้ เขารอเธอมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว ทำไมจะรอเวลาแค่ราตรีเดียวไม่ได้ล่ะ เดี๋ยวไม่กี่ชั่วโมงเธอก็คงตื่นขึ้นมาเอง ราชาแวมไพร์หนุ่มนั่งลงตรงขอบเตียง ใช้ปลายนิ้วสัมผัสลูบไล้เพียงเบาๆ ด้วยความรักความโหยหามาช้านาน แม้จะเป็นการสัมผัสบนเนื้อผ้า แต่เขาก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยกับร่างกายใต้ฝ่ามือของเขาในขณะนี้เป็นอย่างดี ต่อให้ผมของเธอเปลี่ยนสี หรือสีดวงตาของเธอจะไม่ใช่สีฟ้าอมเทา เขาก็มั่นใจว่าเธอคือ ซิลเวียกลับชาติมาเกิดใหม่ เขาเชื่อการกลับชาติมาเกิด เชื่อและรอคอยมาโดยตลอด จะกี่ปีผ่านพ้นก็ไม่เคยลืม เคยรักอย่างไรก็รักอย่างนั้นมิเคยเปลี่ยนแปลง “ยอดรักของข้า ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้าอีกครั้ง” จากนั่งรอ เป็นนอนรอ นอนเท้าข้อศอกเพื่อก้มมองใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอ มองเท่าไรก็ไม่เคยเบื่อ ว่าแต่เธอดื่มแอลกอฮอล์มามากเลยหรือนี่ ถึงได้เมามายเช่นนี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเสียใจของเธอ ความเจ็บปวดลึกๆ ในหัวใจเธอ ‘ใครทำให้เจ้าเสียใจถึงเพียงนี้ ซิลเวีย’ พลังวิเศษทำให้อาเทอร์รับรู้ว่าใครที่ทำให้คนที่เขารักเสียใจ แววตาสีท้องฟ้ายามราตรีพลันโชนแสงสีแดงน่ากลัววูบหนึ่ง ก่อนจะปรับอารมณ์ให้สงบดังเดิม ปลายนิ้วยังคงสัมผัสผิวนุ่มจากกรอบหน้า เลื่อนลงมาบนเส้นชีพจรที่เต้นตุ้บๆ บนลำคอขาวผ่อง น่าฝังคมเขี้ยว “อา...ซิลเวีย ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน” ปลายลิ้นเย็นชุ่มฉ่ำปาดไล้ไปมาบนผิวนุ่มรอบลำคอระหงที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมาให้เห็นเพราะไม่อาจอดกลั้น เท่านี้มันก็ทำให้ร่างกายบางส่วนของเขาที่หลับไหลตื่นตัวขึ้นมาจนน่าตกใจ เขาปรารถนาร่างกายที่ยั่วยวนตรงหน้านี้เหลือเกิน กี่ภพกี่ชาติ ร้อยวันพันปีพ้นผ่าน ไม่เคยปรารถนาเธอน้อยลงเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม