เหมือนกับคำพูดของเขาเป็นภาษาต่างดาวยังไงยังงั้นแหละ เพราะแค่คำง่ายๆ แต่ทำไมสมองของหล่อนถึงไม่เข้าใจความหมายของมันนะ เชิญ... เขาก็บอกชัดเจนอยู่แล้วนี่ว่าให้หล่อนไปได้ แต่ทำไมร่างกายไม่ยอมขยับ แถมยังรู้สึกปากคอแห้งจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียเพื่อให้ความชุ่มชื่นอีกต่างหาก
หล่อนเหมือนเห็นคนตรงหน้าตัวเกร็งขึ้นเล็กน้อยยามจ้องมาที่ลิ้นเล็กของหล่อน หญิงสาวลนลานจะลงจากเตียง แต่ก็ทำไม่สำเร็จเมื่อถูกมือหนาใหญ่และแข็งแรงนักของเฟเบียนคว้าท่อนแขนของหล่อนเอาไว้ซะก่อน เขาใช้แรงเพียงหนึ่งในร้อยส่วนเท่านั้นก็สามารถดึงหล่อนเข้ามาในอ้อมแขนกำยำได้อย่างง่ายดาย
โอ้... ตายแล้ว ตายแน่... แค่อยู่ไกลๆ แล้วจ้องมองเขาห่างๆ หล่อนก็แทบจะกลายเป็นขี้ผึ้งถูกลนด้วยไฟอยู่แล้ว แต่นี่... ตอนนี้เขา... เขาดึงหล่อนเข้ามากอด กลิ่นไอแห่งบุรุษเพศนักล่าแสนอันตรายฟุ้งเข้าใส่จมูกอย่างรุนแรง มันทำให้หล่อนมึนงง และก็ดำดิ่งลงสู่ห้วงเสน่หาที่เฟเบียนเป็นคนควบคุมอย่างง่ายดาย
มือใหญ่ร้อนผ่าวแตะเบาๆ ที่เหนือสะโพกผาย สมองสั่งให้หล่อนดิ้นรน... ดิ้นสิลัลนา อย่ายอมแพ้เขาเพียงเพราะเขาหล่อแบบนี้ ดิ้น ต่อสู้... แต่มันได้ผลที่ไหนกันล่ะ เพราะจนแล้วจนรอดหล่อนก็ยังยืนนิ่ง นิ่งจนรู้ถึงการเคลื่อนไหวขั้นปรมาจารย์ของคนตัวโตได้อย่างชัดเจน
“ฉัน... จะออกไป...” หล่อนบอกเขาเสียงสั่น
เฟเบียนแสยะยิ้มร้ายกาจไม่ผิดจากจอมมารแม้แต่นิดเดียว ดวงตาของเขาอันตรายพอๆ กับริมฝีปากที่อยู่ใกล้กับใบหน้าของหล่อนเพียงแค่คืบนั่นแหละ
“มีบางอย่างที่เธอต้องเลือก...”
ในที่สุดเขาก็พูดออกมา น้ำเสียงของเขาเย็นชา แต่สายตากลับรุ่มร้อนราวกับมีกองไฟลุกไหม้อยู่ในนั้น หญิงสาวตัวสั่นสะท้านเมื่อมือใหญ่รั้งให้กายส่วนล่างของหล่อนแนบแน่นกับเรือนร่างสูงใหญ่มากยิ่งขึ้น ความแข็งชันแถวหน้าขาของเขาดุนดันอยู่ที่หน้าท้องของหล่อน และไม่ต้องให้ใครมากระซิบบอกหรอกว่าเจ้าสิ่งที่โตเอาโตเอาแข็งเอาแข็งเอานั้นคืออะไร เพราะถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่เคยยุ่งกับผู้ชายคนไหนมาก่อน แต่หล่อนก็มีพี่ชาย และพี่ชายคนนี้ของหล่อนก็มักจะไม่สำรวมนักเวลาอยู่ภายในบ้าน
“ฉัน... ไม่เลือก...”
เขาไม่สนใจคำปฏิเสธของหล่อน เพราะเขายังพูดต่อด้วยน้ำเสียงไร้ความผ่อนปรนเช่นเคย “ระหว่างพี่ชายของเธอ กับตัวของเธอ”
“ว่าไงนะ? นี่คุณ...”
เขาหัวเราะหยันๆ แต่ดูยังไง๊ยังไงเขาก็ยังหล่อลากไส้มากกว่าน่าขยะแขยงอยู่ดี “ฉันจะปล่อยพี่ชายของเธอไป แต่นั่นจะต้องมีการแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อกัน...”
หน้าของหล่อนแดงจัด เคยอ่านแต่ในนิยายเท่านั้นแหละที่นางเอกถูกแบล็กเมย์ให้นอนกับพระเอกเพื่อช่วยพี่ชายให้รอดพ้นจากยำบาทา แต่นี่... เฟเบียนไม่มีทางเป็นพระเอกไปได้ เพราะเขาโหดเกินไป ดุร้ายเกินไป เลือดเย็นเกินไป และก็หล่อเกินไป เขาเหมาะที่จะเป็นตัวโกงมากกว่า ตัวโกงที่หล่อที่สุดในสามโลก
“อย่าบอกนะว่าจะให้ฉัน... นอนกับคุณ...”
เฟเบียนยิ้มบางๆ หรี่ตามองใบหน้าของสาวน้อยในอ้อมแขน กลิ่นกายของหล่อนคือกลิ่นธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีกลิ่นของน้ำหอมสตรีที่บรรดาคู่นอนคนก่อนๆ ของเขาเคยใช้ หรือแม้แต่กลิ่นแป้งหอมๆ ก็ไม่มีติดผิวกายของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ทำไมนะ? ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองชอบกลิ่นกายธรรมชาติที่ไม่ผิดไปจากกลิ่นของดอกไวโอเล็ตของหล่อนเหลือเกิน มันดึงดูด และผลักดันให้เขายื่นข้อเสนอที่น่าละอายที่เขาไม่เคยคิดจะทำมาก่อนออกไป เขาไม่เคยมีความต้องการที่จะบังคับให้ผู้หญิงคนไหนขึ้นเตียงด้วย เพราะแค่รายชื่อผู้หญิงที่กำลังยืนรอให้เขากระดิกนิ้วเรียกอยู่ก็ยาวเป็นหมื่นๆ ไมล์แล้ว แล้วทำไมเขาถึงใช้ข้อเสนอบ้าๆ นั้นกับเจ้าหล่อนล่ะ?
คิ้วเข้มยาวเป็นปื้นที่ขนานกับดวงตาคมจัดเลิกขึ้นน้อยๆ อย่างแปลกใจในตัวเอง แต่เพียงไม่นานนักสมองที่ฉลาดเป็นกรดของเขาก็หาคำตอบให้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แม้คำตอบพวกนั้นมันจะเป็นคำตอบที่เข้าข้างตัวเองแบบสุดๆ เลยก็ตามที
‘เขาก็แค่อดยากผู้หญิงมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ’ นี่คือเหตุผลแรก
‘เขาก็แค่อยากได้ประสบการณ์แปลกใหม่ กับอีตัว’ นี่คือเหตุผลที่สอง
‘เขาก็แค่อยากเอาคืนไอ้คนที่มันบังอาจลูบคมของเขา ก็เท่านั้น’ นี่คือเหตุผลที่สาม และ
‘เขาก็แค่อยากประกาศศักดาให้ผู้หญิงตรงหน้ารู้ว่า เขาคือเจ้าของโลก ไม่ใช่ผู้หญิงปากคอเราะร้ายเช่นหล่อน’
ทุกเหตุผลฟังดูเข้าท่าเป็นที่สุด แต่ทำไม๊ ทำไม... เขาถึงรู้สึกว่ามันยังมีอ**บางเหตุผลที่เขาไม่กล้ายอมรับมันออกมา แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ... เขาจะไม่สนใจอะไรอีก นอกจากจัดการกับแม่สาวน้อยในอ้อมแขนให้เสร็จเรื่องเสร็จราว สอนให้หล่อนรู้ว่าอย่าบังอาจเข้ามาวุ่นวายในสถานที่ของเขาอีก จากนั้นก็เขี่ยหล่อนลงจากเตียง พร้อมๆ กับเงินสดสักแสนสองแสนหากหล่อนทำให้เขาถูกใจ เฟเบียนแสยะยิ้มให้กับความคิดอำมหิตของตัวเอง
“นั่นคือคำตอบที่ถูกต้อง... นอนกับฉัน... หากเธออยากได้พี่ชายของตัวเองกลับออกไปจากที่นี่ด้วย”
“คนเถื่อน! คุณมันคนสารเลว...”
หญิงสาวสะบัดตัวสุดแรงด้วยความเจ็บแค้น ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยถูกใครหน้าไหนทำให้หล่อนรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยแบบนี้มาก่อนเลย แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร เฟเบียน บราวน์ เขาเป็นเทวดาหรือไง ถึงได้กล้ามาทำอย่างนี้กับหล่อน คิดจะแบล็คเมย์หล่อนอย่างนั้นหรือไม่มีทางเด็ดขาด
“แม้ฉันจะรู้ว่าเธอมาจากสถานที่ต่ำๆ แต่ฉันก็ยังอยากได้ยินคำพูดที่เพราะพริ้งมากกว่านี้ สาวน้อย”
ไอ้ผู้ชายปากจัด!
ลัลนากำมือแน่น แม้จะถูกเขาพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาจนแทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน แต่หล่อนก็มั่นใจว่าหล่อนจะสามารถเอาเลือดปากของคนตัวโตออกได้ หากหล่อนใช้กำปั้นฟาดปากหมอนี่เต็มๆ แรง แต่แค่ยกมือขึ้นเท่านั้นเสียงกระด้างรู้ทันของพ่อคนเถื่อนที่อันตรายไปซะทุกรูขุมขนของเฟเบียนก็ดังขึ้นซะก่อน และมันก็สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของหล่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว
“อย่าลืมว่าฉันคือคนเถื่อน... ดังนั้นไม่ว่าเธอจะทำอะไรลงไป ฉันจะไม่รีรอเลยที่จะโต้ตอบในลักษณะเดียวกัน”
นี่ถ้าหล่อนต่อยเขาไปเมื่อครู่นี้ เขาก็จะต่อยหล่อนตอบอย่างนั้นหรือ ลัลนาหน้าซีดเผือด ความหวาดกลัวแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกกลัวใครหน้าไหนมากเท่ากับเฟเบียน บราวน์มาก่อนเลย และไม่ต้องรอให้ถึงกำปั้นหรอก เพราะแค่นิ้วเพียงนิ้วเดียวของเขา ก็สามารถทำให้หล่อนปลิวได้แล้ว
“คุณมันคนบ้า... ฉัน... ฉันจะไม่ยอมให้คุณแตะต้องฉันหรอก”
“งั้นฉันก็จะไปแตะต้องพี่ชายของเธอแทน...”
ลัลนาหน้าซีดเผือด เพราะสภาพบอบช้ำของพี่ชายที่เห็นมาเมื่อสิบกว่านาทีที่แล้วยังติดตาไม่จาง ลิขิตจะทนรับมือรับเท้าของเฟเบียนได้อีกนานแค่ไหนกัน