หลังจากเสร็จธุระที่โรงพยาบาลแล้วเขาก็พาหญิงสาวมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านแห่งนี้ค่อนข้างหรูหราและเป็นส่วนตัว ในใจเธอแอบคิดว่าเขาพามาที่นี่เพราะคงจะไม่เจอคนรู้จักง่ายๆแน่นอน
“ว๊าว วันนี้พาออกมากินข้างนอกซะด้วย”
“พามาเจอคนสำคัญตั้งหากเล่า”
“ใครหรอ” เธอถามกลับอย่างสงสัย
“พ่อของภามเอง”
“พ่อ!”
“ใช่น่ะสิจะเสียงดังทำไมเนี่ย”
“กะ ก็ทำตัวไม่ถูกนี่ท่านเป็นผู้มีพระคุณกับครอบครัวของกระท้อน”
“อย่าคิดมากเลยท่านเป็นคนใจดีมากนะ”
“จริงนะ”
“จริงสิ” พอเข้ามาภายในร้านพนักงานก็พาเขาและเธอไปยังห้องที่อยู่ด้านใน ห้องนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่มองเห็นบ่อปลาและต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้างของร้านชัดเจน
“บรรยากาศดีจังไม่น่าเชื่อว่ามีร้านแบบนี้ใกล้คอนโดภามด้วย”
“ร้านลับ”
“เชื่อแล้วว่าลับจริง”
“รอนานไหม” ระหว่างที่เธอกำลังคุยกับเขาเพลินๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ผู้มาใหม่ค้างไว้อยู่อย่างนั้น บิดาของชายหนุ่มเห็นแล้วก็ยิ้มออกมา
“นี่สินะคนที่ลูกพูดถึง”
“ใช่ครับพ่อ กระท้อนนี่พ่อภามเอง”
“สวัสดีค่ะคุณท่าน”
“คุณท่านอะไรกันเรียกพ่อเหมือนตาภามเถอะนะ”
“ค่ะ”
“นั่งเถอะสั่งอาหารหรือยัง”
“สั่งเรียบร้อยแล้วครับผมไม่อยากให้พ่อรอนาน”
“ขอบใจมาก ไหนเล่าสิว่าสองคนนี้รู้จักกันได้ยังไง”
“ผมไปต่างจังหวัดกับคุณปู่คุณย่าครับแล้วพบก็ได้รู้จักกระท้อนเพราะบ้านอยู่ไม่ไกลกัน เราสองคนเป็นเพื่อนเล่นกันครับ พอกระท้อนมีเรื่องเดือดร้อนผมก็อยากจะช่วย”
“นั่นมันหลายปีแล้วนะ ภามเองก็อายุไม่เท่าไรไม่ใช่หรอ”
“ก็สายสำคัญที่ผมให้พ่อช่วยไงครับ”
“อย่าบอกนะว่า...”
“ใช่ครับ คนที่ผมให้คุณพ่อช่วยคือยายของกระท้อนครับ”
“ขอบคุณคุณพ่อมากเลยนะคะที่ช่วยเหลือครอบครัวของกระท้อน กระท้อนจะไม่มีวันลืมบุญคุณเลยค่ะ”
“อย่าคิดมากเลยพ่อเต็มใจช่วย แล้วตอนนี้ล่ะคุณยายเป็นไงบ้าง” ท่านถามกลับด้วยความห่วงใยทำเอาหญิงสาวน้ำตาคลอด้วยความคิดถึงคุณยายผู้ล่วงลับ
“คุณยายเสียไปหลายปีแล้วค่ะ”
“พ่อเสียใจด้วยนะ”
“เรื่องที่คุณยายเสียผมเองก็เพิ่งทราบเหมือนกันครับ”
“แล้วตอนนี้หนูอยู่กับใครล่ะ”
“หนูอยู่กับแม่สองคนค่ะ หนูทำงานส่งเงินไปให้ที่บ้านค่ะ”
“กตัญญูแบบนี้เชื่อสิว่าหนูต้องได้ดี อย่าบอกนะว่าลูกใช้เรื่องที่พ่อช่วยยายของหนูกระท้อนมาบีบบังคับให้หนูกระท้อนทำตามที่ลูกต้องการ”คนเป็นพ่อเริ่มจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้
“อะ เอ่อ...ผมแค่ขอความช่วยเหลือเองครับไม่ได้บีบบังคับนะครับ”
“ภามพูดถูกค่ะภามไม่ได้บังคับกระท้อนนะคะ กระท้อนเต็มใจช่วย”
“แม่ของกระท้อนรู้เรื่องนี้หรือยัง”
“ยังค่ะ”
“แล้วหนูไม่คิดว่าท่านจะคัดค้านบ้างหรอ”
“อะ เอ่อ...”
“พ่อไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ยังไม่ได้เริ่มใช่ไหมยุติทุกอย่างซะ”
“เริ่มแล้วครับพ่อ” คนเป็นพ่อถึงกับกุมขมับ เขาไม่อยากให้ลูกชายทำร้ายจิตใจเด็กสาวที่ดูใสซื่อคนนี้เลย
“พ่อเตือนช้าไปสินะ”
“ทุกอย่างจะต้องราบรื่นคุณพ่อเชื่อผมสิครับ”
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วพ่อก็คงทำอะไรไม่ได้แต่พ่อของให้ทั้งสองคนคิดถึงเด็กตาดำๆที่กำลังจะเกิดมาบนโลกใบนี้ให้มากๆ เด็กคนหนึ่งกว่าจะเลี้ยงดูให้เติบโตไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เรื่องเงินทองพอไม่ห่วงพ่อเชื่อว่าภามจัดการได้แต่เรื่องความรักความเอาใจใส่พ่อว่าภามต้องสร้างมันมาร่วมกันกับกระท้อนนะ”
“ผมจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ อาหารเย็นหมดแล้วเราเริ่มทานกันเถอะครับ”
“ทานเถอะหนูกระท้อนทานเยอะๆล่ะหลานของพ่อจะได้แข็งแรง”
“ยังไม่รู้เลยครับว่าท้องแล้วหรือยัง”
“ไม่รู้ล่ะพ่อก็แอบลุ้นเหมือนกัน”
“ฮ่าๆ ที่แท้คุณพ่อก็อยากเป็นคุณปู่นี่เอง” ภามหัวเราะชอบใจออกมาเบาๆจนคนข้างกายต้องเอ่ยห้ามเพราะเขาดูจะแฮปปี้เกินไปแล้ว หลังจากทานมื้อพิเศษร่วมกันแล้วบิดาของเขาก็ขอตัวกลับก่อนตอนนี้เลยเหลือแค่เธอกับเขาสองคน
“ดูเหมือนพ่ออยากให้เราอยู่ดูแลลูกด้วยกันเลยเนาะ”
“กระท้อนเชื่อใจว่าภามเลี้ยงดูลูกได้อย่างดี”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
“เพราะขนาดบริษัทใหญ่ๆภามยังดูแลได้เลย”
“ไม่ใช่ภามคนเดียวสักหน่อยที่ดูแล ทุกคนที่มีส่วนรับผิดชอบก็แบ่งหน้าที่กันดู”
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ”
“เรากลับกันเถอะภามกลัวรถติด”
“โอเค"