ระหว่างทางที่ขับรถกลับคอนโดฉันเลิกคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยทุกอย่างมันดูสับสนไปหมด สายตาของคู่หมั้นเขาที่มองมาแววตาเธอดูเศร้าตอนที่แผ่นดินมีท่าทางแบบนั้นกับฉัน
...มันก็แน่ล่ะ ใครบ้างที่จะยินดีตอนที่ว่าที่สามีตัวเองทำแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่น
ไหนจะยังคำพูดของเขาอีก
‘...กลับไปเตรียมตัวโดนลงโทษสถานหนักได้เลยเพราะฉันปรานีเธอมามากพอแล้ว’ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรเพราะมันเดาได้ไม่ยากอยู่แล้วและฉันคงไม่โง่ที่จะรอให้เขามาทำเรื่องทุเรศๆกับตัวฉันหรอกนะ
“ทำไมฉันจะต้องมาเก็บของหนีทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยเนี่ย” ทันทีที่ถึงห้องฉันก็จับเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้จำเป็นทุกอย่างยัดลงกระเป๋าเดินทางในทันทีเพราะกลัวว่าถ้าแผ่นดินกลับมาก่อนคนที่ซวยก็จะเป็นฉันแน่ๆ
“ไม่ลืมอะไรแล้วใช่มั้ยคะ? ?” น้ำเสียงเย็นชาบวกกับความนิ่งเงียบจากทางด้านหลังทำให้ขนลุกได้ไม่ยากเลย
แกร๊ก
“นะ นั่นอะไร” เขาทิ้งเป้ใบโตที่แบกมาลงกับพื้นแล้วค่อยๆเดินเข้ามาประชิดตัวจนฉันจนมุม ยิ้มฝีปากบางยิ้มเย็นส่งมาให้แต่สายตาเขาแทบฆ่าฉันให้ตายลงตรงนี้เลย
“ความสนุกของฉันไง? ...แล้วนี่จะไปไหนเหรอ”
“มันเรื่องของฉัน ...นายไม่จำเป็นต้องรู้ หลีกไป” ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุเพราะเขาขยับเข้ามาใกล้มากจนร่างกายเราไม่มีที่ว่างอยู่เลย มือหนาไล้ไปตามร่างกายของฉันอย่างเชื่องช้าเหมือนกับว่าจะให้ฉันขาดใจตายไปเอง
“เธอมันคือของเล่นที่แสนจะดื้อ ทั้งหนีไปเล่นกับคนอื่น ทั้งพูดจาไม่เพราะ ...แถมตอนนี้ยังคิดที่จะหนีฉันไปอีก?” เขาผละตัวออกไปก่อนจะหยิบเป้ใบนั้นมากางออกบนเตียง พอเห็นสิ่งที่อยู่ในนั้นทำให้ฉันแทบอยากจะกรีดร้องออกมาอย่างกับคนบ้า
...อุปกรณ์สำหรับพวกที่ชอบความรุนแรง ทั้งแส้ ทั้งกุญแจมือ ไหนจะมีผ้าปิดตาอีก
“ฮึก จะทำอะไร อย่านะ ...ม่าย!!!!” จังหวะที่ฉันวิ่งหนีก็โดนเขากระชากแขนจนล้มแถมยังโดนลากไปโยนที่เตียงอีก ทำให้จุกไปหลายนาทีไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย
แกร๊ก
“ฮืออ อย่าทำอะไรฉันเลย ...ปล่อยฉันไปเถอะนะ” ข้อเท้าทั้งสองข้างถูกกุญแจมืออันใหญ่ล็อคไว้ที่เสาปลายเตียง ฉันยกมือไหว้ขอร้องเขาทั้งน้ำตาเพราะหวังว่าเขาจะเห็นใจฉันบ้าง
...แต่เปล่าเลย แววตาเขาตอนนี้มันเหมือนกับโรคจิตที่สนุกเวลาได้ทรมานเหยื่อ
“หึๆ ฉันชอบเวลานี้ที่สุดเลย ...เชื่อฉันแล้วเธอจะชอบมัน ฮ่าๆ” ตัวฉันสั่นเทิ้มไปด้วยความกลัวทั้งท่าทางประหลาดๆที่เขาทำกับเสียงหัวเราะแบบนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยได้เห็นมันเลยสักครั้ง
...คนไหนคือตัวจริงของแผ่นดินกันแน่
“ม่าย!!! ฉันไม่มีวันชอบมัน!!! กรี๊ดดด ช่วยด้วยย ใครก็ได้ ฮือออ” ยิ่งดิ้นข้อเท้าก็โดนเสียดสีมากจนเลือดมันไหลซิบออกมาจากบาดแผล แต่ถ้ามันเจ็บแล้วมีคนเข้ามาช่วยฉันได้มันก็คุ้มไม่ใช่เหรอ
“กรี๊ดอีก กรี๊ดดังๆ ...ถ้าคิดว่าไอ้ตัวไหนมันจะเข้ามาช่วยเธอได้แล้วรอดออกไปโดยไม่มีกระสุนฝังในนี้น่ะ” เขาจิ้มนิ้วไปที่ขมับตัวเองแล้วหันไปสนใจกับของในเป้สีดำต่อก่อนจะทำหน้าดีใจเหมือนเจออะไรที่ถูกใจแล้ว
...บ้าน่า ไม่เอานะ
“เจ็บนิดเดียวตอนแรก และจะเจ็บมากขึ้นตอนที่ฉันเล่นมันกับร่างกายเธอ?” เขาหยิบแส้ขึ้นมาชื่นชมก่อนที่จะหยิบของบางอย่างติดมือมาด้วย
“ทะ ที่ช็อตไฟฟ้า! ...แกมันบ้า!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“ถ้าล็อคขาแล้วเธอจะขยับตัวยากสินะ ...อืม งั้นเปลี่ยนเป็นล็อคที่ข้อมือแล้วกันเนอะ? จะได้ขยับง่ายหน่อย” เขาถอดเสื้อตัวเองออกเหลือแค่กางเกงยีนส์สีดำ
พลั่ก แคว่ก!
“ปล่อยสิวะ กรี๊ดดด” ฉันใช้โอกาสที่เขาถอดกุญแจที่ข้อเท้าออกเพื่อจะวิ่งหนีแต่ก็ไปได้ไม่เกินสองก้าวก็โดนกระชากให้กลับมาอยู่ที่เดิม ชุดที่ใส่อยู่ก็โดนฉีกขาดจนเหลือแค่ชุดชั้นในปกปิดร่างกายไว้แค่นั้น
“ฮึก ฮืออ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันกลัวแล้ว ฮืออ” ฉันร้องไห้ออกมาจนหมดสภาพเรี่ยวแรงทั้งหมดที่จะหนีมันหายไปไหนก็ไม่รู้ เขาปรายตามามองแค่นิดนึงแล้วหยิบแส้หนังมาวางไว้ที่หน้าท้องแบนราบของฉัน
“เฮือก! ...อย่านะได้โปรด ฮือ อย่าทำนะ”
เพียะ!
“กรี๊ดดด ฮือ เจ็บ ...พอแล้ว ฮือ ยอมแล้ว อย่าทำเลยขอร้อง” วินาทีที่แส้ฟาดลงมาที่ท้องความเจ็บมันแล่นแปล๊บไปทั่วทั้งตัวจนเนื้อมันสั่นไปหมด
“ไหนบอกสิว่าจะไม่หนีไปแล้วจะเป็นของเล่นให้ฉันตลอดไป ...ว้า เธอนี่ดื้อจังเลยนะ?”
เพียะ!
“กรี๊ดด ฮือ ฆ่าฉันซะเลยสิ ฮืออ ฆ่าเลยฉันสมเพสตัวเองแล้วก็อย่าฝันเลยว่าจะได้ฉันไปอยู่ในสต็อกทุเรศๆของแก ฮือ ฆ่าฉันสิวะ!!ไอ้ทุเรศ!!” เขาปรบมือแล้วยิ้มกว้างเหมือนกับได้เจอของเล่นที่ถูกใจก่อนจะวางเครื่องช็อตไฟฟ้าบนหน้าท้องของฉันอีกครั้ง
“ให้โอกาสอีกรอบ ? พูดสิคะ ...แหม ของเล่นอย่างนี้ฉันถูกใจชะมัดเลย”
เปรี๊ยะ!
“อะ เฮือก! อื้อ!!” ร่างกายฉันเกร็งกระตุกเพราะโดนกระแสไฟวิ่งปราดเข้าทั่วร่างแค่ไม่ถึงวินาทีแต่กลับทรมานจนแทบจะขาดใจลงไปให้ได้เลย
“เอาน่า ...อย่าเพิ่งมองกันด้วยสายตาอย่างนั้นสิ เรายังมีอะไรให้ทำอีกทั้งคืนเลยล่ะ? แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้ว” เขาถอดกางเกงออกก่อนจะมาคุกเข่าที่หว่างขาของฉันก่อนจะเอาหน้าซุกไปที่ตรงนั้น
งับ!
“กรี๊ดด เจ็บ ฮือ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ กรี๊ดดด” แรงกัดที่ข้างขามันจี๊ดขึ้นมาและเขายังคงทำมันอย่างต่อเนื่องแม้ว่าฉันจะดิ้นรนมากแค่ไหนเขาก็ไม่หยุดที่จะทำแบบนั้น
“อ๊ะ อย่า! ไม่เอา อื้อ” ฉันเกลียดร่างกายตัวเองตอนนี้ ทั้งๆที่เขาทำเรื่องแย่ๆแต่กลับโอนอ่อนไปตามสัมผัสที่เขาทำ ลิ้นร้อนเขี่ยผ่านแพนตี้จนฉันผวาตัวขึ้นมา
“อืม หวานโคตรเลย” ยิ่งเขาขยับลิ้นเร็วเท่าไหร่ตัวฉันก็ยิ่งเหมือนลอยขึ้นสูงขึ้นจนในที่สุด...
“กรี๊ดดด แฮ่กๆ” น้ำหวานสีใสไหลออกมามากหลังจากฉันกระตุกไปเมื่อกี้ ส่วนเขาน่ะเหรอยิ้มกริ่มแล้วเอาแท่งเนื้อจ่อเข้าที่ตรงนั้นแล้วดันตัวเข้ามาจนสุดในครั้งเดียว
สวบ ปึก
“กรี๊ดดด เจ็บ ...เบาๆ ฉันเจ็บ ฮือ” มือหนาขย้ำที่หน้าอกอย่างไร้ความปรานี แรงกระแทกจากจุดเชื่อมมันสร้างความเจ็บปวดให้ฉันมากกว่าสุขสม กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้องจนน่าสะอิดสะเอียน
ปึกๆๆๆๆ
“โอ๊ย ฮือ ฉันเจ็บได้ยินมั้ยว่าฉันเจ็บ กรี๊ดดด” ยิ่งฉันกรีดร้องแผ่นดินก็ขยับตัวให้รุนแรงขึ้นด้วยความสะใจ
“ซี๊ด เมีย.. อื้อ ตอดถี่เกินไปแล้ว อ่าส์ โคตรมันส์เลย” เขาเร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นโดยไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียวว่าฉันจะเจ็บมากขนาดไหน
Rrrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างๆหูของฉัน เขาชูมันขึ้นมาให้ฉันดูก่อนจะกดรับสาย
(ยูกิครับ เป็นยังไงบ้าง) ฉันกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่นจนมันห้อเลือดเพราะไม่อยากให้อชิได้ยินเรื่องต่ำทรามแบบนี้ แต่เหมือนว่าการกระทำของฉันจะไปกระตุ้นอารมณ์โมโหของแผ่นดินเข้าให้
“เลือกเอาว่าจะคุยกับมันหรือจะให้ฉันเปิดกล้อง ...ถ้าให้ฉันเลือกบอกเลยว่ามันจะรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะคิดแน่นอน” น้ำตาฉันไหลออกมาเป็นทางยาว เสียงกระแทกเอวยังคงดังอย่างต่อเนื่องแต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือฉันไม่สามารถปฏิเสธตัวเองจากบทรักที่แสนทุเรศนี้ได้เลย
“ฮึก อื้อ! กิ ไม่ เป็น ...ไร ขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับคุณนะคะ” ริมฝีปากหนาเม้มลงที่หน้าอกอวบจนเกิดรอยแดงไปหมดแถมยังส่งเสียงดังมากอีกด้วย
(นั่นยูกิเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ..ผมได้ยินเสียงแปลกๆ) ต่อให้ทำสายตาอ้อนวอนไปเท่าไหร่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเรื่องแบบนี้ลงเลย
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ อื้อ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะ ...โอ๊ยๆเจ็บ ฮือ เบาๆหน่อยได้โปรด” เขากดตัดสายก่อนจะเร่งจังหวะให้รุนแรงมากกว่าเดิมจนฉันแทบจะหมดสติลงไปอยู่แล้ว
“ต่อให้ต้องล่ามโซ่เธอเอาไว้ฉันก็จะทำ! ฉันไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีฉันไปไหนแน่นอน!”