ข้าเป็นคนง่าย ๆ

1125 คำ
“ชุนเอ๋อร์ ทานข้าวเช้ามาแล้วหรือยังรับพร้อมกันกับแม่ได้หรือไม่” เกาเหยาชุนเงยหน้าสบตากับมารดา แววตาที่เต็มไปด้วยความรักความห่วงใยทำให้คำกล่าวที่จะปฏิเสธก็ถูกกลืนลงไป “เจ้าค่ะ ท่านแม่” นางเดินไปนั่งตรงข้ามมารดาจากนั้นก็รับช้อนชามจากบ่าวไพร่ก้มหน้ากินโจ๊กหมูอย่างเงียบ ๆ เกาฮูหยินปรายสายตามมองบุตรสาวด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง หลังจากทานข้าวเสร็จ เกาเหยาชุนหยิบผ้าเช็ดปากแล้วเงยหน้ามองมารดาเอ่ยเรียกเสียงแผ่วเบา “ท่านแม่” “เจ้าคงจะไม่มาบอกแม่ ว่ายินยอมเป็นฮูหยินรองใช่หรือไม่” หญิงสาวหยักหน้าเบา ๆ อย่างรู้สึกผิด นางรักเสิ่นเยี่ยหงมาตั้งหลายปี สัญญาหมั้นหมายก็มีแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้หาได้มีคนผิด ทำไมนางจะต้องแก้ไขด้วยเล่า “ให้แม่ไปคุยกับทางโน้นเสียก่อน อย่างไรผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพียงสตรีชาวบ้าน เสิ่นฮูหยินอาจจะมีวิธีจัดการที่เหมาะสม ไยเจ้าต้องรีบลดเกียรติตนเองเช่นนี้” น้ำเสียงของเกาฮูหยินเต็มไปด้วยความอ่อนใจ แม้เกาเหยาชุนจะรู้สึกผิดกับมารดา ทว่านางเติบโตมาพร้อมกับเสิ่นเยี่ยหง บุรุษที่นางหลงรักมาหลายปี นิสัยใจคอของชายหนุ่มนางล้วนกระจ่างใจยิ่งกว่าใจตนเองเสียอีก “ท่านแม่..ลูกขอโทษที่ทำให้ท่านผิดหวัง ทว่าท่านแม่...ข้ารู้จักเยี่ยหงดี ไม่เพียงสตรีคนนั้นได้ตบแต่งผูกผมร่วมกับเยี่ยหงแล้วคลอดบุตรชายให้ ยังมีบุญคุณช่วยชีวิตที่ตอบแทนไม่จบสิ้น ไม่มีทางที่เราจะกดดันให้สตรีคนนั้นเป็นอนุหรือจะขับไล่ออกไป ดีชั่วอย่างไรเยี่ยหงต้องปกป้องนางอย่างแน่นอน ไม่สู้ทางเราเสนอก่อนใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างเข้าอกเข้าใจไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ” คำกล่าวของเกาเหยาชุนยิ่งทำให้ เกาฮูหยินรู้สึกอับจนหนทาง เสิ่นผู้เฒ่านับได้ว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมย่อมต้องดูแลสตรีคนนั้นเป็นอย่างดี แต่นางมีบุตรสาวเพียงคนเดียวอยากให้นางตบแต่งออกมาอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี นางดึงมือของบุตรสาวมาลูบเบา ๆ “แม่จะทำใจให้เจ้า แต่งออกไปเป็นฮูหยินรองได้อย่างไร” เกาเหยาชุนกลั้นเสียงสะอื้นตอบ “ท่านแม่ ข้ารอเสิ่นเยี่ยหงมาหลายปีเดิมคิดว่าสูญเสียเขาไปแล้ว บัดนี้เหมือนสวรรค์ได้ให้โอกาสลูกอีกครั้ง เหตุใดลูกจะไม่คว้าเอาไว้ ท่านแม่ได้โปรดให้ลูกสมปรารถนาด้วยเจ้าค่ะ” ในขณะเดียวกัน ณ จวนตระกูลเสิ่น เสิ่นฮูหยินก็รู้สึกหนักใจไม่ต่างกัน หากบุตรชายไม่มีคู่หมั้นหมายเรื่องราวอาจจะคลี่คลายได้ไม่อยาก นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลแล้ว ยังมีเรื่องของความมั่นคงของราชวงค์มาเกี่ยวข้องด้วย นางหันไปเอ่ยถามกับบ่าวคนสนิท “สตรีผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง” “ตอนนี้สงบเสงี่ยมอยู่ภายในเรือนกับบุตรชายเจ้าค่ะ นอกจากสอบถามเรื่องราวของตระกูล ก็มีเรื่องขออนุญาตท่านโหวเพื่อออกไปข้างนอกนอกจวน ท่านโหวได้อนุญาตแล้วยังกำชับพ่อบ้านเฉิงว่าให้ดูแลนางด้วยเจ้าค่ะ” เสิ่นฮูหยินถอนหายใจยาว แล้วกล่าวต่อ “บอกคนเตรียมรถม้า ข้าจะไปตระกูลเกาเสียหน่อย” ลัวมามาหันไปบ่าวข้างกายจากนั้นก็หันกลับมาเอ่ยถามเสิ่นฮูหยิน “แล้วเรื่องแม่นางกู้เฉียวจิง จะให้ข้ากำชับบ่าวไพร่เพิ่มเติมหรือไม่เจ้าคะ” เสิ่นฮูหยินส่ายหน้าเบา ๆ “นอกจากสิ่งที่ต้องจัดเตรียม เรื่องอื่น ๆ ยังไม่ต้องจัดการสิ่งใด หากนางจะออกไปข้างนอกในเมื่อท่านโหวอนุญาตแล้วก็ไม่ต้องขัดขวาง แต่ว่าก็เตรียมคนไปดูแลสักหน่อย อย่างไรก็นับได้ว่าเป็นคนของตระกูลเสิ่น” ในขณะที่เช้านี้ของกู้เฉียวจิงสดชื่นยิ่งนัก กู้ซวินมาหานางและทานข้าวด้วยกัน มีบ่าวไพร่ดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง พวกนางเดินเข้าออกเป็นเกลียวคลื่นเบา ๆ คอยปรนนิบัติรับใช้ทำให้กู้เฉียวจิงรู้สึกว่าตระกูลเสิ่นน่าอยู่ไม่น้อย สายมาพัก อี้เหมยก็พาสตรีกลุ่มหนึ่งเข้ามา “ตัดอาภรณ์ใหม่หรือไม่ใช่ก็นำมาให้เป็นจำนวนมากแล้ว” กู้เฉียวจิงเอ่ยถามขึ้น เนื่องจากเป็นตระกูลเสิ่น ไป๋เฉียนเจ้าของร้านอาภรณ์จึงมาด้วยตนเอง จึงรีบกล่าวฉอเลาะเอาใจ “แม่นางมีรูปร่างงดงามผิวกายผ่องใส จะต้องได้ใส่ชุดที่งดงามหรูหราที่ตัดมาเพื่อท่านโดยเฉพาะ เช่นนี้ถึงจะไม่ผิดต่อความงามของท่านนะเจ้าคะ” ในเมื่อเป็นความหวังดีของผู้อื่นและในช่วงเวลานี้ กู้เฉียวจิงจึงไม่ได้ปฏิเสธ นางเลือกลายผ้าและแบบพร้อมกับสั่งเครื่องประดับเพื่อให้เข้ากับชุดที่ตัดอีกหลายแบบ นอกจากจะตัดชุดของนางแล้วยังมีของกู้ซวินด้วย ผ่านไปเกือบชั่วยามก็ยังไม่เสร็จสิ้น นางรู้สึกเหนื่อยล้ากว่าการฆ่าคนเสียอีก ในขณะนั้น อี้เหมยก็เอาของว่างออกมา นางปรายตามองดู บ่าวไพร่ที่นี่ทำงานดีจริง ๆ “แม่นางกู้ บ่าวเห็นว่าท่านอาจจะเหนื่อยแล้ว พักทานของว่างสักหน่อยเจ้าค่ะ และนี่คือ ชาชิงหลง เป็นชาที่ฮองเต้พระราชทานมาให้ได้จวนเราได้มาไม่มาก แต่ฮูหยินได้ส่งมาให้ท่านได้ดื่มผ่อนคลายเจ้าค่ะ” กู้เฉียวจิงยิ้มที่มุมปากบาง เสิ่นฮูหยินคงจะพยายามเอาใจนาง หวังว่านางจะว่าง่าย นางว่าง่ายอยู่แล้ว เมื่อคืนนางก็บอกเสิ่นเยี่ยหงแล้วว่าต้องการจะจากไป อี้เหมยพูดต่อ “หากวันนี้แม่นางกู้อาจจะออกไปข้างนอก บอกบ่าวได้เลยนะเจ้าคะ พ่อบ้านเฉิงได้เตรียมรถม้าไว้ให้ท่านแล้ว” กู้เฉียวจิงเลิกคิ้วขึ้นถาม “ฮูหยินทราบเรื่องแล้ว” อี้เหมยได้รับกำชับจากลัวมามา จึงฉีกยิ้มกว้างตอบ “แน่นอนเจ้าค่ะ ฮูหยินกลัวว่าท่านอยู่ในจวนจะรู้สึกเบื่อและท่านเองก็อาจจะมีสิ่งที่ต้องการ เมืองฉางคุนก็มีร้านค้ามากมาย ท่านควรจะออกไปเยี่ยมชมเจ้าค่ะ” ออกไปใช้เงินเถอะ คำกล่าวนี้นับว่าลื่นหูกู้เฉียวจิงไม่น้อย นางคลี่ยิ้มไปถึงดวงตา แล้วตอบ “ในเมื่อเสิ่นฮูหยินเมตตา ข้าเป็นผู้น้อย ก็ไม่เหตุผลที่จะไม่ปฏิบัติตาม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม