บทที่ 8 หึงไม่รู้ตัว

901 คำ
หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องของชายหนุ่มเพราะไม่กล้าออกไปไหนกลัวจะกระทบกระเทือนกับกระบวนการที่กำลังทำอยู่ “วันนี้เป็นไงบ้าง” พอเลิกงานเขาก็ตรงกลับคอนโดทันทีเพราะมีใครคนหนึ่งกำลังรอการกลับมาของเขาอยู่ “เหมือนเดิมนั่งๆนอนๆ” “เบื่อไหม” “อืม” “วันนี้ไปเที่ยวกันไหม” “ไปไหนอ่ะไปได้ด้วยหรอ” “กระท้อนไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องลูกขนาดนั้นก็ได้นะ” “คนมันกลัวนี่หน่า รู้ไหมว่ามันต้องเจ็บตัวนะ” “ขอโทษนะที่ทำให้กระท้อนต้องเจ็บตัวแต่ภามไม่มีทางเลือกแล้วนี่หน่า” “ชั่งเถอะกระท้อนเป็นคนตัดสินใจเองตั้งแต่แรก” “สรุปไปไหม ไปดูหนังที่ห้างใกล้ๆคอนโดก็ได้” “ก็ยังดี” หญิงสาวยิ้มออกมาเต็มใบหน้า หลายวันแล้วที่เธอไม่ได้ออกไปไหนวันนี้เธอจะสูดบรรยากาศข้างนอกให้เต็มปอด เขาให้เธอเลือกหนังที่จะดูแน่นอนว่าเธอต้องเลือกหนังรักโรแมนติกแน่นอน “สนุกไหม” “สนุกมากพระเอกงานดีมาก” หญิงสาวตอบกลับอย่างปลื้มปริ่ม “ดีกว่าภามอีกหรอ” เขาถามกลับน้ำเสียงจริงจัง “ฮ่าๆ อย่าไปเทียบกับพระเอกอย่างนั้นสิ” “หมายความว่าไงนะกระท้อนกระท้อนจะบอกว่าภามสู้พระเอกคนนั้นไม่ได้หรอ” “ฮ่าๆ มันหล่อคนละแบบตั้งหากเล่า” “งั้นก็แล้วไป” “ขอกระท้อนไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ” “ได้สิเดี๋ยวภามรออยู่ข้างหน้านะ” “โอเค” “ภาม! ภามขาทำไมไม่เรียกจีจี้ไปหาเลยละคะ จีจี้คิดถึงภามจังเลย” จีจี้ที่ขาดการติดต่อกับชายหนุ่มไปสักพักรู้สึกดีมากที่เจอเขาที่นี่จึงรีบตรงเข้ามาหาทันที “ผมไม่ว่างน่ะ” หญิงสาวเกาะแขนเขาหนึบ “คุณต้องผ่อนคลายบ้างนะคะทำงานหนักทุกวันสุขภาพจะแย่เอานะคะ” จีจี้พยายามเบียดหน้าอกหน้าใจของตัวเองกับแขนของภาม กระท้อนยืนมองคนทั้งคุ่แล้วรู้สึกหมั่นไส้มากๆ นี่สินะเสือที่คุณหมอลินดาหมายถึง ผู้ชายเจ้าชู้แบบนี้เนี่ยนะจะมาเป็นพ่อคนคิดแล้วก็ปวดหัว ภามหันไปมองด้านหลังก็เห็นว่ากระท้อนยืนมองอยู่เขารู้สึกร้อนไปทั้งตัวเสียวสันหลังวาบเหมือนคนทำความผิดแล้วถูกจับได้ เขารีบหาวิธีสะบัดจีจี้ออกก่อนที่กระท้อนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ กระท้อนเลิกให้ความสนใจชายหนุ่มและเดินจากไปทันที พอเขาจัดการจีจี้เรียบร้อยก็วิ่งตามกระท้อนออกไปทันที “เดี๋ยวก่อนสิกระท้อน” “รีบออกมาทำไมล่ะสาวมาหาไม่ใช่หรอ กระท้อนกลับเองได้” เธอตอบกลับน้ำเสียงติดประชดโดยไม่รู้ตัว “กระท้อนอย่างอนภามเลยนะ” ชายหนุ่มพยายามออดอ้อนให้หญิงสาวหายงอน “งอนอะไรกระท้อนไม่มีสิทธิ์งอนสักหน่อยสำหรับเรามันคือหน้าที่ที่ต้องทำต่างหาก” สิ่งที่หญิงสาวตอบกลับมันทำให้เขาหน้าชา จริงสินะระหว่างเขาและเธอมันเป็นเรื่องของการตอบแทนบุญคุณ “งั้นก็แล้วไปงั้นกระท้อนกลับไปก่อนเลย” “อืม” กระท้อนเดินลิ่วๆไปขึ้นรถไฟฟ้าโดยไม่ได้ให้ความสนใจชายหนุ่มอีกเลย “โถว่เว้ย” ภรัณยูรู้สึกหงุดหงิดหัวใจเหลือเกิน เขาไปได้เข้าไปหาใครในห้างแต่กลับเลือกที่จะขับรถกลับคอนโดเช่นกัน มันอาจจะใช้เวลาสักหน่อยเพราะรถติด “มัวแต่ไปกกสาวสินะถึงได้ยังไม่กลับ” เธอกลับมาถึงสักพักแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่กลับเสียที เธอเองก็ปั่นป่วนหัวใจไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด เมื่อเขากลับมาต่างฝ่ายก็ต่างเข้าไปอยุ่ในห้องของตนแล้วปิดเงียบไม่ส่งเสียงอะไรออกมา ก่อนไปยังดีๆกันอยู่เลยเขาไม่น่าพาเธอออกไปข้างนอกเลย เขาคงจะต้องจัดการเรื่องสาวๆของเขาจริงๆนั่นแหละ ชายหนุ่มได้แต่คิดไม่ตก ตั้งแต่วันนั้นเขาและเธอยังมึนตึงกันไม่หายเขารู้สึกไม่ดีเลยในสภาวะแบบนี้ “คุณภามเป็นอะไรหรือเปล่าคะสุดาไปเอากาแฟมาเพิ่มดีไหมคะ” เลขาสาวถามออกไปด้วยความเป็นห่วงเพราะผู้เป็นเจ้านายดูมีอะไรในใจ เขาอาจจะกำลังคิดแผนงานไม่ออกก็ได้เธอเลยคิดว่าถ้าได้เครื่องสักแก้วก็คงจะดี “ไม่ดีกว่าครับถ้าดื่มอีกแก้วคืนนี้ผมคงไม่ได้นอน” “โอเคค่ะ คุณภามจะทำงานถึงกี่โมงคะ” “เดี๋ยวก็จะกลับแล้วครับ” “สุดาขอตัวกลับก่อนเลยนะคะเพราะต้องไปรับลูกที่โรงเรียนแทนพ่อเขาน่ะค่ะ” “ได้เลยครับเชิญครับ” “ขอบคุณค่ะ” “เหนื่อยมากเลยใช่ไหมครับการเลี้ยงเด็ก” “เหนื่อยขาดใจเลยล่ะค่ะคุณภาม ถ้าหากคุณภามมีลูกคุณภามจะรับรู้ได้เลยค่ะว่าเหนื่อยแต่คุ้มค่ามากๆ ลูกเหมือนเป็นแรงผลักดันให้คนเป็นพ่อและแม่นะคะว่ายังมีคนข้างหลังให้ต้องดูแลเอาใจใส่” “ครับ ถ้าผมมีโอกาสมีลูกวันนั้นผมคงจะเข้าใจ” “ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม