อยู่ในห้องประมาณชั่วโมงนิดๆ ทั้งคู่ก็เดินออกมา นอกจากจับมือหอมหัวก็ไม่มีอะไร
"เฮ้ย ไอ้เมฆ ไปส่งมัดที่ฟาร์มหน่อย" ตะโกนบอกลูกน้องไปส่งเด็กส่วนเขาจะไปกินเหล้ากับเพื่อน
เด็กสาวหันมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางเขินอายปล่อยมือจากแขนเสี่ยหนุ่ม ยกมือขึ้นจับสร้อยที่คอยิ้มมีความสุข
เมฆและคนอื่นๆ หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เหมือนอยากจะพูดอะไร เมื่อเสี่ยเดินออกไปขึ้นรถ พวกเขาก็รวมกลุ่มกันพูดคุย
"มึงเห็นเหมือนกูไหมวะ" เมฆหันไปถามเพื่อน
"ใช่กูว่าต้องใช่แน่ๆ สร้อยที่คอเด็กนั่น คล้ายกับรูปที่ซ้อผัดเอาให้พวกเราดู" ถึงภาพจะไม่ชัดแต่คิดว่าใช่แน่ๆ ก่อนเข้าไปคอโล่งหลังออกมามีสร้อยที่คอ แต่ก็ไม่รู้ว่าใช่จริงหรือเปล่า ต้องให้ซ้อผัดมาเห็นเอง
"กูก็ว่าใช่นะ" เมฆยังยืนคุยอยู่ เด็กสาวยืนรออยู่ที่รถต้องตะโกนเรียก
"พี่เมฆ!! จะยืนคุยอยู่อีกนานไหม รีบๆ มาขับรถ" เสียงแหลมปี๊ด
เมฆหัวเสียเมื่อถูกใช้...
"อีนี่ใช้กูเป็นขี้ข้าเลย เดี๋ยวกูกลับมาคุยต่อ ขับรถไปส่งอีเด็กขัดดอกนี่ก่อน" เท่าที่เคยเจอเด็กของเสี่ยมา อีคนนี้คางคกขึ้นวอสุด
"เออๆ รีบไป เอาคืนให้ซ้อกูด้วยนะ ขับรถให้มันหัวทิ่มลงขี้วัวในฟาร์มสักที" หลายวันมานี้เด็กนี่ ออดอ้อนเสี่ยคินทร์จนพวกเขาแทบอ้วก
เมื่อชาติพูดจบทุกคนก็หัวเราะ ผู้ชายที่นี่ปากจัดกันทุกคน
เมฆยิ้มร้ายเตรียมทำอย่างที่เพื่อนพูด
"ไม่รู้จักกูซะแล้ว เดี๋ยวแม่งขับให้หัวทิ่มขี้!!" เมฆรีบเดินไปขับรถให้เด็กสาว ก่อนที่เธอจะเหวี่ยงวีน...
"เชิญครับ น้องมัดหมี่" เมฆยิ้มร้าย อัญเชิญให้เด็กสาวขึ้นไปนั่ง
"ขับดีๆ ด้วยนะ" ครั้งก่อนก็เกือบพาเธอลงคลอง เด็กสาวก้าวขาขึ้นไปนั่งบนรถกอล์ฟ
"ได้เลยครับ พี่จะขับให้ดีที่สุด ให้สมกับที่น้องมัดคนเป็นโปรดของเสี่ย" พอขึ้นนั่งดีแล้วก็เหยียบ
"ว๊ายยย!! อีพี่เมฆ" มัดหมี่แทบหัวทิ่ม แค่ออกตัวก็เหมือนจะไม่รอด
"ฮ่าๆ พี่ขอโทษครับ เหยียบแรงไปหน่อย" เดี๋ยวได้เจอของจริง อีเด็กเมื่อวานซืน คิดจะมาแทนซ้อผัดงั้นหรอ ไม่มีวันนั้นหรอก
เมฆขับรถไปตามถนนเล็กๆวิวรอบข้างคือท้องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
"ดะเดี๋ยวๆ นั่นพี่จะขับไปไหน ทำไมไม่ไปทางเดิม" เด็กสาวเริ่มใจสั่นเมื่อชายหนุ่มขับลงทุ่งหญ้า
"พี่จะพาไปทางลัด มันใกล้กว่า" ฮ่าๆ ยิ้มขำในใจ รถกอล์ฟถูกขับเข้าไปกลางทุ่งหญ้าที่มีวัวนับร้อยตัวกำลังกินหญ้ากันอยู่
"ฉันไม่ไป จอดรถเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันจะลง อีพี่เมฆ ฉันบอกให้จอดดด!!" มัดหมี่ตะโกนลั่น ยิ่งเขาขับลงทางลาดเธอยิ่งกลัว
"เฮ้ยๆ เบรคไม่อยู่ เฮ้ยๆ" เมฆร้องตะโกน ทำให้เด็กสาวกรี๊ดด้วยความหวาดกลัว
เคล้งๆๆๆ เสียงรถวิ่งลงเนินโดยไม่เบรค ฝูงวัววิ่งหนีแตกกระเจิก
"กรี๊ด!! " เด็กสาวกรี๊ดร้องลั่นทุ่ง
"เฮ้ยๆ โดดๆ กระโดดลงก่อนที่รถจะพุ่งตกลงเหว!!!" เมฆหันไปตะโกนบอกเด็กสาวด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
"ม๊ายยนะ กรี๊ด!!!" เมื่อได้ยินว่าตกเหวเด็กสาวก็ร้องกรี๊ดหนักกว่าเดิม ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าคือเหวจริงไหม
กรี๊ดดด!!!
มัดหมี่ตัดสินใจกระโดดลงจากรถกอล์ฟเพื่อหนีตาย ร่างเล็กลอยลิ่วตีลังกาลงจากรถกอล์ฟ
ครืดดด คุลิกๆ ตุบ!!!
แผละ!! ใบหน้าสวยๆ ของเธอกระแทกลงที่กองขี้วัวพอดิบพอดี จะว่าพอดิบพอดีก็ไม่เชิงเพราะพื้นที่ตรงนี้ล้วนมีแต่กองขี้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่ใช่แค่หน้าเธอที่โดนแต่ทั้งตัวเลยต่างหาก
เด็กสาวใจเต้นรัวกลัวตาย เมื่อกระโดดลงมาได้ก็คิดว่ารอด แต่เมื่อรู้สึกตัวก็ต้องร้องกรี๊ดอีกครั้ง
"ขะขี้ กรี๊ด!!! ขี้วัว กรี๊ด!!" ยิ่งกรี๊ดก็ยิ่งเข้าปากเข้าตา ร่างอรชรที่เต็มไปด้วยขี้วัวดิ้นเป็นเจ้าเข้า
กรี๊ดดดดดด!!!!
รถกอล์ฟค่อยๆ เลี้ยวกลับมาดูผลงาน เมฆตั้งใจขับมาตรงที่วัวขี้ แล้วให้เธอกระโดดลงไป เรียกว่าตามแผนเป๊ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเก็บหลักฐานเอาไปอวดเพื่อนแต่ห้ามให้เสี่ยเห็น
"มาร์คขี้วัว สบายผิวดีไหมจ๊ะน้องมัด ฮ่าๆ" เมฆทั้งขำทั้งสงสาร เรียกว่าอาบขี้ไปทั้งตัว ส้มน้ำหน้า
"กรี๊ด!! ไอ้เมฆแกหลอกฉัน ฉันจะฟ้องเสี่ยให้ไล่แกออก กรี๊ด ไอ้ชาติชั่ว"
"มันเป็นอุบัติเหตุครับน้องมัด ยังไงก็เดินกลับเองนะน้องมัดนะ ฮ่าๆ อ๊ากก อ๊ากกๆๆ" เมฆหัวเราะด้วยความสะใจ จากนั้นก็ขับรถกอล์ฟผ่านหน้าเธอไป เด็กสาวกรี๊ดร้องก้มลงหยิบขี้วัวปาใส่ตามหลังด้วยความโกรธแค้น
"ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ถ้ากูได้เป็นเมียเสี่ยเมื่อไหร่ กูจะไล่พวกมึงออกให้หมด!!" กรี๊ด!!!!! แล้วก็กรี๊ด....
เวลาหกโมงเย็น
ภาคินทร์กลับมาอาบน้ำกินข้าวที่บ้านก่อนที่จะออกไปกินเหล้ากับเพื่อนต่อ ส่วนผัดไทยก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพราะรู้ว่าห้ามไปก็เท่านั้น ทำได้แค่อดทนอีกยี่สิบกว่าวัน เธอทนมาได้สองปีก็ถือว่าสุดๆ แล้ว คงไม่มีเรื่องอะไรที่แย่ไปกว่านี้แล้วแหละ ถ้าเขาอยากเมาก็ตามสบาย ร่างสูงใหญ่อาบน้ำแต่งตัวหล่อ เดินผิวปากผ่านหน้าภรรยาไปขึ้นรถ อารมณ์ดีจะได้ออกจากบ้าน...
เวลาสามทุ่ม
วันนี้ผัดไทยรู้สึกเครียดหลายเรื่องหลักๆ คือเรื่องสร้อย อยู่ที่นี่มาสองปีเธออดทนกับทุกเรื่องได้ยกเว้นเรื่องสร้อยที่หายไป เธอยอมรับว่าแอบไปร้องไห้ที่หาสร้อยไม่เจอ ยิ่งคนที่ลานปล่อยกู้ทุ่มเทช่วยกันหา เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย ต้องขอบคุณที่ทุกคนช่วยหาอย่างที่สุดถึงแม้จะไม่เจอก็ตาม เห็นทุกคนทุ่มเทช่วยหา ก็ทำให้ผัดไทยต้องตัดใจจากสร้อยเส้นนี้ คงหาไม่เจอแล้วจริงๆ
ไม่มีอะไรจะอยู่กับเราไปได้ตลอดไม่หายวันนี้ก็อาจจะหายสักวัน
'ยายจ๋าผัดขอโทษ ที่รักษาของชิ้นสุดท้ายที่ยายให้ไว้ไม่ได้' แค่ของชิ้นเดียวที่ยายให้ เธอยังรักษาไว้ไม่ได้เลย ผัดไทยฝืนยิ้มให้ตัวเองกลับมาเข้มแข็งแล้วตัดใจ
ร่างสมส่วนเดินไปหยิบยานอนหลับในกล่องออกมากิน เธอจะกินแค่เวลาที่เครียดมากๆ จนนอนไม่หลับ นี่ก็หลายวันแล้วที่เธอนอนไม่หลับจึงต้องพึ่งยานอนหลับ กินเสร็จก็ปิดไปนอน
เวลาห้าทุ่ม
ร่างสูงใหญ่ถูกหิ้วปีกมาส่งที่บ้าน พอหายดีก็เมาเหมือนเดิม เจิดกับโทช่วยกันหิ้วเจ้านายเข้ามาส่งในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มซ้อผัดคงหลับไปแล้ว แต่ปกติดึกแค่ไหนก็จะลงมารับเสี่ย แต่วันนี้แปลกที่ปิดบ้านเงียบไม่ลงมา สองหนุ่มแบกเจ้านายนอนลงโซฟาตัวเดิม มองหน้ากันเลิ่กลั่กว่าเอาไงต่อ ซ้อยังไม่ลงมาทั้งที่เสี่ยโวยวายร้องหาเมียรักอยู่ตลอด หรือจะหลับลึกจนไม่ได้ยิน
"ผาดดจ๋า เฮียมาแล้ว อึก!ผาดด" ร่างสูงใหญ่ขี้เมา นอนยกขาสูงพยายามจะถอดกางเกง
"เอาไงดีวะ ไอ้เจิด"
เจิดเกาหัวไม่รู้ "กูไม่รู้ ให้เสี่ยนอนอยู่ตรงนี้แหละ กลับกันเถอะเดี๋ยวซ้อก็ลงมาจัดการ" จะทำยังไงได้ พวกเขาเป็นแค่คนนอก
"กูละสงสารซ้อจริงๆ รับมือกับเสี่ยได้ยังไงวะ กูกับมึงกว่าจะแบกมาได้แต่ซ้อรับมือคนเดียวเลยนะเว้ย" แล้วไหนจะนิสัยแย่ๆ ที่เสี่ยทำอีก