ใครกันนะเป็นเจ้าของบ่อนแห่งนี้? หล่อนเคยได้ยินมาว่าเขาชื่อ เฟเบียน... เฟเบียน บราวน์ ซึ่งนามสกุลเดียวกับแมทธิว บราวน์ซึ่งเป็นเพื่อนของอเล็กซิโอเลย แต่ช่างเถอะ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ไม่ว่าเขาจะหน้าตายังไง และไม่ว่าเขาจะนิสัยยังไง หล่อนก็เกลียดเขาอยู่ดี
ผู้ชายคนเดียวที่ทำให้ผู้คนจมปลักอยู่กับการพนัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีพี่ชายของหล่อนรวมอยู่ด้วย และถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นบ่อนการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายแห่งแรกของเมืองไทยก็ตามที แต่หล่อนก็ไม่มีทางยอมรับมันได้แน่นอน หล่อนเกลียดพวกผีพนัน และที่เกลียดที่สุดก็คือคนที่ทำให้พวกนี้เป็นผีพนัน
และคนๆ นั้นก็คือนายเฟเบียน บราวน์ นั่นเอง
“อย่าทำอะไรผมเลยครับ... ผมกลัวแล้ว...”
นั่นมันเสียงพี่ชายของหล่อนนี่ มันดังมาจากห้องด้านซ้ายมือที่อยู่ถัดไปไม่มากนัก ลัลนารีบวิ่งไปหยุดที่หน้าประตูบานนั้นทันที และสิ่งที่ได้เห็นก็คือ...
ภาพของพี่ชายตัวเองกำลังนอนรับมือรับเท้าของผู้ชายคนหนึ่งอยู่ และถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้ของพี่ชายจะมีแค่คนเดียวเท่านั้นเพราะผู้ชายอีกเกือบสิบคนในชุดสีดำเลือกที่จะยืนดูเหตุการณ์มากกว่า แต่เท้าของผู้ชายผมสีเข้มที่กำลังประเคนใส่พี่ชายของหล่อนอยู่นั้นหาได้เล็กๆ ไม่มันใหญ่ยังกับเท้ายักษ์เลยทีเดียว
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ไม่รู้ว่าเพราะความกล้าที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด หรือว่าเพราะความสงสารพี่ชายกันแน่ถึงทำให้หล่อนกล้าแผดเสียงกร้าวออกไปแบบนั้น และมันก็ได้ผลชะงัดนักเชียว เมื่อทุกสายตาต่างจับจ้องมายังร่างเล็กของหล่อนเขม็ง ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายที่กำลังกระทืบพี่ชายของหล่อนอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย
เหมือนเวลาหยุดหมุน ดวงตะวันหยุดสาดแสง พระพรายหยุดพัดพลิ้ว กายสาวแข็งประดุจหินศิลายามเมื่อได้สบประสานสายตากับผู้ชายตัวสูงใหญ่และแน่นอนว่าไม่มีทางเป็นคนไทยไปได้ หัวใจของหล่อนเต้นผิดจังหวะเป็นครั้งแรกในชีวิต เนื้อตัวร้อนผ่าวราวกับจับไข้ ร้อนๆ หนาวๆ และซาบซ่านไปทั้งเรือนกาย เพียงแค่ได้สบตากับผู้ชายที่ดูไม่ผิดจากพยัคฆ์ร้ายตรงหน้าเท่านั้น
แม้จะไม่ได้ยืนอยู่ใกล้ แม้จะมีคนอื่นกั้นขวาง แต่ตอนนี้ในสมองของหล่อน ในหัวใจของหล่อน และในสายตาของหล่อนมองเห็นแต่ผู้ชายที่หล่อระเบิดยิ่งกว่าเทพบุตรเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาดูหล่อ แต่ก็ดูร้ายกาจและอันตรายมากพอๆ กับความสมบูรณ์แบบของเขานั่นแหละ
หล่อนอยากจะละสายตาหนี แต่กลับจ้องเขาตาไม่กระพริบ ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่น่าดึงดูดใจไปมากกว่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว หญิงสาวพยายามบังคับให้ตัวเองหายใจเป็นปกติเสียที แต่ก็ทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ แม้กระทั่งตอนนี้ ตอนที่เขาเดินมาหยุดตรงหน้าในระยะกระชั้นชิดแล้ว หล่อนก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากอ้าปากค้างเติ่งอย่างเดียว
ยิ่งมองใกล้ๆ หัวใจของหล่อนก็ยิ่งเต้นด้วยจังหวะที่เร็วระรัวขึ้น ลัลนาไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน หล่อนจึงทำได้แค่เพียงจ้องเขาแบบตาไม่กะพริบเท่านั้น ก็ใครจะไปกะพริบตาลงกันล่ะ ในเมื่อผู้ชายตรงหน้าราวกับก้าวลงมาจากสวรรค์ก็ไม่ปาน
หล่อระเบิด หล่อลากไส้ หล่อขั้นเทพเหลือเกิน และเขาก็ทำให้หล่อนแทบจะหายใจไม่ออก เมื่อในตอนนี้ ในยามนี้สมองที่เคยฉลาดและเจ้าเล่ห์สุดๆ ของหล่อนนึกออกแค่เพียงรายละเอียดบนใบหน้าสี่เหลี่ยมนี้ได้เท่านั้น เขาดึงดูดให้หล่อนไม่สามารถละสายตาจากความมีเสน่ห์ของเขาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
ลัลนากลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงคอด้วยความยากลำบาก เมื่อสายตาไม่รักดีเริ่มต้นสำรวจเครื่องหน้าอันแสนมหัศจรรย์ของบุรุษแสนอันตรายตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน และก็ทำให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีใบหน้าสี่เหลี่ยม และคางที่แสนบึกบึน จมูกของเขาโด่งเป็นสันอยู่เหนือริมฝีปากบางเฉียบสีสดแสนเซ็กซี่ ขณะที่คิ้วเข้มยาวเป็นปื้นพาดขนานกับดวงตาดุดันไร้ความผ่อนปรน เส้นผมของเขายามสะท้อนกับแสงไฟสีนวลด้านบนให้สีน้ำตาลอมดำซึ่งเป็นสีเดียวกับดวงตาของเขานั่นแหละ
เขาดูดี... ไม่... ไม่ใช่แค่ดูดีหรอก แต่เขาหล่อระเบิดเถิดเทิงเลยทีเดียว หญิงสาวคิดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ อดเกลียดตัวเองไม่ได้ที่มาจ้องมองผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้แต่หัวนอนปลายเท้าและแถมยังกำลังกระทืบพี่ชายของตัวเองอยู่อย่างตะกละตะกลามแบบนี้
แต่หล่อนละสายตาจากเขาไม่ได้จริงๆ นี่ ดูสิ... ไม่ใช่แค่เครื่องหน้าของเขาเท่านั้นนะที่สมบูรณ์แบบ แต่ร่างกายของเขาก็ยังให้ความรู้สึกไม่ต่างกันเลย เขาตัวใหญ่โต สูงกว่าหล่อนเป็นฟุตเลยทีเดียว และแน่นอนว่าทุกส่วนในร่างกายของเขาก็ต้องใหญ่และแข็งแรงเป็นที่สุด
ตั้งแต่บ่าบึกบึนที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาวนวลๆ ที่กระดุมคอถูกปลดออกสามเม็ดเผยแผงอกที่มีเส้นขนรกเรื้อยสีเข้มแก่สายตาของหล่อนอย่างชัดเจน ขณะที่แขนเสื้อทั้งสองข้างถูกพับลวกๆ ขึ้นไปอยู่บริเวณข้อศอก เขาใส่นาฬิกาด้วย และหากมองไม่ผิดมันเป็นนาฬิกาแบบบุรุษยี่ห้อดังเลยทีเดียว ซึ่งหากมันเป็นของจริงคงจะราคาแพงระยับเชียวแหละ
และเหมือนกับว่าเขาจะหมดความอดทนต่อการมองโลมเลียของหล่อนเสียแล้ว เพราะน้ำเสียงกระด้างที่ทั้งห้วนทั้งอันตรายจนน่าขนลุกของเขาดังขึ้นทันทีเมื่อสายตาของหล่อนต่ำลงไปอยู่ที่บริเวณเข็มขัดหนังสีดำสนิทนั่น
ลัลนาได้สติก็แก้มแดงจัดรีบละสายตาจากสิ่งที่ไม่ควรจะมองในทันที หล่อนรีบปรับอารมณ์และเชิดหน้าขึ้นสูง บังคับตัวเองให้ลืมเลือนต่อความหล่อระเบิดของผู้ชายตรงหน้าอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก เพราะหัวใจของหล่อนยังสั่นสะท้านอยู่เลย
“ในนี้ไม่ใช่สถานที่หากินของอีตัว...”
หญิงสาวหน้าชาดิกราวกับถูกตบ เพราะถึงแม้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะใช้คำพูดประโยคเดียวกันกับการ์ดสองคนที่หล่อนพบด้านหน้าประตูทางเข้าบ่อน แต่คำพูดของเขากลับมีผลต่อก้อนเนื้อหัวใจของหล่อนอย่างรุนแรง เขาทำให้หล่อนเจ็บได้แม้กระทั่งแค่ชายตามองเหยียดๆ เท่านั้น
ไอ้ผู้ชายบ้า!
หญิงสาวร้องด่าเขาภายในอก ก่อนจะใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อดึงตัวเองให้หลุดออกมาจากบ่วงเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของผู้ชายตรงหน้า แต่เขาหล่อน่ะ มองยังไงก็หล่อ หล่อจนหล่อนแทบเป็นลมเพราะความสมบูรณ์แบบของเขาอยู่แล้ว ลัลนาคิดอย่างวิงเวียน อดสูนักกับความรู้สึกของตัวเอง
“ฉันไม่ใช่อีตัว...”
และดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจฟังคำแก้ตัวของหล่อนเลยแม้แต่น้อย เพราะอึดใจต่อมาเขาก็หันไปพยักหน้าให้ผู้ชายที่ยืนเรียงหน้ากระดานอยู่ริมห้องให้เข้ามาหาหล่อน
“โยนเธอออกไปซะ”
น้ำเสียงของเขาช่างทรงอำนาจเหลือเกิน แต่หล่อนไม่มีวันยอมให้เขาทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้หรอก หล่อนจะสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะเข้ามาสิบคนแต่ศิลปะการป้องกันตัวเองที่หล่อนมีอยู่น่าจะสามารถทำให้หล่อนรอดพ้นจากการถูกรุมกระทืบในครั้งนี้ได้บ้างล่ะน่า ลัลนาพยายามให้กำลังใจตัวเอง ทั้งๆ ที่สถานการณ์ตรงหน้าเป็นรองเสียเหลือเกิน
“ครับ คุณเฟเบียน...”
ลัลนาที่กำลังกำหมัดเพื่อจะสู้ตาย หันขวับไปจ้องหน้าผู้ชายตัวโตที่ทำให้หล่อนหลงมองอยู่นานทันที
“คุณน่ะเหรอ เฟเบียน บราวน์...”