บทที่ 6 น้องสาวกรุงโรม

2066 คำ
ก่อนหน้านี้.... มินตราตื่นแต่เช้าเพื่อจะได้ไปพบแพทย์เฉพาะทางโรคเลือด ความกังวลที่มีทำให้เธอนอนไม่หลับทั้งคืน ฝ่ามือบางลูบท้องน้อยระหว่างนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ แม้โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคมีเท่ากันกับโอกาสที่ลูกจะไม่เป็นโรค ทว่าโชคชะตาก็ไม่อาจคาดเดาได้ เธอไม่รู้เลยว่าจะมีใครอยากเล่นตลกกับชีวิตของเธอหรือเปล่า หากพบว่าลูกคนที่สองเป็นโรคอีกคน “ถึงแล้วจ้ะหนู” เสียงคุณลุงคนขับแท็กซี่ทำให้มินตราหลุดออกจากภวังค์ เธอพยักหน้ารับก่อนจะหยิบเงินในกระเป๋าให้กับคุณลุงไป ใจดวงน้อยเต้นไม่ส่ำ เหงื่อที่ผุดขึ้นบนหน้าผากเล็กทำให้ต้องยกมือขึ้นมาปาดออก มินตราก้าวขาที่สั่นเทาเข้าไปยังโรงพยาบาล เธอไม่ชอบที่นี่เอาเสียเลย ภาพจำที่ต้องมาเฝ้ากรุงโรมอยู่ทุกเดือนฉายซ้ำเข้ามาในหัว เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ครั้นพอใกล้ถึงคิวความรู้สึกเหมือนกับนั่งอยู่ในห้องขนาดเล็กทำให้เธออยากอาเจียนออกมาเสียดื้อ ๆ เวียนหัวจนต้องส่ายหน้าเพื่อเรียกสติ หญิงสาวเจาะเลือดส่งตรวจแล้วตอนนี้เพียงแค่รอปรึกษาคุณหมอเพียงแค่นั้น “คุณมินตรา เชิญพบคุณหมอได้ค่ะ...” เสียงของพยาบาลสาวหน้าห้องตรวจทำให้หญิงสาวสะดุ้ง เธอเงยหน้าขึ้นมองบานประตูที่มีชื่อของอดีตคนรักติดอยู่ แกร็ก! แอ๊ดด~ ซึ่งพอเปิดประตูเข้าไปก็พบใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่เรียบตึง ราวกับกำลังโกรธเคืองเธออยู่ “ไม่เจอกันนาน ไม่คิดว่าจะเจอกันแบบนี้เลยเนอะ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน มินตราไม่ได้ติดต่ออีกฝ่ายกลับแม้ว่ากรุงโรมจะหายจากการเป็นโรคแล้ว เพียงเพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะติดต่อเขาอีก “เรามาหาหมอ เธออย่าพูดเรื่องอื่นเลยโนอาร์” หญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะยิ้มให้กับเขาบาง ๆ “ไร้เยื่อใยจริง ๆ นะ” มินตรายักไหล่ขึ้น เธอไม่ได้มีเยื่อใยให้เขานั้นเป็นเรื่องจริง แม้ว่าคุณหมอหนุ่มตรงหน้าจะยังรู้สึกผิดและอยากจะแก้ไขในส่วนนั้นซ้ำ ๆ “บางครั้งแพทย์ก็สงสัยอะไรหลาย ๆ อย่างกับคนไข้ บางคนมาหาหมอเพราะเลือดออกในกระเพาะ แต่เพิ่งดื่มเหล้ามา บางคนมาหาหมอเพราะเป็นโรคปอดเรื้อรัง แต่ก็เพิ่งสูบบุหรี่มา แต่เราก็ไม่ได้มีหน้าที่ไปสั่งหรือถามอะไรเขา...” “เธอจะพูดอะไรกันแน่...” “...ทำไมเธอไม่ป้องกัน” มินตราชะงักนิ่งงันให้กับคำถามที่แม้แต่เธอก็ไม่อาจตอบได้ หญิงสาวก้มหน้าลงมองฝ่ามือของตัวเองที่กุมอยู่บนหน้าตัก “เธอก็รู้ว่าเธอเป็นพาหะ...” “โนอาร์ เรามาหาหมอ เธอทำหน้าที่ของเธอเถอะ” มินตราตัดบทสนทนาเพียงแค่นั้น ขณะที่คำพูดของเธอทำให้คุณหมอหนุ่มทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับ “เธอต้องเข้าตรวจก่อนคลอด มีหลายวิธี...ตรวจจากเลือดของเธอก็ได้แต่ว่าจะได้เซลล์ของลูกน้อย หรือจะเจาะรกก็ได้ วิธีนี้เจ็บหน่อยแต่แม่นยำกว่า...” มินตราพยักหน้ารับ เธอฟังคุณหมอที่กำลังอธิบายการตรวจก่อนคลอดของเธอ “อย่างที่เธอรู้...ถ้าเขาเป็นโรค เธอจะ...” “เราจะปล่อยเขาไป” มินตราเอ่ยตัดหน้าเขา เธอรู้ว่าเขาอยากให้เธอตอบว่าอย่างไร โนอาร์พยักหน้ารับ เขาเปิดเอกสารค้างไว้ในมือและสบตากับเธอ “ตัวเล็กเป็นเพศหญิงนะ...รู้หรือยัง” มินตราชะงักไป เธอกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตน ลูกสาว...กรุงโรมมีน้องสาว “หึ เราเพิ่งรู้” “โอเค แล้วกรุงโรมล่ะ...” “หืม อ้อ อยู่กับพ่อเขา” โนอาร์พยักหน้า แบบนี้ก็เดาได้แล้วว่ากรุงโรมคงหายแล้ว สำหรับคุณหมอแบบเขาเพียงแค่คิดอย่างนี้ก็อดที่จะดีใจไปด้วยไม่ได้ “ดีใจด้วยนะ แล้วเธอไม่ได้อยู่กับเขาหรือไง” การเงียบไปของมินตราเป็นคำตอบที่ดี เธอไม่ได้อยู่กับกรุงโรม แถมวันนี้ยังมาหาหมอเพียงลำพัง พอเห็นแบบนี้แล้วเขาก็มีบางอย่างอยากพูดกับเธอ “มิน...” “_” “...เราอยากดูแลเธอนะ” มินตราเงยหน้าขึ้นสบตากับคุณหมอหนุ่มตรงหน้า เธอรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดอย่างนี้ ทว่า ครืด~ “เราพูดเรื่องนี้ไปแล้ว แล้วก็...” มินตราลุกขึ้นยืน เธอพร้อมจะเดินออกไปจากห้อง ทว่ายังพูดไม่จบเขากลับพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน “เราแค่อยากแก้ตัว” “ไม่หรอก โนอาร์...เธอไม่เข้าใจหรอก” มินตราไม่สนใจว่าคุณหมอหนุ่มตรงหน้าจะว่าอะไร เธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปปลดล็อกประตู ทว่าไม่ได้ผลักออกเสียทีเดียว “เพราะแบบนี้ใช่ไหมเธอถึงไม่ติดต่อกลับมาเลย เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเราแล้วใช่ไหม” คำพูดของเขาทำให้มินตรารู้สึกโกรธขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทำไมเวลาคนทำผิดถึงเริ่มมารู้สึกตัวตอนที่เธอไม่เหลือความรู้สึกอยู่ในนั้นแล้ว “เราไม่ติดต่อมา ใช่...เราไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วไง เรามาทีไรเธอก็พูดแต่เรื่องนี้” ทันทีที่พูดจบ มินตราก็ผลักประตูออกในทันที เธอไม่อยากคุยอะไรกับเขาแล้ว ทว่า “อ๊ะ!!” ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้มินตราได้แต่นิ่งค้าง มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาสะกิดที่ก้อนเนื้อข้างซ้าย จุกเสียดจนได้แต่นิ่งค้างไปพักใหญ่ “คาลเวิร์ต คุณ...” “มิน...” ขณะเดียวกันท่าทีแปลก ๆ ของมินตราทำให้คุณหมอหนุ่มเอ่ยเรียกพร้อมกับเดินตามเธอออกมา ก่อนที่เขาจะพบเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ใบหน้าของเขาราวกับฝาแฝดกรุงโรม ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเผลอสบตากับชายตรงหน้า ก่อนที่เขาจะหันไปถามหญิงสาวข้างกายอีกครั้ง “มีอะไรหรือเปล่า...” ทว่า “ฉันมารับเธอกลับ” คาลเวิร์ตกลับชิงพูดตัดหน้า แม้จะรู้ได้ด้วยตา แต่โนอาร์ก็อยากฟังเสียงจากเธอ “ใครอ่ะมิน...” แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบอะไรเขา “มึงนั่นแหละใคร...” คาลเวิร์ตกลับเค้นเสียงออกมาจากลำคอหนาราวกับโกรธเคืองเขามานับร้อยปี ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกัน และด้วยรูปลักษณ์ของคาลเวิร์ตทำเอาโนอาร์กลืนน้ำลายลงคอ “เราเป็นแค่คนไข้กับคุณหมอเถอะ เราอยากให้เธอเลิกพูดเรื่องนั้นด้วย...” มินตราหันกลับมาสนใจโนอาร์อีกครั้ง หลังจากที่นิ่งอึ้งกับคุณพ่อกรุงโรมอยู่หลายนาที อยู่ ๆ เขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอทั้ง ๆ ที่เป็นคนไล่เธอไป “_” “โนอาร์...เราตกหลุมรักคนง่ายก็จริง แต่ไม่เคยกลับไปรักใครซ้ำอีก…” มินตราว่าเสียงจริงจัง เธอสบตากับคุณหมอหนุ่ม ทว่าคำพูดเมื่อครู่ไม่ได้หมายถึงชายหนุ่มตรงหน้าคนเดียว แต่หมายถึงเขาอีกคน ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รู้ตัว หญิงสาวหมายถึงอย่างนั้นจริง ๆ มินตราเคยมีแฟนมาแล้วหลายคน เธอไม่เคยเลยสักครั้งที่จะยอมให้อภัยใคร ทุกคนผ่านมาแล้วผ่านไปเหมือนกับสายลม ไม่มีใครสักคนที่จะหวนกลับมาได้ รวมถึงเขาคนนี้ มินตราพูดจบก็หมุนตัวจากไป เธอไม่พร้อมเจอหน้าใครทั้งนั้น อีกทั้งหัวใจที่เต้นไม่ส่ำนี้อีก ความรู้สึกที่แปรปรวนอย่างหนักยิ่งทำให้เธอไม่อาจทนอยู่ต่อไปได้ ทว่า หมับ! เพี๊ยะ!! “มาทำไม!” ทันทีที่ข้อมือบางถูกคว้าไว้ หญิงสาวก็สะบัดฝ่ามือตบใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างแรง เพราะไม่ทันได้ตั้งหลักทำให้ใบหน้าของเขาสะบัดตามแรงตบของเธออย่างแรง ขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างที่พุ่งปรี๊ดขึ้นทำให้เธอไม่อาจเก็บน้ำตาของตัวเองไว้ได้ “อึก คุณบอกว่าไม่ให้ฉันไปให้เห็นหน้า...แล้วคุณมาทำไมคะ” มินตราพยายามแกะฝ่ามือหนาของเขาออกจากข้อมือของเธอ แต่เธอจะมีแรงอะไรไปสู้กับเขาได้ พรึ่บ! คาลเวิร์ตดึงข้อมือของเธอเข้ามาใกล้จนคนตัวเล็กกว่าถลาเข้ามาแนบชิดอกแกร่ง “ฉันมารับเธอกลับไง...” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำ เขาไม่พอใจที่เธอตบหน้าเขาต่อหน้าไอ้นั่น คำพูดของเธอเมื่อครู่ก็บอกได้แล้วว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างไร “ปล่อย...ฉันบอกให้ปล่อย อึก” มินตราน้ำตาไหลพราก อยู่ ๆ ก็อ่อนแอขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทำเอาคนตัวโตชะงักไป “มิน...ฉันมารับเธอกลับ” ชายหนุ่มว่าเสียงอ่อน ดวงตาคู่สวยเอ่อนองไปด้วยน้ำตา เธอมองเขาผ่านม่านน้ำตาพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่ค่ะ อึก ปล่อย” เขาไม่มีหูหรือกระไรทำไมถึงไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดแถมยังใช้ท่อนแขนโอบรัดรอบเอวเธอเพิ่มขึ้นอีก “บอกให้ปล่อย ไม่ได้ยินหรือไง!” “_” “ปล่อย” คาลเวิร์ตส่ายหน้า เขารู้สึกแปลก ๆ ยามมองหน้าเธอ ถ้อยคำของเธอด้วย ก่อนหน้านี้คิดว่าเธอคงกระโดดกอดเขาเสียด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้กลับตะโกนใส่หน้าเขา “ทำไม...” คาลเวิร์ตเอ่ยถามเสียงอ่อน เขารู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ที่หน้าอกข้างซ้ายราวกับมีไฟมาจี้ “หึ ทำไมงั้นเหรอ?” มินตราไม่อยากจะเชื่อหูว่าเขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงพูดอย่างนี้ ขณะที่เสื้อเชิ้ตของเขาเธอกำมันจนยับยู่ยี่ “เพราะคุณมันเฮงซวยเกินกว่าที่ฉันจะกลับไปไง” มินตราว่าเสียงสั่น ทำเอาคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตัวเองเฮงซวยอย่างไร ขณะเดียวกันที่ลูกตัวน้อยในท้องกำลังงอแง มินตรารู้สึกเวียนหัว เธอมองใบหน้าของเขาด้วยสายตาพร่าเลือน ราวกับเป็นภาพสุดท้ายที่จะได้เห็น “มินตรา! มิน...” เรียวแขนเล็กตกลงแนบลำตัว มินตราพริ้มตาหลับลงพร้อมกับแข้งขาที่หมดแรง โชคยังดีที่เขาโอบกอดเธอไว้ทำให้เธอไม่เป็นล้มหัวฟาดพื้น ขณะเดียวกันใจแกร่งหล่นตุบราวกับถูกกระชากลงพื้น ชายหนุ่มตกใจที่อยู่ ๆ เธอก็เป็นลม เขาโอบกอดเธอด้วยความเป็นห่วง... @The great feature groups “เธอมาทำงานสาย...” เสียงเรียบตึงของเคเรนด์ไม่ได้ทำให้มิล่ารู้สึกกลัวแต่อย่างใด หญิงสาวคิดว่าเขาไม่ว่าอะไรเธอหรอก “ก็รู้แล้วจะถามทำไม” มิล่าพึมพำออกมา เวลาใกล้เที่ยงเขากลับให้เลขาฯมาเรียกเธอเข้าพบ หญิงสาวมองป้ายชื่อและคำว่าผู้จัดการที่ติดอยู่ เพื่อนพนักงานเรียกเขาว่าบอสบางคนก็เรียกหัวหน้าแต่เขามาทำงานในตำแหน่งผู้จัดการ เธอชักจะงงตกลงเขามาทำงานตำแหน่งอะไรกันแน่ “ฉันถามมิล่า เธอรู้ไหมว่าที่นี่ถ้าสายสองวันเขาไล่ออก” “ก็สายวันเดียว” มิล่าตอบกลับทันควัน เธอสายสองวันที่ไหนกันเล่า เขาก็พูดราวกับกลัวว่าเธอจะโดนไล่ออกอย่างไงอย่างงั้น ทว่า “ถ้าเธอโดนไล่ออกฉันจะไปเจอเธอได้ที่ไหนล่ะ” หญิงสาวสบสายตากับเจ้านายหนุ่ม เขามองเธอด้วยสายตาจริงจังราวกับกลัวว่าเธอจะจากไป เคเรนด์ลุกขึ้นยืน เขาเดินอ้อมโต๊ะทำงานเปลี่ยนมายืนอิงโต๊ะแทน “ทำไมถึงมาสาย” “จิ๊! ก็รถมันเสีย...พอใจนายหรือยัง” “ยัง...” ชายหนุ่มตอบกลับทันควันอย่างลืมตัว ก่อนที่เขาจะกระแอมเสียงออกมาเล็กน้อย “รถเสียทำไมไม่บอก ฉันอยู่ห้องตรงข้ามกับเธอนะ” “บอกทำไม เราไม่ได้สนิทกัน” “ไม่สนิทได้ไง ฉันเคยเป็นผัวเธอนะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม