ตอนที่ 1 คนแปลกหน้า

1491 คำ
ปี 3 @มหาวิทยาลัย W โมอา’ s Part “อร๊ายย คิดถึงแกจะแย่ เปิดเทอมสักที” ไผ่หลิวเดินเข้ามากอดฉันทันทีที่ยัยนี่เดินมาถึงโต๊ะที่พวกเรากำลังนั่งอยู่ “เวอร์ไปป่ะ แกคุยกับฉันทุกวันตลอดปิดเทอม” ฉันตอบกลับหน้าเอือมๆ “แหม ก็มันไม่ได้เจอตัวเป็นๆ จับเนื้อหนังแบบนี้นี่นา” ไผ่หลิวพูดพร้อมกับเอามือถูแขนฉันไปด้วย ยัยนี่! จะเอาให้เลขขึ้นเลยมั้ยล่ะ “ฮ่าๆๆๆๆ” และคนที่หัวเราะอย่างสนุกสนานก็คงไม่พ้นเมษา “ขำอะไรยัยเมษา แกก็ต้องโดนเหมือนกัน นี่แหนะๆๆ” และไผ่หลิวก็หันไปเล่นงานเมษาอีกคน ถึงไผ่หลิวจะเป็นตัวร้ายสำหรับคนอื่นๆ แต่กลับเพื่อนในกลุ่มไผ่หลิวจะมีนิสัยเด็กๆ และขี้อ้อนแบบนี้แหละ “แล้วเปิดเรียนวันแรกแบบนี้ ต้องฉลองหน่อยมั้ย?” กั้งถามขึ้นมา “มันต้องงั้นอยู่แล้วสิ จองร้านเลยๆ วันแรกแบบนี้คนเยอะแน่เดี๋ยวเต็ม” ไผ่หลิวบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ไปร้านเดิมมั้ย?” “ร้านเดิมนั่นแหละ วันอื่นหลังค่อยไปร้านอื่น” ไผ่หลิวพูดจบ กั้งก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะก้มหน้ากดมือถือ คิดว่าคงกดจองโต๊ะที่ร้านนั่นแหละนะ “ขึ้นเรียนกันได้แล้ว” และเมษาก็พูดขึ้นเมื่อเธอดูเวลาแล้วพบว่าได้เวลาไปเข้าเรียนกันแล้ว “ไปๆ วันแรกต้องขยันสักหน่อย” ฉันพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนและเก็บของ “แปลกๆ ป่ะ แกควรจะขยันทุกวันที่เรียนหรือเปล่ายะ” ไผ่หลิวหรี่ตามองฉัน “ไปเหอะน่า พูดมาก” ฉันดันหลังไผล่หลิวให้เดินไปก่อนที่พวกเราที่เหลือจะเดินตาม “ไปกันก่อนเลย เดี๋ยวสูบบุหรี่เสร็จจะตามขึ้นไป” อาร์ตพูดขึ้นมาก่อนจะเดินแยกตัวออกไป ซึ่งพวกฉันก็รับทราบและเดินขึ้นตึกเรียนไป . . @Little Bar “คนเยอะชิบ” กั้งบ่นเล็กน้อยเมื่อพวกเราเดินเข้ามาในร้านประจำ ขนาดว่ามากันเร็วแล้วแต่ก็ยังมีคนที่เร็วกว่า ก็เข้าใจได้แหละนะเปิดเทอมวันแรกใครๆ ก็ต้องมาฉลองกันอยู่แล้ว “พวกแกสองคนก็เดินดีๆ แต่งตัวกันมาขนาดนี้ผู้ชายในร้านมันนั่งมองกันเพลินแล้ว” และกั้งก็หันมาบ่นฉันกับไผ่หลิวต่อ วันนี้ไผ่หลิวใส่เป็นเกาะอกสีดำกับกางเกงยีนขายาวและรวบผมขึ้นเพื่อโชว์ลำคอระหงและแผ่นหลังสวยๆ ของเธอ ส่วนฉันใส่เป็นเสื้อแขนยาวสีขาวแนบลำตัวที่โชว์สัดส่วนและเปิดด้านหลังทั้งหมด ส่วนกางเกงวันนี้ฉันใส่ยีนขาสั้นมา (ก็ข้างบนแขนยาวแล้วนี่ ข้างล่างก็ต้องสั้นสิ :P) ทางด้านเมษาเองใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนขายาวปกติ ฉันเคยลองจับเมษาแต่งตัวแบบฉันแล้วนะ สวยมากเลยแหละ แต่ยัยนั่นไม่ชอบ ซึ่งฉันก็ไม่ได้บังคับอะไร ยังไงคนเราก็มีสิทธิ์ในเรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ฉันเคารพตรงนั้นของเพื่อน ส่วนกั้งกับอาร์ตก็แต่งตัวทั่วๆ ไป แต่พวกนั้นหน้าตาดีไง แค่นี้ก็เด่นมากแล้ว ชิ~ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ถึงคิวของดนตรีสดขึ้นทุกคนในร้านก็เอ็นจอยกันมากขึ้น รวมถึงตัวฉันด้วย “เห้ย หน้าแดงแล้วว่ะไม่ได้กินนาน เมาแล้วเหรอ” กั้งถามฉัน “ไม่เมานะ แต่เออมึนๆ แล้ว” ฉันพูดพร้อมกับนวดขมับไปด้วย สงสัยจะไม่ได้กินนานแบบที่กั้งบอกนั่นแหละ ก็ปิดเทอมตั้งหลายเดือนนี่นา “เมาไปเลย เมานั่นแหละดี วันนี้ทุกคนต้องเมา ชนนน~” ไผ่หลิวที่ดูเหมือนจะเริ่มเมาแล้วเหมือนกันพูดขึ้นพร้อมกับชูแก้วมาที่กลางโต๊ะ หลังจากที่พวกเราชนแก้วกัน ฉันก็ดื่มแก้วนั้นจนหมด คราวนี้แหละเมาของแท้แล้ว หัววิ้งไปหมดเลย “ฮ่าๆๆ เอิ๊ก~ สั่งมาอีกป่าวจะหมดแล้วน้า” ไผ่หลิวที่ตอนนี้ก็คงจะเมาไม่ต่างจากฉันพูดขึ้น “เอาอีกสิ เอิ๊กก~” ประโยคนั้นฉันพูดเองค่ะ โอ๊ยย! อยากตีปากตัวเองชะมัด เมานะ แต่ก็กำลังได้ที่ไม่อยากให้ขาดตอน หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งกินกันต่อไปจนถึงเวลาร้านปิด แน่นอนว่าฉันกับไผ่หลิวรับบทคนเมา ส่วนที่เหลืออีกสามคนก็รับบทเป็นคนแบกพวกฉันมาส่งที่หอ ถึงแม้พวกเราจะอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ว่าพวกเรากลับอยู่กันคนละหอเลยและก็ไม่คิดที่จะย้ายมาอยู่ที่เดียวกันหรือใกล้ๆ กันด้วยนะ เหมือนแต่ละคนก็อยากมีพื้นที่ส่วนตัวนั่นแหละ “ขึ้นไปเองไหวมั้ยเนี่ย” เมษาพูดขึ้นตอนที่พยุงฉันมาจนถึงประตูเข้าหอแล้ว “ไหวสิ! ฉันเดินได้น่า ไปละ! กลับกันดีๆ นะ” ฉันพูดก่อนจะแตะคีย์การ์ดเข้าไปข้างใน “จะล้มก่อนมั้ยเนี่ย!” และได้ยินเสียงเมษาตะโกนเข้ามาอยู่ไกลๆ ล้มอะไรกัน ฉันก็เดินปกติ คิดว่าไม่น่าเมาขนาดนั้น ฟุบ~ เออล้มจริงด้วย สงสัยจะเซเล็กน้อย เอิ๊กก~ ในที่สุดฉันก็พาตัวเองมาถึงหน้าห้องได้แล้ว เย่! ฉันกำลังควานหากุญแจห้องจากกระเป๋า แต่.. เห้ยยย!! หายไปไหนเนี่ย ฉันหากุญแจห้องจากกระเป๋าเท่าไรก็หาไม่เจอ เอาของออกมาเทหน้าห้องก็แล้ว ไม่มี T^T แถมแบตมือถือก็หมดไปแล้ว แล้วจะเข้าห้องยังไงเวลานี้ เมาก็เมา ฮรืออออ ฉันนั่งสิ้นหวังอยู่ที่หน้าห้อง เพราะเมาจนยืนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน สงสัยอาจจะต้องงีบหลับตรงนี้ไปก่อนมั้ง พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันใหม่ สมเพชตัวเองแต่ก็อดขำไม่ได้เหมือนกัน สภาพตอนนี้คงแย่มากแน่ๆ แต่เวลานี้คงไม่มีใครผ่านมาเห็นหรอกมั้ง กึก! “เธอ.. มานั่งทำอะไรตรงนี้” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น ฉันจึงเงยหน้าไปมอง โอ้โห O.O หล่อแฮะ ขนาดเมาก็ยังรู้ว่าหล่อ “ฉันทำกุญแจห้องหายน่ะ T^T” ฉันตอบคนแปลกหน้าไป “แล้วไม่ไปนอนกับเพื่อนก่อนล่ะ มานั่งตรงนี้ทำไม” คนแปลกหน้ายังคงถามฉันต่อ “แบตหมดไปแล้ว T^T” ฉันพูดพร้อมกับชูมือถือที่ตอนนี้ดับสนิทให้คนแปลกหน้าดู “แล้วจะนั่งอยู่ตรงนี้ยันเช้าหรือไง” “ก็น่าจะต้องเป็นงั้นมั้ย อย่าถามเยอะสิเห็นมั้ยว่าเมา ฉันต้องเค้นสติมาตอบเนี่ย” ฉันพูดก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง มึนหัวไม่ไหวแล้ว “ก็เพราะเห็นว่าเมา แถมเป็นผู้หญิงนี่แหละจะมานั่งตรงนี้ทั้งคืนไม่กลัวโดนหิ้วไปรึไงกัน” ผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นพูดพร้อมกับยอตัวลงให้เท่ากับที่ฉันนั่ง “แล้วนาย.. จะมาหิ้วฉันไปหรือเปล่าถึงเข้ามา เอิ๊ก~ ^^” ฉันตอบกลับไปทีเล่นทีจริง “หึ~” ถ้ามองไม่ผิดเหมือนนายคนนี้จะยิ้มมุมปากอยู่นะ “ยิ้มอะรายยย” ฉันถามออกไปทันที “เปล่า งั้นเธอไปชาร์ตแบตมือถือที่ห้องฉันก่อนมั้ย และค่อยโทรหาเพื่อน” “ได้เหรอออ เอิ๊ก~ ไม่ได้หลอกพาฉันเข้าห้องใช่มั้ย” ฉันถามออกไปเพื่อความแน่ใจ แอบกังวลนิดหน่อยเหมือนกันเพราะเราไม่รู้จักกันนี่นา “ฉันไม่ทำอะไรเธอสภาพนี้หรอก ไปเร็ว ดึกแล้ว” นายคนนี้พูดแล้วก็ลุกขึ้นยืน แถมยังยื่นมือมาให้ฉันจับอีกต่างหาก หมับ~ ฉันจับมือเขาเพื่อพยุงตัวเองในการยืนขึ้น และก็เดินตามนายคนแปลกหน้าคนนี้ไปที่ห้องของเขา นี่ฉันใจง่ายไปมั้ยเนี่ย... แต่มันก็ดีกว่านั่งอยู่หน้าห้องแหละน่า ไม่มีอะไรหรอก แกร๊ก~ “เข้ามาสิ” นายคนแปลกหน้าพูดขึ้น เมื่อเขาเปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว ฉันเดินตามเข้าไปอย่างว่าง่าย และเมื่อเข้ามาในห้องฉันก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องของเขาไม่ต่างจากฉัน แต่ว่าไม่ได้มีเวลาสำรวจรายละเอียดอะไรหรอก ก็เมานี่นา “ไหนที่ชาร์ตล่ะ” ฉันแบมือถามคนตรงหน้า “ใจร้อนนะเนี่ย นั่งรอก่อนเดี๋ยวไปหยิบให้” เขาพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปตรงส่วนของห้องนอน ฉันจึงนั่งรออยู่บนโซฟา ง่วงจัง~ หลับตารอแล้วกันนะ z z Z
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม