“ไอริลูกแต่งตัวเสร็จรึยัง” เสียงของกานดาเอ่ยถามลูกสาวตัวน้อยของเธอที่ยังไม่ออกจากห้องตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็เกือบจะเย็นแล้ว
“ตื่นแล้วค่ะแม่” ไอริที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็รีบวิ่งลงไปยังชั้นล่างทันที
“สวัสดีค่ะป้าริสา” เมื่อสาวน้อยเดินลงมาก็พบกับริสาเพื่อนสนิทของกานดานั่งอยู่ไอริก็เอ่ยสวัสดีก่อนจะยกมือเรียวขึ้นไหว้อย่างมีมารยาท
“สวัสดีจ๊ะหนูไอริ แหม้นับวันยิ่งโตก็ยิ่งสวยขึ้นจริงๆ” ริสาที่เอ็นดูไอริเหมือนลูกสาวคนหนึ่งก็เอ่ยปากชมก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆทำเอาไอริที่ได้ยินนั้นรู้สึกเขิลจนหน้าเเดง
“ไอริรู้รึยังลูกว่าวันนี้พี่ใต้ฝุ่นจะกลับจากฝรั่งเศสมาอยู่บ้านแล้วนะ”
“จริงหรอค่ะ เย้” เมื่อได้ยินกานดาแม่ของเธอพูดเช่นนั้นไอริสาวน้อยที่คิดถึงเจ้าของชื่อก็โดดโลดไปมาอย่างดีอกดีใจทันที ใต้ฝุ่นคือผู้ชายที่อบอุ่นพูดเพราะแสนดีและเป็นพี่ชายคนโตของบ้านพินันท์ชัย
“จริงสิจ๊ะ แล้วป้าก็ได้ยินมาว่าพี่ใต้หล้ากับพี่ใต้น้ำก็จะมาด้วยนะแต่ป้าแค่ไม่รู้ว่าจะพร้อมพี่ใต้ฝุ่นรึเปล่า” เมื่อไอริได้ยินริสาพูดชื่อของใต้หล้าเธอก็ถึงกับหุบยิ้มแล้วเปลี่ยนสีหน้าไปทันที
“พี่กลางกับพี่เล็กก็มาหรอคะ…” ตอนแรกฉันดีใจและตื่นเต้นมากนะที่ได้ยินว่าพี่โตจะกลับมาอยู่บ้านแต่พอป้าริสาพูดชื่อพี่ใต้หล้าขึ้นมาฉันละไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุดเขาจะกลับมาด้วยเช่นกัน
“งั้นก็ดีเลยหน่ะสิหนุ่มหล่อทั้งสามของน้าจะได้กลับมาอยู่บ้านมาดูแลและปราบไอริให้เลิกดื้อสักที” กานดาเอ่ยไปพรางยิ้มไปเธอรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่หนุ่มหล่อทั้งสามคนจะกลับมาจากฝรั่งเศสหลังจากที่ใต้ฝุ่น ใต้หล้าและใต้น้ำไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสก็ไม่มีคนคอยดูแลและปกป้องไอริลูกสาวของเธอเลย เธอจึงดีใจที่ทั้งสามกลับมา
“ป้าว่าพี่ใต้ฝุ่นใกล้จะถึงบ้านแล้วนะไปรอที่บ้านป้ากันไหม” ริสาที่นั่งคุยไปดูนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองไปก็เอ่ยชวนเพื่อนสนิทและหลานสาวตัวน้อยของเธอไปรอลูกชายที่บ้านของเธอ
“ไปกัน” กานดาเอ่ยก่อนจะจับมือของลูกสาวเธอเดินข้ามไปยังบ้านของริสาที่อยู่ติดๆ กัน
ครอบครัวของไอริมีกันอยู่เพียงสองคนแม่ลูกเพราะพ่อของไอรินั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ไอริเกิดคิรันที่เสียชีวิตไปก็ทิ้งมรดกและทรัพย์สินของมีค่าไว้มากมายจึงทำให้ภรรยาและลูกสาวของเขาอยู่ได้อย่างสบายโดยไม่เดือดร้อนอะไรเลย ส่วนริสาเพื่อนสนิทของกานดาก็มีลูกชายถึงสามคนเธอจึงขอให้กานดานำลูกสาวของเธอมาเลี้ยงคู่กับลูกชายเธอเพื่อให้เด็กๆทั้งสี่คนนั้นเกิดความผูกพันและรักกันเหมือนพี่ฉันน้องแท้ๆ
เมื่อทั้งสามเดินมาถึงบ้านของริสาได้ราว20นาทีก็มีเสียงรถหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบที่หน้าบ้านหลังใหญ่ทำให้ไอริที่ได้ยินนั้นต้องรีบสามเท้าเล็กๆวิ่งออกไปอย่างดีอกดีใจทันที
ฟรึ่บ!!!
“อึก น้องไอริ”
“ไอริคิดถึงพี่ใต้ฝุ่นจังเลยค่ะ” เมื่อใต้ฝุ่นลงจากรถไอริก็พุ่งเข้าไปกอดใต้ฝุ่นแน่นด้วยความคิดถึงและโหยหาทันที
“หึ เด็กน้อยพี่ก็คิดถึงไอริเหมือนกันครับ” ใต้ฝุ่นกอดตอบอย่างเอ็นดูก่อนจะยกมือหนาขึ้นมาขยี้ที่ผมของไอริไปมาทำเอาไอริที่กอดเขาอยู่นั้นฉีกยิ้มไม่หุบและกระชับกอดแน่นขึ้นไปอีก
“ไอริครับ ไอริโตเป็นสาวแล้วมากอดพี่แบบนี้มันจะดูไม่ดีเอานะครับ”
“ทำไมคะ!!!” ไอริผละกอดออกก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าแล้วเอ่ยถามใต้ฝุ่นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ทำไมจะดูไม่ดีในเมื่อตอนเด็กๆเธอก็กอดกับเขาออกจะบ่อยครั้ง
“พี่28แล้วส่วนไอริก็20แล้วใครๆเห็นเขาจะเก็บไปพูดกันนะครับ” ใต้ฝุ่นที่เห็นท่าทีงอแงของไอริเขาก็เริ่มอธิบายให้ไอริเข้าใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากกอดเธอเพียงแต่คนที่เขาเห็นผ่านไปผ่านมาเขาจะเก็บไปพูดต่อในเรื่องเสียๆหายๆเพราะเขากับไอริไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆใต้ฝุ่นจึงกลัวว่าไอริจะเสียหายเอา
“ไอริไม่สนค่ะ ไอริจะกอด จะกอดแน่นๆ เลย” ฉันไม่สนว่าใครจะคิดยังไง ฉันรักพี่ใต้ฝุ่นเหมือนพี่ชายแท้ๆพี่เขาทั้งแสนดีอบอุ่นห่างกันตั้งหลายปีฉันก็ต้องคิดถึงและอยากกอดเป็นธรรมดาสิใครจะว่าอะไรยังไงก็ช่าง
“น้องไอริไม่ได้อายุ6-7ขวบเหมือนเดิมแล้วนะครับที่จะมาร้องไห้งอแงขอกอดขอนอนด้วยเหมือนตอนที่เคยทำตอนเด็กๆ” ใต้ฝุ่นเอ่ยก่อนจะผละกอดออกแล้วใช้มือหนาของเขาทาบลงที่ใบหน้าสวยของไอริให้สบตากับเขาก่อนที่เขาเองจะยิ้มให้
“ไม่เอาไอริจะนอนกับพี่ใต้ฝุ่นคะเหมือนเดิมค่ะ” ไอริตอบก่อนจะส่งยิ้มหวานๆกลับอย่างใสซื่อ
“ไม่ได้ๆ เดี๋ยวกะ…..”
“อ้าวพี่ใต้ฝุ่นมาจริงๆด้วยทำไมไม่เข้าไปข้างในละจ๊ะน้ากับริสาทำอาหารไว้รอพี่ใต้ฝุ่นเยอะแยะเลย” ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่กานดาที่เห็นไอริวิ่งออกมานานแล้วไม่ยอมเข้าไปสักทีเธอจึงเดินออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
“สวัสดีครับน้ากานดาขอบคุณมากนะครับ อยู่ที่นู่นได้ทานแต่อาหารฝรั่งเศสผมคิดถึงอาหารไทยที่สุดเลยครับ” ใต้ฝุ่นที่เป็นคนพูดจาหวานไพเราะก็เอ่ยขึ้นทำเอากานดาที่เอ็นดูอยู่แล้วนั้นก็ยิ่งเอ็นดูขึ้นไปอีก
“ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะเรา”
“ใต้ฝุ่นลูก” ริสาที่เดินตามกานดามาติดๆก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกชายคนโตสุดหล่อของเธอกำลังยืนพูดคุยกับไอริและกานดาอยู่
“สวัสดีครับแม่” ใต้ฝุ่นยกมือหนาขึ้นสวัสดีก่อนจะเดินเข้าไปกอดริสาแม่ของเขาแน่น
“แม่คิดถึงลูกๆมากเลย” ริสาเอ่ยขึ้นขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของลูกชายคนโตกี่ปีแล้วที่เธอไม่ได้กอดกับลูกๆแบบนี้เลย
“ผมก็คิดถึงแม่เหมือนกันครับ พ่อฝากบอกคิดถึงแม่ด้วยครับ”
“ตาบ้านี่ชอบทำให้แม่เขิลอยู่เรื่อยเลย” ริสาผละกอดออกจากลูกชายก่อนจะเอ่ยถึงสามีของตัวเองที่เป็นนักธุรกิจชื่อดังอยู่ที่ฝรั่งเศส
“แล้วน้องๆละ” ริสาที่มองดูไปรอบๆรถหรูไม่เห็นใต้หล้ากับใต้น้ำมาด้วยก็เอ่ยถามใต้ฝุ่นลูกชายคนโตทันที
“น้องบอกจะตามทีหลังครับ นี่ครับของขวัญคุณแม่ครับ” ใต้ฝุ่นเอ่ยก่อนจะเดินไปหยิบกล่องสีชมพูที่วางอยู่บนกระเป๋าเดินทางของเขามามอบให้กับริสาผู้เป็นแม่ ซึ่งริสาที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มไม่หุบเธอดีใจที่ลูกชายของเธอนั้นแสนดีและเอาใจใส่คนรอบข้างดีขนาดนี้
“นี่ของคุณน้ากับน้องไอริครับ”
“ขอบคุณนะค่ะ” ไอริรับกล่องของขวัญก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดใต้ฝุ่นอีกครั้งอย่างลืมตัวว่าตอนนี้กานดาและริสากำลังยืนอยู่ด้วย
“ไอริ!!! มานี่ไม่ได้ๆไอริโตแล้วนะคะจะไปกอดพี่เขาแบบนั้นไม่ได้” กานดาที่เห็นแบบนั้นก็เบิกตากว้างก่อนจะรีบดึงแขนเรียวลูกสาวของเธอออกแล้วเอ่ยตำหนิทันที
“ทำไมคะแม่ตอนเด็กๆไอริกอดพี่ใต้ฝุ่นออกจะบ่อย” ไอริเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาๆพร้อมก้มหน้าลงมองเท้าของตัวเอง
"ตอนเด็กๆกับตอนนี้มันต่างกันนะลูกพี่ใต้ฝุ่นก็โตเป็นหนุ่มแล้วส่วนไอริเองก็20แล้วเป็นสาวแล้วไอริต้องเป็นผู้หญิงรักนวลสงวนตัวสิคะ"กานดารีบเอ่ยปากบอกสอนลูกสาวของตัวเองให้เข้าใจเธอรู้ว่าไอริรักหนุ่มทั้งสามเหมือนพี่ชายของเธอแท้ๆแต่ตอนนี้ทั้งสี่คนนั้นต่างเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มเป็นสาวจึงไม่ควรกอดกันแนบชิดแนบกายแบบนี้
“พี่บอกน้องไอริแล้วใช่ไหมครับ” ใต้ฝุ่นเอ่ยก่อนจะรอบหัวเราะเบาๆที่สาวน้อยนั้นถูกตักเตือน
“ก็ได้ค่ะ ชิ” พูดจบไอริก็เดินสบัดเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่รอใต้ฝุ่นหรือแม่หรือป้าของเธอเลย
“ป่ะไปทานข้าวกันเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็นหมดสะก่อน” กานดาเอ่ยก่อนจะเดินนำสองแม่ลูกเข้าไปยังโต๊ะอาหารที่เธอกับริสาได้เตรียมไว้ต้อนรับใต้ฝุ่นทันที
เมื่อเดินเข้ามาถึงโต๊ะอาหารทั้งสี่คนก็ไม่รอช้าต่างพากันกินข้าวเย็นด้วยกันอย่าเอร็ดอร่อยและมีความสุข ใต้ฝุ่นที่ติดนิสัยดูแลเอาใจใส่ไอริมาตั้งแต่เด็กๆเขาก็ค่อยตักนู้นนั้นนี่ให้ไอริอยู่เรื่อยๆทำเอาไอริที่นั่งอยู่ข้างๆนั้นกินข้าวหมดไปหลายจานเลยทีเดียว