หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องของชายหนุ่มเพราะไม่กล้าออกไปไหนกลัวจะกระทบกระเทือนกับกระบวนการที่กำลังทำอยู่
“วันนี้เป็นไงบ้าง” พอเลิกงานเขาก็ตรงกลับคอนโดทันทีเพราะมีใครคนหนึ่งกำลังรอการกลับมาของเขาอยู่
“เหมือนเดิมนั่งๆนอนๆ”
“เบื่อไหม”
“อืม”
“วันนี้ไปเที่ยวกันไหม”
“ไปไหนอ่ะไปได้ด้วยหรอ”
“กระท้อนไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องลูกขนาดนั้นก็ได้นะ”
“คนมันกลัวนี่หน่า รู้ไหมว่ามันต้องเจ็บตัวนะ”
“ขอโทษนะที่ทำให้กระท้อนต้องเจ็บตัวแต่ภามไม่มีทางเลือกแล้วนี่หน่า”
“ชั่งเถอะกระท้อนเป็นคนตัดสินใจเองตั้งแต่แรก”
“สรุปไปไหม ไปดูหนังที่ห้างใกล้ๆคอนโดก็ได้”
“ก็ยังดี” หญิงสาวยิ้มออกมาเต็มใบหน้า หลายวันแล้วที่เธอไม่ได้ออกไปไหนวันนี้เธอจะสูดบรรยากาศข้างนอกให้เต็มปอด เขาให้เธอเลือกหนังที่จะดูแน่นอนว่าเธอต้องเลือกหนังรักโรแมนติกแน่นอน
“สนุกไหม”
“สนุกมากพระเอกงานดีมาก” หญิงสาวตอบกลับอย่างปลื้มปริ่ม
“ดีกว่าภามอีกหรอ” เขาถามกลับน้ำเสียงจริงจัง
“ฮ่าๆ อย่าไปเทียบกับพระเอกอย่างนั้นสิ”
“หมายความว่าไงนะกระท้อนกระท้อนจะบอกว่าภามสู้พระเอกคนนั้นไม่ได้หรอ”
“ฮ่าๆ มันหล่อคนละแบบตั้งหากเล่า”
“งั้นก็แล้วไป”
“ขอกระท้อนไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ”
“ได้สิเดี๋ยวภามรออยู่ข้างหน้านะ”
“โอเค”
“ภาม! ภามขาทำไมไม่เรียกจีจี้ไปหาเลยละคะ จีจี้คิดถึงภามจังเลย” จีจี้ที่ขาดการติดต่อกับชายหนุ่มไปสักพักรู้สึกดีมากที่เจอเขาที่นี่จึงรีบตรงเข้ามาหาทันที
“ผมไม่ว่างน่ะ” หญิงสาวเกาะแขนเขาหนึบ
“คุณต้องผ่อนคลายบ้างนะคะทำงานหนักทุกวันสุขภาพจะแย่เอานะคะ” จีจี้พยายามเบียดหน้าอกหน้าใจของตัวเองกับแขนของภาม กระท้อนยืนมองคนทั้งคุ่แล้วรู้สึกหมั่นไส้มากๆ นี่สินะเสือที่คุณหมอลินดาหมายถึง ผู้ชายเจ้าชู้แบบนี้เนี่ยนะจะมาเป็นพ่อคนคิดแล้วก็ปวดหัว ภามหันไปมองด้านหลังก็เห็นว่ากระท้อนยืนมองอยู่เขารู้สึกร้อนไปทั้งตัวเสียวสันหลังวาบเหมือนคนทำความผิดแล้วถูกจับได้ เขารีบหาวิธีสะบัดจีจี้ออกก่อนที่กระท้อนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ กระท้อนเลิกให้ความสนใจชายหนุ่มและเดินจากไปทันที พอเขาจัดการจีจี้เรียบร้อยก็วิ่งตามกระท้อนออกไปทันที
“เดี๋ยวก่อนสิกระท้อน”
“รีบออกมาทำไมล่ะสาวมาหาไม่ใช่หรอ กระท้อนกลับเองได้” เธอตอบกลับน้ำเสียงติดประชดโดยไม่รู้ตัว
“กระท้อนอย่างอนภามเลยนะ” ชายหนุ่มพยายามออดอ้อนให้หญิงสาวหายงอน
“งอนอะไรกระท้อนไม่มีสิทธิ์งอนสักหน่อยสำหรับเรามันคือหน้าที่ที่ต้องทำต่างหาก” สิ่งที่หญิงสาวตอบกลับมันทำให้เขาหน้าชา จริงสินะระหว่างเขาและเธอมันเป็นเรื่องของการตอบแทนบุญคุณ
“งั้นก็แล้วไปงั้นกระท้อนกลับไปก่อนเลย”
“อืม” กระท้อนเดินลิ่วๆไปขึ้นรถไฟฟ้าโดยไม่ได้ให้ความสนใจชายหนุ่มอีกเลย
“โถว่เว้ย” ภรัณยูรู้สึกหงุดหงิดหัวใจเหลือเกิน เขาไปได้เข้าไปหาใครในห้างแต่กลับเลือกที่จะขับรถกลับคอนโดเช่นกัน มันอาจจะใช้เวลาสักหน่อยเพราะรถติด
“มัวแต่ไปกกสาวสินะถึงได้ยังไม่กลับ” เธอกลับมาถึงสักพักแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่กลับเสียที เธอเองก็ปั่นป่วนหัวใจไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด เมื่อเขากลับมาต่างฝ่ายก็ต่างเข้าไปอยุ่ในห้องของตนแล้วปิดเงียบไม่ส่งเสียงอะไรออกมา ก่อนไปยังดีๆกันอยู่เลยเขาไม่น่าพาเธอออกไปข้างนอกเลย เขาคงจะต้องจัดการเรื่องสาวๆของเขาจริงๆนั่นแหละ ชายหนุ่มได้แต่คิดไม่ตก ตั้งแต่วันนั้นเขาและเธอยังมึนตึงกันไม่หายเขารู้สึกไม่ดีเลยในสภาวะแบบนี้
“คุณภามเป็นอะไรหรือเปล่าคะสุดาไปเอากาแฟมาเพิ่มดีไหมคะ” เลขาสาวถามออกไปด้วยความเป็นห่วงเพราะผู้เป็นเจ้านายดูมีอะไรในใจ เขาอาจจะกำลังคิดแผนงานไม่ออกก็ได้เธอเลยคิดว่าถ้าได้เครื่องสักแก้วก็คงจะดี
“ไม่ดีกว่าครับถ้าดื่มอีกแก้วคืนนี้ผมคงไม่ได้นอน”
“โอเคค่ะ คุณภามจะทำงานถึงกี่โมงคะ”
“เดี๋ยวก็จะกลับแล้วครับ”
“สุดาขอตัวกลับก่อนเลยนะคะเพราะต้องไปรับลูกที่โรงเรียนแทนพ่อเขาน่ะค่ะ”
“ได้เลยครับเชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“เหนื่อยมากเลยใช่ไหมครับการเลี้ยงเด็ก”
“เหนื่อยขาดใจเลยล่ะค่ะคุณภาม ถ้าหากคุณภามมีลูกคุณภามจะรับรู้ได้เลยค่ะว่าเหนื่อยแต่คุ้มค่ามากๆ ลูกเหมือนเป็นแรงผลักดันให้คนเป็นพ่อและแม่นะคะว่ายังมีคนข้างหลังให้ต้องดูแลเอาใจใส่”
“ครับ ถ้าผมมีโอกาสมีลูกวันนั้นผมคงจะเข้าใจ”
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”