เสียงฮัมเพลงเบาๆ ของใครบางคนปลุกให้เธอตื่นจากอาการหลับใหล ตอนนี้เนื้อตัวของเธอเริ่มร้อนเหมือนกับไฟ แถมร่างกายตรงช่วงล่างยังบอกอีกว่าเธอต้องการเรื่องอย่างว่ามากแค่ไหน
“ตื่นแล้วเหรอครับ...คนดีของผม” อาจารย์ที่เธอเคารพนับถือเหมือนพ่อเดินออกมาจากห้องน้ำพอดีกับจังหวะที่เธอตื่นขึ้นมา
ตอนนี้เขาสวมใส่เพียงแค่ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดเพียงเท่านั้น ส่วนร่างกายของเธอก็ยังคงอยู่ในชุดเสื้อผ้าครบถ้วนไม่มีส่วนใดเสียหาย
“เรื่องอะไรกันเหรอคะอาจารย์” เธอเริ่มเสียงแหบพร่า ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มมากกว่าที่เคย
นี่เธอเป็นอะไรกันแน่...
“มันร้อนใช่ไหมครับ...อยากปลดปล่อยออกไหม” รอยยิ้มเหยียดออกมาอย่างน่าหวาดกลัวทำให้เธอรู้สึกผวา
นี่ไม่ใช่อาจารย์คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก...
เขาย่างกรายเข้ามาทางเธออย่างเชื่องช้า ก่อนจะจับที่ต้นขาของเธอและลูบมันเบาๆ ผ่านกางเกงยีนที่เธอนั้นสวมใส่ ทำให้ร่างกายของเธอมันกลับยิ่งร้อนและยิ่งต้องการการปลดปล่อย
“อาจารย์จะทำอะไรดาว...”
“แหมๆๆๆ โง่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ หึ!” เขาถอดชุดคลุมอาบน้ำออกจนสิ่งที่เขาปกปิดไว้มันประจักรแก่สายตาของเธอ จนเธอต้องหลับตาแน่นพยายามไม่มองมัน “ฉันทำดีกับแกมาตลอดเพราะหวังอยากได้ตัวแกเท่านั้นแหละ ฉันรู้ว่าแกก็ชอบฉันเลยมาอ่อยฉัน เหอะ! ผู้หญิงพวกนี้มันสกปรกสิ้นดี”
“อาจารย์คะ หนูแค่เห็นอาจารย์เป็นเหมือนพ่อของหนูคนหนึ่ง”
“ถุ้ย! แกอยากได้ฉันจนตัวสั่นขนาดนี้ ยังมีหน้ามาบอกว่าฉันเป็นพ่ออีกเหรอ!” เขาชูขวดยาบางอย่างขึ้นมาให้เธอดู “หรือตัวสั่นเพราะยาที่ฉันสั่งมาพิเศษสำหรับแกกันนะ...รู้ไหม ฉันแอบเอาหน้าของแกไปตัดต่อเข้าใส่ในรูปโป๊ด้วยนะ ตอนแกอยู่บนรูปพวกนั้นฉันนี่มีอารมณ์เป็นบ้าเลย ฮ่าๆๆ”
คนตรงหน้าของเธอเริ่มหัวเราะเหมือนกับที่พวกโรคจิตเขาทำกัน เธอกลัวเขามากจนน้ำตามันไหลนองออกมาอาบทั้งสองแก้ม แต่ร่างกายของเธอตอนนี้กลับไม่ให้ความร่วมมือ ตัวของเธอเริ่มสั่นและอยากจะปลดปล่อยมากที่สุดจนเธอต้องยกมือมาถอดเสื้อของตัวเองออกไป
“รอไม่ไหวแล้วใช่ไหมเด็กดี...มาม้ะ ฉันจะช่วยเธอเอง” และเขาก็โถมร่างเข้าใส่เธอ
แม้เธอจะร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ แต่ร่างกายของเธอกลับตอบรับเขาแต่โดยดีเพราะถูกฤทธิ์ยานั้นเข้าครอบงำ...
“มีอยู่แค่นี้ทำไมถึงหาไม่เจอ!” กัญญ์กุลณัชเริ่มหัวเสียหนัก ที่หาไม่พบเสียทีแม้มันจะมีห้องอยู่เพียงแค่ 20 ห้องเท่านั้น
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“เจอแล้วครับคุณหนู อยู่อีกที่หนึ่งครับ”
“บ้าเอ้ย!” ณัชสถบอย่างหัวเสียเพราะเธอพึ่งจะสังเกตุว่ามันมีอีกโรงแรมหนึ่งซึ่งต้องเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร
เธอออกวิ่งเท้าอีกครั้งอย่างคนบ้าคลั่ง เธอวิ่งถึงแล้วพวกลูกน้องที่อยู่หน้าห้องนั้นก็รีบส่งสัญญาณให้เธอว่ารถคันนี้ใช่หรือไม่
“ยืนโง่ทำไม...ทำไมถึงยังไม่เข้าไป!”
“ขออภัยครับคุณหนู”
ณัชรีบวิ่งไปเคาะห้องนั้นอย่างร้อนใจ ภาวนาว่าขออย่าให้เรื่องที่เธอคิดมันเกิดขึ้นเลย
ก๊อกๆๆๆๆๆๆ
“ไม่รับเซอร์วิส!” เสียงคนด้านในตอกกลับมาให้เธอหัวร้อนจัด
กัญญ์กุลณัชพยักหน้าให้กับลูกน้องก่อนที่คนพวกนั้นจะรู้งานและวิ่งเข้ามาพังประตูในทันที ภาพที่เธอพบเห็นตรงหน้าทำให้เลือดในสมองนั้นแทบแตกออกมา
สภาพเปลือยเปล่าของหล่อนกำลังบิดเร้าไปมาซึ่งเธอสันนิษฐานว่าถูกยาแน่ๆ ชายคนดั่งกล่าวที่อยู่ในห้องเบิกตาโพรงอยากตกใจก่อนจะรีบลุกขึ้นจากตัวหล่อนอย่างรวดเร็ว
“ใครวะ!”
“จัดการด้วย”
“ครับ”
ชายลูกน้องของเธอราวๆ สามคนวิ่งเข้ามาล็อคตัวของมันเอาไว้จนไปไหนไม่รอด กัญญ์กุลณัชเดินเข้ามาทางหล่อนก่อนจะรีบจัดแจงหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวมไว้ให้พรางๆ ก่อนและจึงจัดแจงใส่เสื้อผ้าให้ในขณะที่พวกลูกน้องของเธอกำลังลากมันออกไปจากห้องจนเหลือแค่เราที่อยู่ภายในห้องเท่านั้น
เธอพยุงหล่อนขึ้นมาในสถาพที่ไม่สู้ดีและพร้อมจะถอดเสื้ออยู่ตลอดเวลา ลูกน้องที่รู้หน้าที่ดีก็รีบพารถมารับและพาตัวเธอและหล่อนกลับไปให้เร็วที่สุด
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง เอามันไปไว้ที่โกดัง”
“ครับคุณหนู”
ก่อนที่รถจะออกตรงมุ่งหน้าสู่คอนโดของคุณหนูอย่างรวดเร็วเพราะลูกน้องของเขารู้ดีว่า ตอนนี้คุณหนูของเขาอยู่ในอารมณ์อย่างไร...
ถ้าถามว่าตอนนี้เธอยังมีสติอยู่ไหมเธอตอบได้เลยว่าเธอยังมี แต่ตอนนี้ร่างกายของเธอมันไม่ภักดีเลยเพราะเธอรู้สึกร้อนไปหมด
ไม่รู้ว่าเธอตาพร่ามัวหรือเปล่าถึงเห็นคุณณัชที่ทำร้ายร่างกายและจิตใจเธอในวันนั้น แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันจะเป็นไปไม่ได้แต่เธอก็อยากให้เขามาจริงๆ
เธอยอมเสียตัวให้กับเขาดีกว่า แค่นี้จิตใจเธอก็บอบช้ำมากพอแล้วที่รู้ว่าคนที่เธอเคารพและนับถือมาตลอดคิดกับเธอแค่เรื่องอย่างว่าจริงๆ
“ฉันบอกเธอแล้วว่าเธอเป็นของฉัน...ประกายดาว” เสียงที่เธอคุ้นเคยดังอยู่ข้างหูให้เธอพยายามจะปรือตามอง
ก่อนที่ตาทั้งสองจะเบิกโพรงผ่านกรอบแว่นหนาเพราะคนที่เธอเฝ้าคิดและอยากให้เขามาหา กลับเข้ามาอีกครั้งแล้วผ่านสายตาของเธอที่พร่ามัว
“ตาฝาดอะไรกัน...” แม้ร่างกายของเธอจะยังร้อนอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนแรกๆ ที่โดนมันสักเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ร่างกายของเธอก็ยังต้องการเรื่องอย่างนั้น เพราะดูท่าทีความต้องการของเธอมันไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย เธอเสียใจจริงๆ ที่คนที่เธอไว้ใจกลับทำร้ายเธอได้ลงคอ
“เธออยากให้ฉันช่วยเธอไหม?” เสียงอ่อนนุ่มละมุนของเขาเหมือนกับตัวเธอนั้นตกอยู่ในความฝัน
หากในครั้งนั้นเขานุ่มนวลและอ่อนโยนกับเธอเช่นนี้ เธอเองก็พร้อมและเต็มใจที่จะมอบมันให้เขาเช่นกัน
“คุณณัช...คนใจร้าย”
“ว่าไงนะ!” ณัชขมวดคิ้วใส่คนที่พูดออกมาราวกับคนเพ้อ
แม้ตัวเองจะเดือดดาลอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ หล่อนไม่ควรเจอเรื่องที่มันเลวร้ายกว่านี้อีกแล้ว
“ถ้าคุณอ่อนโยนกับฉันแบบนี้...คุณจะน่ารักมากๆ เลยนะคะ” ประกายดาวพูดอยู่ในความฝัน
เธอรู้ว่ามันเป็นแค่ฝัน คนตรงหน้าไม่มีทางมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอได้หรอก และเธอน่ะเกลียดเขายิ่งกว่าอะไรดี
...แต่ถ้าหากมันเป็นฝัน...มันคงจะไม่เป็นอะไรหรอก เขาไม่รู้หรอกว่าจริงๆ เธอหลงใหลในรสจูบของเขามากเพียงใด
“จูบดาวหน่อยได้ไหมคะ...ดาวชอบจูบของคุณณัชที่สุดเลย” สายตาหวานเยิ้มถูกส่งมอบมาทางเธอให้ณัชได้แต่ตกอยู่ในภวังค์
อกข้างซ้ายของเธอเต้นระรัวอย่างเอ็นดูคนตรงหน้า แต่หล่อนกำลังขอในสิ่งที่เธอไม่มีวันจะให้มันได้อีก
ประกายดาวที่รอให้คนตรงหน้าโน้มมาหาเริ่มอดทนรอไม่ไหว เธอจึงยันกายลุกขึ้นนั่งและส่งมือไปคล้องคอของเขาเอาไว้อย่างเอาแต่ใจ
กัญญ์กุลณัชเบิกตาโพรงอย่างตื่นตกใจ เขาตั้งใจจะปัดเธอออก แต่สายตาของหล่องที่ส่งมอบกันมา ทำให้เธอตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับเขยื้อนใดๆ ทั้งสิ้น
สุดท้ายแล้วเธอก็พ่ายแพ้ให้กับสายตาของหล่อน ประกายดาวประกบริมฝีปากของเธอเบาๆ อย่างเชิงขออนุญาต สัมผัสนุ่มลึกที่เธอคุ้นเคยปรากฏขึ้นมาในห้วงความทรงจำ
ความโหยหาในรสสัมผัสและคนตรงหน้า ทำให้ณัชเริ่มสานต่อมันเองโดยการขยับปากงับทั้งบนและล่างอย่างเอาแต่ใจ
“เธอเลือกเองนะประกายดาว...เธอเป็นคนเลือกมันเอง”