“วันนี้ให้ภูมิไปส่งดาวที่บ้านนะครับ”
รัฐภูมิมีรถยนต์ส่วนตัวขับไปเรียนทุกวัน และขากลับเขาจะไปส่งแฟนสาวที่บ้านเสมอ แม้ตอนเช้าจะอยากรับมาเรียนด้วยกัน แต่น้อยครั้งที่เธอจะให้เขาแวะรับ
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ดาวมีธุระ ภูมิกลับก่อนเลยค่ะ”
“มีธุระอีกแล้วเหรอครับ ให้ภูมิไปส่งทำธุระไหม”
“ไม่ต้องหรอกค่ะภูมิ ดาวมีธุระทุกวันจนวันสอบเสร็จนั่นแหละค่ะ แต่เดี๋ยวญาติดาวมารับ”
“ครับ เอาแบบนั้นก็ได้ เรียนจบแล้วให้ภูมิไปรับดาวไปดูหนังนะ”
“ค่ะ ค่อยโทรนัดกันนะ ขับรถดีๆ ค่ะ
หนุ่มสาวโบกมือลากัน เธอยืนมองคนรักหนุ่มที่กำลังจะกลายเป็นอดีตขับรถยนต์คันหรูออกไปจนลับสายตา ก่อนจะถูกชายหนุ่มในชุดสูทสีดำตามประกบเพื่อพาขึ้นรถ
“เย็นนี้เจ้านายผมจะไปหาคุณที่บ้านนะครับ”
“เขาจะมาทำไมคะ ก็ส่งพวกคุณมาตามประกบฉันอยู่แล้วนี่ อีกอย่างก็ยังไม่ถึงเวลาตามสัญญาด้วย”
“อันนี้พวกผมก็ไม่ทราบครับ ว่าเจ้านายจะมาหาคุณทำไม คงต้องคุยกันเอง”
คนตัวบางพยักหน้ารับรู้ ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวพิงเบาะ ก่อนจะทอดสายตามองการจราจรที่เริ่มติดขัดบนท้องถนน ปล่อยใจล่องลอยไปเรื่อยๆ ไม่อยากที่จะคิดอะไรให้เป็นทุกข์อีกต่อไปแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็ขึ้นไปอาบน้ำแล้วนั่งอ่านหนังสือทบทวนวิชาที่จะต้องสอบในวันพรุ่งนี้จนจำขึ้นใจอีกครั้ง ก่อนจะถูกตามให้ลงมารับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดี ทำอะไรอยู่”
“อ่านหนังสือค่ะ”
“ฉันมารบกวนเธอหรือเปล่า”
“ก็ นิดหน่อยค่ะ คุณมีธุระอะไรจะคุยกับฉันอีกหรือคะ วันนั้นเราน่าจะตกลงกันลงตัวแล้วนะคะ”
คนตัวโตย่างสามขุมเข้าหาเธอจนต้องถอยหลังหนีเขาหลายก้าว สุดท้ายก็ถูกต้อนจนแผ่นหลังชิดผนัง เขาใช้แขนทั้งสองข้างกักกั้นเธอเอาไว้ให้ไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก
“คุณ..”
“เอก เรียกฉันว่าเอก”
“คุณเอก คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันออกไปนะ”
“ไม่ต้องรีบตกใจ ฉันยังไม่ทำอะไรเธอหรอก แค่จะมาบอกว่าให้บอกเลิกแฟนหน้าอ่อนของเธอซะ”
“นี่คุณให้คนแอบตามฉันเหรอ”
“ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ”
“ฉันยังบอกเลิกภูมิตอนนี้ไม่ได้ เรากำลังสอบ ฉันไม่อยากทำลายสมาธิของเขา แค่นี้ฉันก็จะไม่มีสมาธิสอบแล้ว อย่าให้ฉันต้องเสียใจและสูญเสียทุกอย่างพร้อมกันในตอนนี้เลยนะคะ ฉันขอร้อง”
เขามองดวงตากลมโตแสนเศร้าแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ แม้จะอยากวางอำนาจเด็ดขาดให้เธอกลัว เพื่อจะได้ปกครองกันง่ายๆ ต่อไปในอนาคต
“ฉันให้เวลาเธอแค่สอบเสร็จ เย็นวันนั้น นัดหมอนั่นมาเจอเธอที่นี่ แล้วบอกเลิกมันซะ ฉันจะรอรับเธอกลับคอนโดอยู่ที่หน้าบ้าน”
เธอมองเขาด้วยแววตาแสนชัง เม้มปากแน่น ข่มความรู้สึกทั้งหมดที่มี ก่อนทำได้เพียงตอบตกลงทำตามที่เขาต้องการเท่านั้น เพราะอนาคตของเธอกับแม่อยู่ในมือของเขา เธอจึงไม่ควรทำให้เขาหงุดหงิดอารมณ์เสียซึ่งอาจผลักดันให้เขาเปลี่ยนใจกลับมาเล่นงานแม่เธอเหมือนเดิม
“ค่ะ”
“ดี ว่าง่ายๆ แบบนี้ค่อยอยู่ด้วยกันง่ายหน่อย กินข้าวหรือยัง”
“ยังค่ะ”
“อืม ไปกินด้วยกันสิ ฉันแวะซื้อกับข้าวมา”
พูดจบก็ถอดเสื้อสูทสีดำแบรนด์ดังวางไว้บนโซฟา ก่อนเดินนำไปที่โต๊ะอาหารราวกับบ้านหลังนี้คือบ้านของตัวเอง
เธอมองอาหารหลายอย่างบนโต๊ะ มองลูกน้องของเขาที่กุลีกุจอตักข้าวและนำมาเสิร์ฟให้กับเธอและเขา นึกค่อนขอดในใจที่ทุกคนถือวิสาสะเข้ามาในบ้านของเธออย่างหน้าด้านๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป เพราะรู้ดีว่าเธอตกเป็นรองเขาในทุกด้าน
เขาตักอาหารใส่จานให้เธอจนแทบล้น แต่เธอกลับกินเพียงไม่กี่คำก็รวบช้อนเป็นสัญญาณว่าเธออิ่มแล้ว
“กินเยอะๆ หน่อย ผอมเก้งก้าง ตัวเท่าลูกแมว จะรองรับฉันไหวได้ยังไง เธอโดนฉันทับแบนคาเตียงแน่”
คนตัวบางสำลักน้ำที่กำลังยกขึ้นดื่ม รีบใช้ทิชชูซับน้ำที่เปรอะเปื้อนแล้วตวัดสายตามองเขาอย่างไม่ชอบใจ
“ทำไม มองฉันแบบนั้นทำไม”
“แล้วคุณพูดอะไรออกมาล่ะคะ หน้าไม่อาย”
“หึ ก็เรื่องจริงทั้งนั้น ดูตัวเธอสิ ผอมบางขนาดนี้ จะรับฉันไหวได้ยังไง ฉันไม่เหมือนไอ้หน้าอ่อนไร้ประสบการณ์แบบแฟนเธอหรอกนะ”
“ค่ะ คุณไม่เหมือนภูมิ ไม่มีอะไรเหมือนเลยสักอย่าง ฉันจะรับคุณเท่าที่ฉันรับไหว ไม่ได้ดั่งใจก็ไปหาที่ลงเอาเอง ขอตัวนะคะ ฉันจะขึ้นไปอ่านหนังสือ”
เธอรู้ว่าไม่ควรต่อล้อต่อเถียงกับเขา แต่ใครใช้ให้เขาพูดจากระแนะกระแหนเธอกับคนรักกันล่ะ แถมยังมาดูถูกเธออีก ไม่ชอบแบบนี้ก็ไม่น่ามักมากมาขอการตอบแทนดอกเบี้ยเป็นตัวเธอ
ในขณะที่กำลังจะปิดประตูห้องนอน ก็ต้องตกใจเมื่อเขาออกแรงรั้งประตูเอาไว้แล้วแทรกร่างกายใหญ่โตของเขาเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของเธอหน้าตาเฉย
“คุณเอก คุณเข้ามาทำไมคะ”
“ฉันก็จะมานั่งเฝ้าเธอไง จะมารอดูว่าแม่เธอจะโทรมาหาเธอหรือเปล่า ก็ลูกน้องฉันมันขึ้นมานั่งเฝ้าเธอไม่ได้นี่ ฉันไม่ไว้ใจ ไม่แน่ใจว่าเธอจะรายงานฉันหรือเปล่าถ้าแม่เธอโทรมา”
นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงสักนิด เพราะเขาให้ลูกน้องแอบติดเครื่องดักฟังเอาไว้ทั้งในห้องรับแขกและห้องนอนของเธอแล้ว แต่ที่เขาเข้ามาวุ่นวายกับเธอในห้องนอน เพราะนึกไม่ชอบใจที่วันนี้เธอยังสวีทกับคนรักจนออกนอกหน้า อยากจะตามมาดูให้แน่ใจ ว่าคืนนี้ไอ้หน้าหล่อนั่นมันจะโทรมาคุยกันว่าอย่างไร พวกลูกน้องเขาถึงบอกว่าเธอร้องไห้จะเป็นจะตายเมื่อคืนนี้
“ฉันรับปากคุณไปแล้วนี่คะ อีกอย่างฉันก็สัญญากับคุณแล้ว ว่าจะทำงานใช้หนี้แล้วก็เอาตัวขัดดอกให้คุณ คุณกลับไปเสียเถอะค่ะ ฉันขอความเป็นส่วนตัว แค่สามวันเท่านั้น”
“คงไม่ได้ ฉันจะกลับก็ต่อเมื่อฉันแน่ใจว่าคืนนี้แม่ของเธอจะไม่โทรมาแล้ว”
เธอสะบัดหน้าหนีแล้วเดินไปนั่งอ่านหนังสือบนโต๊ะที่จัดอุปกรณ์การเรียนและหนังสือไว้อย่างเรียบร้อย ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเขาอีกเลย
เขากวาดตามองห้องนอนที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีขาว ผ้าปูที่นอน ผ้าม่าน และเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งเป็นสีชมพูหวานน่ารักน่าทะนุถนอมเหมือนเจ้าของห้อง
แต่แล้วดวงตาคมกริบที่เคยฉายแววพึงพอใจก็ต้องดุกร้าวขึ้น เมื่อโต๊ะข้างเตียงมีกรอบรูปสีขาวที่ภายในมีรูปหนุ่มสาวในชุดนักศึกษานั่งเบียดกันจนชิดและยิ้มหวานให้กล้องด้วยแววตาแห่งความสุข
เขาเดินไปคว่ำรูปใบนั้นลงกับโต๊ะ แล้วทอดกายนอนบนเตียง มองเจ้าของห้องที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างมีสมาธิ ป่านนี้เธอคงลืมไปแล้วว่ามีเขาร่วมใช้ออกซิเจนหายใจอยู่ในห้องเดียวกันกับเธอ
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น ในขณะที่เขากำลังนอนเช็กกระดานหุ้นเพลินๆ เธอกดรับสายอย่างรวดเร็วแล้วเปิดลำโพงด้วยความลืมตัว เพราะลืมไปแล้วว่าในห้องนี้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญรอจับผิดเธออยู่
“ทำอะไรอยู่ครับ อ่านหนังสือหรือยัง”
“กำลังอ่านอยู่ค่ะ รอบที่สองแล้ว”
“ภูมิรบกวนหรือเปล่าครับ พอดีภูมิเพิ่งอ่านจบ เลยโทรมาหา ว่าจะนอนแล้วครับ พรุ่งนี้ค่อยตื่นเช้ามาทวนอีกรอบ”
“ไม่กวนค่ะ ดาวอ่านจะจบแล้ว พรุ่งนี้เช้าก็ว่าจะตื่นมาทวนอีกรอบเหมือนกัน”
“ครับ อีกแค่สองวัน เราก็สอบเสร็จแล้วนะ ภูมิดูคอนโดใกล้ที่ทำงานเอาไว้หลายที่ รอให้ดาวไปเลือกนะ แล้วดาวตัดสินใจหรือยังครับ ว่าจะไปทำงานที่เดียวกับภูมิหรือเปล่า เราจะได้ไปกลับพร้อมกันทุกวันเลยไง”
นับดาวชะงัก ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นก้อนสะอื้นจนตัวโยน แม้จะสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้หรือเสียใจกับเรื่องเขาอีก แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด
“ดาวยังไม่ได้ตัดสินใจค่ะ ขอเวลาดาวหน่อยนะ”
“ครับ ภูมิแค่อยากอยู่กับดาวทุกวัน ไม่อยากต้องทนนอนคิดถึงดาวทั้งคืนแบบนี้อีกแล้ว”
“ดาวก็อยากอยู่กับภูมิค่ะ”
เสียงหวานตอบกลับแผ่วเบา ปลายเสียงสั่นสะท้านเล็กน้อย แต่คนที่คบกันมานานก็จับน้ำเสียงนั้นได้”
“ดาว เป็นอะไรครับ ร้องไห้เหรอ ภูมิขอโทษ ภูมิไม่น่ากดดันดาวเลย ไม่เป็นไรนะ ถ้าดาวยังไม่พร้อมมาอยู่กับภูมิก็ไม่เป็นไร ภูมิรอดาวได้เสมอ ภูมิรักดาวมากนะครับ”
“ดาวก็รักภูมิค่ะ แค่นี้นะคะ ดาวจะนอนแล้ว ฝันดีค่ะภูมิ”
“ฝันดีครับ ที่รักของภูมิ”
เธอกดวางสาย ใช้หลังมือปาดน้ำตาแล้วปิดหนังสือลง ก่อนจะปิดโคมไฟโต๊ะหนังสือ เมื่อหันหลังกลับมาที่เตียงนอนก็ต้องสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ เมื่อแขกไม่ได้รับเชิญที่เธอลืมไปแล้ว นั่งอยู่บนเตียงมองเธอด้วยดวงตาคมกร้าวน่ากลัว
“คุณเอก..”