Episode 1

1800 คำ
    หลังจากที่ผมได้รับคำสั่งจากคุณหนูณัช เมื่อวานนี้ผมก็ใช้เวลาแทบจะทั้งวันในการสืบค้นประวัติของเด็กสาวที่ชื่อว่า...ประกายดาว     ผมออกจะแปลกใจอยู่หน่อยๆ ที่คุณหนูสนใจคนๆ นี้มากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะโดยปรกติแล้ว หากเธอเจอคนที่ถูกใจเธอก็มักจะใช้ผมติดต่อหาในทันที ไม่อิดออดให้ตามหาและสะกดรอยตามอยู่แบบนี้     แถมดูจากบุคลิกของหล่อนแล้ว เขาก็ยิ่งแปลกใจที่คุณหนูของเขาสนใจท่าทีเฉิ่มๆ นั้น แทนที่จะเป็นเด็กสาวอวบอึ๋มที่คุณหนูมักใช้ให้เขาติดต่อมาเป็นประจำ     แต่หน้าที่ของเขามีเพียงทำตามคำสั่ง ชายผู้ภักดีอย่างเขาชื่นชอบเสมอเวลาที่เจ้านายออกคำสั่งกับเขา ผมรู้ตัวดีว่าตัวเองคงเหมือนหมาตัวหนึ่ง ที่ยอมเป็นทาสรับใช้ให้คุณหนู...แต่ผมก็จะเต็มใจที่จะทำมันจนกว่าที่ชีวิตของผมจะดับสิ้นลง     “ถึงแล้วสินะ...” เกรียงไกรก้มมองเอกสารในมือก่อนจะเงยหน้ามองไปทางหมู่บ้านสลำด้านหน้า     แม้จะรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้ประกายดาวได้แยกย้ายออกมาอยู่เพียงลำพังที่หอพักใกล้กับมหาลัยฯ แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่เขาสนใจ เพราะคนของเขาบอกมาว่า หล่อนมีปัญหากับทางครอบครัวจึงแยกตัวออกไปอยู่เพียงลำพัง และเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าปัญหานั้นคืออะไร เพื่อป้องกันไม่ให้คุณหนูของเขาต้องมีปัญหา หากหล่อนจะติดยาหรือเคยโดนล่วงละเมิด     เกรียงไกรสังเกตเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงหัวมุมนั้น มันเป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่มีลูกค้าอยู่เพียงสองคน สภาพร้านมองดูแล้วก็สกปรกโสโครกเหมือนไม่เคยได้รับการทำความสะอาด แต่ก็อย่างว่า...ในสถานที่แบบนี้คงไม่มีความสะอาดสะอ้านให้เขาได้เห็นเป็นบุญตาหรอก     ผมเดินตรงเข้าไปในร้านด้วยชุดสูทหรูราคาแพงจนเริ่มเป็นที่สนใจแก่ผู้คนภายในร้าน เกรียงไกรหยิบแบงก์พันในกระเป๋าออกมาสองใบก่อนจะยื่นให้กับชายอ้วนและผอมที่กำลังนั่งทานก๋วยเตี๋ยวกันอยู่ พวกเขาตาลุกวาวอย่างน่าสมเพชก่อนจะรีบรับมันไปอย่างรีบร้อนเพราะกลัวคนให้จะเปลี่ยนใจ     เกรียงไกรโบกมือไล่ให้คนทั้งสองออกไปจากร้านและพวกเขาก็ยอมเดินออกไปอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่วายยกชามก๋วยเตี๋ยวที่ยังทานไม่หมดติดไม้ติดมือไปด้วย     “อาแปะ...คุยกับผมหน่อยสิ” เกรียงไกรเอ่ยเรียกชายชราที่ยืนลวกก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ประจำด้วยน้ำเสียงโทนต่ำแสดงถึงความไม่เป็นมิตร     เขาหันมามองทางผมเล็กน้อยก่อนจะเดินหลังคร่อมเข้ามาอย่างมีมารยาท ก็คงเห็นเงินที่ผมเอาให้คนสองคนนั้นกระมัง     “คุณผู้ชายมีอะไรให้ผมรับใช้” ท่าทางนอบน้อมนั้นทำเอาเขาหัวเราะหึขึ้นมาในลำคอ ก่อนจะควักแบงก์พันขึ้นมาหนึ่งใบและยื่นส่งให้ชายชรา เขารีบคร่อมหัวและรับเงินนั้นไปอย่างเร็วไว     “นั่งก่อนสิ...ผมมีเรื่องอยากจะถามสักหน่อย”     “คะ ครับ” เขานั่งลงตรงข้ามกันอย่างนอบน้อม     และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เกรียงไกรเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาในทันที     “แปะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อประกายดาวไหมครับ” เขายื่นส่งรูปถ่ายของหญิงสาวให้กับชายชราคนนั้น     “อ๋อ...หนูดาวเองหรือ” สีหน้าของเขาทำเอาเกรียงไกรยกยิ้มเพราะมาถูกทางแล้ว จะได้ไม่ต้องตามหากันให้ยุ่งยาก “เมื่อก่อนหนูดาวอยู่บ้านหลังด้านในตรงหัวมุมนั้นกับป้าและลุงน่ะ...แต่เหมือนแปะจะได้ยินมาว่าหนูดาวย้ายออกไปอยู่คนเดียวได้ตั้งนานแล้วนะ” ชายชราเริ่มบอกข้อมูลที่ตนเองรู้ให้กับคนตรงหน้าฟัง     “แล้วลุงพอทราบไหมครับ ว่าทำไมน้องถึงต้องย้ายออกไปอยู่ลำพัง”     “อ่า...แปะเป็นเพื่อนสนิทกับอรันนะ อรันคือลุงของหนูดาวน่ะ” ชายชราเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี “ผู้ชายเขาไม่ขายความลับเพื่อนกันหรอกนะหนุ่ม”     “งั้นเหรอครับ” เกรียงไกรควักแบงก์สีเทาขึ้นมาวางตรงหน้าให้ชายชราได้แต่ตาลุกวาวเป็นประกาย “ถ้าผมให้แปะทั้งหมดนี่...แปะจะยอมเล่าให้ผมฟังไหมครับ” ชายชราเริ่มมีสีหน้าสนอกสนใจ ก่อนที่มือเหี่ยวย่นจะเอื้อมมาคว้ามันเอาไปทั้งห้าใบให้ชายหนุ่มได้แต่ยกยิ้มอารมณ์ดี     เงินนั้นมันซื้อได้ทุกสิ่งอย่าง...      “ห้ามไปบอกใครเลยนะว่าแปะเป็นคนบอก...”     ก๊อกๆๆๆ     “เชิญ” ทันทีที่ได้รับอนุญาติจากคนภายในห้อง เกรียงไกรก็เปิดประตูเข้าไปหาเธอทันทีอย่างนอบน้อม “ว่าไงบ้าง” ทันทีที่ได้เห็นหน้าลูกน้องคนสนิท กัญญ์กุลณัชก็วางปากกาลงที่โต๊ะและเอนตัวลงกับเก้าอี้ตัวหรูอย่างผ่อนคลาย     เธอเชื่อว่าจะได้ยินข่าวดีจากปากของเขาเร็วๆนี้...      “วันนี้ผมทั้งไปตามตัวหล่อนที่มหาลัยและก็ที่บ้านเก่าของหล่อนเลยครับ”     “แล้วตอนนี้ตัวขอหล่อนอยู่ที่ไหน?”     “หล่อนมาอาศัยอยู่เพียงลำพังที่หอพักแถวมหาลัยฯของหล่อนแล้วครับคุณหนู”     “เอาล่ะ...ฉันขอรายละเอียดทั้งหมด”     “ได้ครับ” เกรียงไกรคร่อมหัวให้กับเจ้านายอย่างมีมารยาทก่อนเขาจะยกเอกสารที่ถือติดมือมาด้วยเตรียมขึ้นอ่าน “อันนี้รูปที่ผมแอบถ่ายหล่อนที่มหาลัยฯครับ” เขาวางรูปถ่ายสี่ใบลงบนโต๊ะอย่างเบามือ     กัญญ์กุลณัชหยิบมันขึ้นมาดูอย่างไม่ใส่ใจ กระโปรงทรงพลีทยาวเกือบถึงตาตุ่ม ผ้าใบสีขาวก็ดูขาดๆ แต่ยังคงสะอาดเอี่ยมอ่อง ลมที่พัดมาเข้าหน้าทำให้ผมของหล่อนปลิวไสวและเห็นเพียงด้านข้างเท่านั้น      เธอเปิดรูปต่อไปดูก่อนจะเผลอมองค้างอย่างสนใจ ใบหน้าเนียนใสที่ไร้เครื่องสำอางใดๆ ทำเอาเธอตกอยู่ในห้วงภวังค์ หล่อนคงจะดูวิธีการแต่งหน้ามาแบบผิดๆ จึงทำให้รูปที่ส่งมาเฉิ่มเบอะยิ่งกว่าป้าร้านขายข้าวแกงเสียอีก     “หล่อนชื่อ ประกายดาว ขันธิดาขาว ชื่อเล่นชื่อ ดาว อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยสวนสิรินทร์ธร คณะครุศาสตร์ เอกภาษาไทย กรุ๊ปเลือด O เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวไม่มีพี่น้องที่ไหน พ่อกับแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่อายุ 18 ปี อาศัยอยู่กับป้าและลุงมาจนถึงอายุ 19 ปี เป็นนักเรียนดีเด่นและได้รับทุนจากองค์กรต่างๆ สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นคนนิสัยค่อนข้างที่จะเงียบขรึมและไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จากที่ผมไปสำรวจมาหล่อนไม่มีเพื่อนสนิทที่คอยไปไหนมาไหนด้วยกัน หลังเลิกเรียนทุกวันหล่อนจะไปทำงานร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆ กับมหาลัยและเดินทางกลับเข้าหอในเวลาราวๆ สามทุ่มเศษ ที่ออกมาใช้ชีวิตคนเดียวเพราะตัวเองมีปัญหากับลุงและป้าอยู่บ่อยครั้ง โดยรวมแล้วโปรไฟล์ของหล่อนค่อนข้างดี แต่มีข้อเสียคือไม่ใช่สาวน้อยบริสุทธิ์ครับ”     “ว่าไงนะ!” กัญญ์กุลณัชตวัดหางตาใส่เลขาในทันทีที่ได้ยินมันจบ     เธอว่าเธอดูคนไม่ผิด เฉิ่มเบอะแบบยัยนี่คงไม่มีเคยมีแฟนหนุ่มที่ไหนมาก่อน แล้วทำไมสิ่งที่เธอคาดการไว้มันถึงผิดเพี้ยนไปเสียหมด     แต่จะให้เธอถอดใจจากคนนี้มันก็คงจะยากเอาการ คนอย่างเธออยากได้อะไรก็ต้องได้เท่านั้น! “ขออภัยครับคุณหนู” ชายหนุ่มโค้งขออภัยทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่มันเป็นสิ่งที่เขาต้องทำทุกครั้งเมื่อเรื่องน่าโมโหมันออกมาจากปากของเขา “หล่อนไม่เคยมีแฟนหนุ่มมาก่อนครับ...”     “แล้วทำไมหล่อนถึงไม่บริสุทธิ์!” ถามออกไปทั้งความสงสัย ไม่เคยมีแฟนแล้วจะเคยมีเรื่องอย่างว่าได้อย่างไร     “ลุงของหล่อนครับ...” คำเฉลยของเกรียงไกรทำเอากัญญ์กุลณัชได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย “เธอเคยโดนข่มขืนโดยลุงของเธอครับ”     “โอ้...” แม้จะตกใจอยู่บ้างที่ได้ยินมันออกมาแบบนั้นแต่เธอก็ไม่ได้มีความรังเกียจใดๆเลยในความรู้สึกนั้น “แล้วทำไมหล่อนถึงไม่แจ้งความล่ะ” เธอถามเลขากลับไปอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆที่หล่อนก็แจ้งความได้...แต่ทำไมถึงเลือกที่จะไม่ทำ     “ผมได้ยินมาว่าหล่อนอายเกินกว่าที่จะทำแบบนั้นครับ...เลยแยกตัวออกมาอยู่เพียงลำพังเพราะกลัวลุงจะกระทำซ้ำอีก”     กัญญ์กุลณัชยกมือลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด ถึงจะผิดแผนไปบ้างแต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่สักเท่าไหร่ ดีเสียอีกที่ไม่คิดจะต้องเบามือกับหล่อนอีกต่อไป ใจจริงเธอตั้งใจจะถนอมร่างกายของหล่อนเอาไว้หากมันเป็นครั้งแรกของหล่อน     แต่พอมาได้ยินแบบนี้แล้ว...สิ่งที่คิดไว้ทั้งหมดมันก็คงไม่จำเป็นอีกต่อไป     “คืนพรุ่งนี้...จัดการให้ด้วย”     “ได้ครับคุณหนู...เป็นโรงแรมประจำนะครับ” ชายหนุ่มคร่อมหัวรับก่อนที่เสียงร่าเริงของคุณหนูจะมาขัดเอาไว้     “ไม่ต้อง...ไปที่คอนโดของฉัน”     “แต่...”     “มีหน้าที่แค่รับคำสั่ง...ก็แค่ทำตามนั้น”     “ขออภัยครับคุณหนู”     “ออกไปได้แล้ว”     “ครับ” ชายหนุ่มคร่อมหัวรับอีกหนก่อนจะพาร่างสูงโปร่งของตัวเองเดินจากไป     เสียงประตูปิดลงพร้อมกับเธอที่เอนตัวลงอีกครั้งอย่างผ่อนคลาย รูปถ่ายของหล่อนที่มีใบหน้าชัดเจนถูกหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้งสักแล้วซ้ำเล่า ภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะนั้นเธอเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยจะต้องมีสิ่งดีๆ นั้นซุกซ่อนอยู่เป็นแน่...      แค่เพียงคิดว่าจะได้ลิ้มลองรสชาติของคนๆนี้แล้วเธอก็แทบอดทนรอพรุ่งนี้จวนจะไม่ไหว เธอไม่เคยรับรู้ถึงการรอคอยที่แสนจะทรมานเท่านี้มาก่อนเลย และเธอเชื่อว่าการรอคอยในครั้งนี้ของเธอมันจะคุ้มค่ามากจนถึงที่สุด     “อย่างน้อย...เธอก็ไม่สกปรกเหมือนกับผู้หญิงที่ผ่านชายมานับไม่ถ้วนเหมือนกับผู้หญิงสวะพวกนั้น...อดใจรอเจอเธอแทบไม่ไหว ประกายดาว...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม