ฉู่จวิ้นเดินมาพบพี่บุรุษคนรองที่บริเวณลานหน้าเรือน "พี่รอง…ท่านมาหาข้ามีกิจธุระอันใดรึ" บุรุษหนุ่มถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ฉู่ซ่งรู้ว่าน้องชายของตนเป็นคนพูดจาโผงผาง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร "ไม่มีธุระ เพียงแต่ข้าได้กลิ่นปลาย่างมาจากเรือนของเจ้า ท่านพ่อเข้มงวดมาก เจ้าแอบกินเนื้อเช่นนี้ถ้าหากถูกจับได้จะต้องถูกท่านพ่อจะลงโทษให้ไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชนเชียวนะ!"
ฉู่จวิ้นแสร้งทำสีหน้าราวกับตกใจมาก "กลิ่นปลาย่างอะไรกัน! อาหารเย็นของเราวันนี้มีแต่ไข่กับเห็ดย่างเท่านั้น!"
เมื่อฉู่ซ่งได้ยินน้องชายปฏิเสธเสียงหนักแน่น ชายหนุ่มจึงถามต่อด้วยรอยยิ้ม "เจ้าไม่ได้ไปที่ภูเขา ด้านหลังเพื่อจับปลาหรอกรึ"
ฉู่จวิ้นชี้มือไปทางหลังบ้านและพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด "หากไม่มีองค์หญิงผู้สูงส่งอาศัยอยู่ในบ้าน บางทีข้าอาจจะขึ้นเขาไปจับปลาเพราะทนความหิวโหยไม่ไหว แต่ท่านก็รู้ว่านางไม่มีทางยอมให้ข้าทำเช่นนั้นแน่!"
ฉู่ซ่งได้ฟังก็ยิ้มแห้ง สายตาที่มองน้องบุรุษเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ การที่มีภรรยาฐานะสูงส่งเช่นนี้อยู่ในบ้าน คงจะทำให้เขาทำอะไรไม่สะดวกนัก
“เป็นข้าที่เข้าใจผิดไปเอง เช่นนั้นเจ้าไปพักผ่อนเถอะ” ฉู่ซ่งไม่ถามอะไรอีก และเดินกลับเรือนของตัวเองไป
อวี้เหยียนนั่งรอสามีอยู่ในห้อง เมื่อเห็นว่าเขากลับมานางก็ถามด้วยความตื่นเต้น "ว่าอย่างไร น้องสามแอบย่างปลารึเปล่า"
ฉู่ซ่งส่ายหัว "น้องสามบอกว่าเขาไม่ได้กินเนื้อสัตว์ ที่เจ้าได้กลิ่นมันอาจจะเป็นเห็ดย่างก็ได้"
อวี้เหยียนยังคงสงสัย "น้องสามบอกว่าเขาไม่กิน ท่านก็เชื่อรึ"
ฉู่ซ่งรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย "หากว่าในบ้านมีเพียงเขา ข้าคงไม่เชื่อ แต่ว่าน้องสะใภ้สามมีฐานะสูงส่งถึงเพียงนั้น นางคงไม่ยอมให้เขาทำเรื่องผิดกฎเช่นนี้หรอกกระมัง"
อวี้เหยียนคิดถึงกริยาท่าทางขององค์หญิงแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ดูจะสมเหตุสมผล ปลาย่างที่นางได้กลิ่นอาจจะเป็นเพราะตนเองรู้สึกหิวมากเกินไป ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนเรื่องคุยและหันไปออดอ้อนสามีแทน
ฝ่ายฉู่จวิ้นเมื่อส่งพี่ชายกลับไป เขาก็เดินไปที่ห้องหนังสือเพื่อที่จะอาบน้ำก่อนนอนอีกครั้ง ภรรยาของเขาเคยบอกว่าหากจะนอนที่เตียงของนาง ต้องอาบน้ำทั้งเช้าและก่อนนอน ดังนั้นไม่ว่าอากาศจะหนาวจนน้ำเย็นมากเพียงใดเขาก็สามารถทนได้
เมื่อบุรุษหนุ่มกลับมาที่ห้องก็เห็นว่าภรรยากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง นางอยู่ในชุดคลุมสีขาวเตรียมตัวจะเข้านอน ผมสีดำถูกรวบขึ้นด้วยปิ่นไม้อย่างง่ายๆ เผยให้เห็นต้นคอระหง
"องค์หญิง…พวกเราเข้านอนกันเถอะ" ฉู่จวิ้นมองนางโดยไม่ละสายตา แน่นอนว่าเมื่อบุรุษและสตรีอยู่ในห้องหับกันสองต่อสอง ย่อมหนีไม่พ้นที่จะคิดถึงเรื่องในม่านมุ้ง เขาค่อยๆ ถอดเสื้อด้านบนลงจนเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องแกร่ง
อันหนิงมองกล้ามที่หน้าท้องเขาอย่างเต็มๆ ตา คืนนั้นนางเห็นเรือนร่างของเขาไม่ชัดเจนนัก ตอนนี้แสงตะเกียงในห้องยังคงสว่างจ้า มันจึงทำให้หญิงสาวเห็นสัดส่วนของเขาได้ชัดเจนมากขึ้น
"องค์หญิง..." เสียงของฉู่จวิ้นแหบแห้ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา "ท่านบอกว่าพวกเราใช้วิธีอื่นได้…ถ้าเช่นนั้นคืนนี้ข้าขอลูบท่านสักหน่อยได้หรือไม่"
ภายใต้การจ้องมองด้วยความกระตือรือร้นของเขา อันหนิงจึงพยักหน้าตอบด้วยความเขินอาย
ฉู่จวิ้นเดินมาหานางที่เตียง มือหนาเชยคางของหญิงสาวขึ้นมา ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ ก่อนที่ริมฝีปากของคนทั้งสองจะประกบกันอย่างแนบแน่น
เมื่อได้ลิ้มรสริมฝีปากนุ่มของหญิงสาว รสชาติอันหอมหวานทำให้เขาแทบจะกลืนนางเข้าไปทั้งตัว ในตอนแรกมันเป็นจูบที่เล้าโลมด้วยความอ่อนโยน จากนั้นจูบนั้นค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้น ลิ้นหนาของชายหนุ่มดันเปิดปากของนางออก ก่อนจะเข้าไปกวาดต้อนพัวพันกับลิ้นเล็กของนางอย่างดุเดือด
มือใหญ่ของเขาก็ลูบไล้ร่างกายของหญิงสาวไปทั่วทั้งตัว จนนางร่างกายอ่อนระทวย โอนอ่อนไปตามแรงสัมผัสของชายหนุ่ม
เมื่อเขาผละริมฝีปากออกไป ดวงตาของหญิงสาวเหม่อลอย แก้มของนางแดงระเรื่อ ท่าทางน่าสงสารชวนให้เขานึกอยากรังแกนางมากยิ่งกว่านี้ แต่เมื่อนึกถึงยาเม็ดที่นางต้องกิน เขาก็พยายามควบคุมอารมณ์ของตนเอง
ชายหนุ่มดันร่างนางลงกับเตียง คราวนี้เขามุ่งเป้าหมายไปที่ลำคอของนาง
"อืม...อา..." อันหนิงนอนหงาย โดนมีบุรุษตัวใหญ่เช่นเขาทาบทับอยู่ด้านบน เวลานี้อีกฝ่ายกำลังเลียและจูบที่คอของนาง ประทับรอยสีแดงแสดงความเป็นเจ้าของ
ดูเหมือนว่าฉู่จวิ้นจะยังคงไม่พอใจแค่นั้น เขาคว้าปมเสื้อด้านหน้าของนางออก ด้านในมีเสื้อเอี้ยมปิดบังไว้อีกชั้น ซึ่งเขารู้สึกเสียเวลาที่จะถอดมท้ายที่สุดจึงฉีกออกทันที เนินอกสล่างเมื่อไม่มีสิ่งใดห่อหุ้มมันก็เป็นอิสระ
เนินอกของนางอวบอิ่ม ยอดถันเป็นสีเข้มตัดกับผิวสีขาวราวหิมะ ยิ่งภายในห้องไม่ได้ดับตะเกียงเขาก็ยิ่งเห็นมันได้อย่างชัดเจน ดวงตาของชายหนุ่มลุกวาว เขาก้มศีรษะลงและดูดกลืนยอดถันเข้าไปในปาก
"อืม..." อันหนิงไม่สามารถที่จะกลั้นเสียงครางเอาไว้ได้ ยอดถันของหญิงสาวถูกลิ้นหยาบโลมเลียซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนมันแข็งขึ้นเป็นไต
"อือ…อ้าาา..."หญิงสาวอยากจะผลักเขาออกจากหน้าอก แต่ยิ่งนางผลักเขาก็ยิ่งดูดแรงมากขึ้น ท้ายที่สุดนางทำได้เพียงกำผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความกระสันออกไปเท่านั้น
ระหว่างที่เขากำลังดูดดึงยอดถันจนนางอ่อนระทวยไปทั้งร่าง ในเวลาเดียวกันฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มเลื่อนลงไปที่ส่วนล่างของนาง
“อืม...” ดวงตาของหญิงสาวเหม่อลอย ความรู้สึกแปลก ๆ แล่นขึ้นมาจากร่างกายส่วนล่าง
เมื่อปลายนิ้วของฉู่จวิ้นสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ส่วนล่างของหญิงสาว เขาก็เปลี่ยนเป้าหมายอีกครั้งก่อนจะเลื่อนตัวลงไป...
เมื่อเห็นส่วนนั้นของนางที่กำลังเปียกแฉะ ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวที่จะจูบลงไปบนกลีบสีอ่อนอันบอบบาง การกระทำนี้ทำให้อันหนิงตัวสั่นระริก ส่วนนั้นยิ่งคลายน้ำหวานออกมา และชายหนุ่มก็เข้าโลมเลียมันจนหมด
"อย่า…ท่านอย่าทำเช่นนี้..." อันหนิงขยับตัวหนี เพราะรู้สึกเสียวจนทนไม่ไหว
แต่อีกฝ่ายจะไม่สนใจเสียงห้ามของนาง เขาจับต้นขาของนางอ้ากว้างก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นสอดใส่เข้าไป การกระทำนี้ของชายหนุ่มทำเอานางถึงกับอ้าปากค้าง น้ำใสๆ ตรงส่วนนั้นยิ่งไหลออกมาเรื่อยๆ
“อ๊ะ……อา…” อันหนิงบิดกายไปมาด้วยความกระสัน ต้นขาขาวเนียนโอบศีรษะของเขาแน่น นิ้วมือทั้งสิบจิกเกร็งไปกับเตียง
ชายหนุ่มไม่เพียงแต่โลมเลียเท่านั้น แต่ลิ้นหนาของเขายังสอดใส่เข้าออกในส่วนนั้นของนางเลียนแบบการเคลื่อนไหวของท่อนลำ ทำให้อันหนิงร้องครางไม่เป็นภาษา
"อืม…อ่า…อ๊ะ..."
ความรู้สึกเสียวแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย ท้องน้อยของหญิงสาวหดเกร็ง เป็นสัญญาณว่านางใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้ว
“อือ...” หญิงสาวส่งเสียงครางยาว ในที่สุดร่างอันบอบบางของนางก็สั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ ส่วนนั้นของนางหดเกร็ง และน้ำหวานสีใสก็หลั่งออกมาใส่ใต้คางของชายหนุ่มจนเปียกชุ่ม
เขาเงยหน้าขึ้นมาจากส่วนนั้น ปาดน้ำส่วนเกินออกไปจากใบหน้า "องค์หญิงพอพระทัยหรือไม่"
หลังจากที่สมองขาวโพลน อันหนิงก็ค่อยๆ กลับมามีสติ นางผงกศีรษะขึ้นมองอีกฝ่าย และพบว่าส่วนนั้นของเขาแข็งขืนเป็นลำ ในเมื่อเขาทำให้นางได้ถึงเพียงนี้ เช่นนั้นนางก็จะทำให้เขาคืนบ้างอย่างถึงใจเหมือนกัน!
?ฟินไหมอ่ะ ยังไงเม้นท์บอกกันด้วยน้าาา อาจจะไม่ได้ตอบ แต่จะเข้ามาอ่านทุกคอมเม้นท์เลยเด้อออ พรุ่งนี้นางเอกเอาคืนแน่ค่ะ 5555 ?