“ไปตอนแม่ไม่อยู่? นี่คิดอะไรปะเนี่ย?” คนคิดไกลเหล่สายตาจับผิดผม ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้คิดอะไรสักกะนิด จะคิดก็ตอนเธอพูดเนี่ยแหละ ผู้หญิงอะไรวะ พูดนิดพูดหน่อย ลากเข้าเรื่องนั้นตลอด
“ตอนแรกก็ไม่คิดหรอก ตอนนี้เริ่มจะคิดละ” ผมเบะปากก่อนจะปราดสายตามองหาแท็กซี่ เพราะขี้เกียจนั่งรถเมล์ แต่เหมือนคนตัวเล็กจะรู้ทันเลยกระโดดไปโบกรถให้ก่อน ไม่นานรถสีเขียวสลับเหลืองก็ค่อยๆ ผ่อนความเร็วมาจอดเทียบที่ผมกำลังยืนอยู่
“กลับดีๆ นะ เซฟ” เธอว่าก่อนจะเปิดประตูรถอัญเชิญผมเข้าไปนั่งยังกับเจ้าชาย
“0624988085”
“ฮะ?”
“ถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยนะ”
“อ๋อ” ผมพยักหน้ารับ เข้าใจว่าเธอแจกเบอร์โทรศัพท์ เออ แปลกดี ผู้หญิงสมัยนี้โหดเหมือนกันนะเนี่ย แต่ผมไม่ใช่ไอสไตน์นะจะได้จำเบอร์ได้ภายในไม่กี่วินาที “เดี๋ยวเราทักเฟสไปแล้วกัน มีเฟสเรายัง?”
“เราเปลี่ยนใจแล้ว”
“ฮะ?” ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร เธอก็ดันร่างผมเข้าไปในรถแท็กซี่ก่อนจะนั่งข้างๆ และพยักเพยิดให้ผมบอกทางคนขับ เดี๋ยวๆ ผมบอกไม่ต้องไปส่งไง แม่ดุ -*-
“เดี๋ยวเรานั่งรถไปส่งหน้าบ้าน แล้วก็กลับเลย แบบนี้โอเคไหม?”
“...”
จะเอาจนได้สินะ -*-
“ไม่ต้องกลัวพวกนั้นมารุมกระทืบด้วย” เธอยังไม่ล้มเลิกความคิดที่ว่าผมโดนคู่อริหมายหัว ผมหันไปมองตาเธอปริบๆ เงียบๆ ไม่พูดอะไร อยากไปก็ตามใจ
“แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เรานั่งรถมารับ พรุ่งนี้เรียนกี่โมง?”
“เฮ้ย ไม่ต้องขนาดนั้น” ผมตกใจผสมเกรงใจ คือผมก็มีแขนมีขา ไปไหนมาไหนเองได้ ไม่ต้องตามรับส่งหรอก ก็รู้แหละว่าชอบ แต่มันออกจะเกินไปหน่อย ผมกำลังจะปฏิเสธหากแต่คำพูดต่อมาของเธอทำให้ผมเงียบ
เธอตีหน้าอกตัวเองเบาๆ สามทีดังตุบๆ พร้อมสายตามุ่งมั่น ผมถอนหายใจออกมายาวๆ ยอมยกธงขาวให้เธอทำตามใจชอบ... ตั้งแต่เกิดมาไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงที่ไหนมาพูดกับผมแบบนี้สักคน
“ไม่เป็นไร เราจะปกป้องนายเอง เชื่อมือเราได้เลย”
แถมยังตัวเล็กเท่าขี้ตาหมา จะมาปกป้องอะไรผมได้กัน...
วันถัดมา...
ผมโดนไอ้เครย์โทรเรียกเพื่อให้มานั่งข้างสนามบาสเป็นเพื่อนมัน มหาลัยหลายร้อยไร่ มีที่นั่งเยอะแยะ แต่เสือกมานั่งสนามบาสที่ร้อนฉิบหายวายวอด คือถ้าเอาถ้วยมาม่ามาวางสักสามนาที ป่านนี้คงสุกแล้วอ่ะ
‘ไอ้เครย์’ คือเพื่อนรุ่นน้องสถาปัตยกรรมปีหนึ่ง แต่เล่นหัวผมเหมือนเรียนอยู่ชั้นปีเดียวกับมัน หน้าตาเหรอ... ก็ดีมั้ง ก็คงดีแหละ ไม่ต้องคิดจะรอฟังคำอธิบายเบ้าหน้ามันจากผมนะ ผมขี้เกียจ
พวกเราอยู่แก๊งเดียวกัน หรือที่ชาวบ้านให้สมญานามว่า ‘แก๊งตุ๊ด’ อย่าถามว่าใครเป็นคนเริ่มเรียก เพราะถ้าผมรู้ผมเดินไปตบปากมันแล้ว เอ๊ะ ตบไม่ได้สิ ผิดศีลข้อหนึ่ง เบียดเบียนสัตว์โลก... แต่เบียดเบียนสัตว์นรกก็คงไม่เป็นไรมั้ง
นอกจากไอ้เครย์ก็มีไอ้เหมือนฟ้าอีกหนึ่งคน ซึ่งตอนนี้มันกำลังเช็คความชื้นของรูขุมขนมันอยู่ข้างๆ ผมเนี่ยแหละ
ที่ผมรีบยอมมานั่งข้างสนามร้อนๆ นี่เพราะผมกำลังหาทางรวบรวมคนเข้าชมรมให้ครบห้าสิบคนอยู่และไอ้เครย์ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ผมจ้องจะลากมันไปอยู่ชมรมผมด้วย แต่ผมแค่ยังคิดไม่ออกว่าจะชวนมันยังไงดี
“มึงเคยรู้สึกชอบใครปะวะ เซฟ?” มันโพล่งถามขึ้นมาก่อนจะปราดสายตาไปมองกลุ่มคนที่กำลังวิ่งยื้อแย่งลูกบาสกันในสนาม
“ยังว่ะ ยังไม่เคยมีฟีลนั้น” ผมมองหน้ามัน “ทำไมมึงไปชอบใครเข้าหรือไง?”
“กูถามมึงมั่งเถอะ ไอ้เครย์ ไม่มีที่อื่นให้นั่งแล้วเหรอวะ มึงถึงชวนกูมานั่งสนามบาสร้อนๆ เนี่ย” ไอ้เหมือนฟ้าเบะปากแล้วนั่งซับรองพื้นมันอย่างหงุดหงิด ก็ไม่ร้อนเท่าไหร่หรอก แต่ผมจะสุกแล้วอ่ะตอนนี้... -*-
“ก็มี แต่กูอยากนั่งตรงนี้”
“ตรงนี้มีอะไรวะ?” ผมเอ่ยถามแล้วเลื่อนสายตาตามมันก่อนจะสะดุดเข้ากับผู้หญิงใบหน้าสดใสไร้เครื่องสำอาง มัดมวยผมอย่างลวกๆ ท่าทีมาดแมน ส่วนสูงกว่าร้อยหกสิบปลายๆ ไม่รู้ทำไมยิ่งมองแล้วยิ่งนึกถึงผู้หญิงที่ผมเจอคนเมื่อวาน ผมกับไอ้เครย์และไอ้ฟ้าสนทนากันต่อครู่นึง
ผมนั่งอยู่ตรงนั้นสักพักแต่ก็นานพอที่ผมจะรู้ว่าไอ้เครย์กำลังสนใจรุ่นพี่คณะมัน คนที่เล่นบาสอยู่กลางสนามและใส่ต่างหูเยอะๆ นั่นแน่ๆ และเพราะเหตุนั้นผมเลยนึกอะไรออกระหว่างกำลังเดินแยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง ไอ้ฟ้าขอตัวกลับคณะขณะที่โบ๊ะแป้งไม่ขาดมือเดินไปอีกทาง ทำให้เหลือแค่ผมกับไอ้เครย์อยู่แค่สองคนที่กำลังเดินตรงไปโรงอาหารคณะวิศวะผมชายนัยน์ตามองไอ้เครย์นิดนึงก่อนจะโพล่งขึ้น
“เออ ไอ้เครย์”
“ว่าไง?” มันตอบกลับมาแบบส่งๆ
“ผู้หญิงที่ใส่ต่างหูเยอะๆ ที่มึงคุยด้วยอ่ะ” ผมพูดพลางนึกถึงลักษณะของผู้หญิงคนเมื่อกี้
“อ๋อ พี่ผู้หญิงที่กำลังจีบกูอะนะ” มันเอ่ยอย่างไม่อายปาก จากสายตาผม ผมไม่เห็นจะรู้สึกว่าเขาจีบมันตรงไหน รู้สึกว่ามันนั่นแหละที่เสนอหน้าไปเจอ ไปรอ ไปนั่งอ่อยข้างสนามบาสซะมากกว่า
“เออ หน้าคุ้นมากเลยว่ะ” ผมกลอกนัยน์ตาครุ่นคิด คิดว่าเคยเจอที่ไหน “เหมือนกูจะเคยเห็นที่ชมรมกูเลย”
“เฮ้ย จริงปะเนี่ย?” มันเบิกตาโตอย่างออกนอกหน้าสามวินาทีก่อนจะตีหน้ากลับไปเป็นเหมือนเดิม
“กูจะโกหกไปเพื่อใคร?”
“โห สงสัยจะรู้ว่ามึงเป็นเพื่อนกู เลยเข้าชมรมมึงแน่ๆ กะจะให้มึงช่วยจีบกูไง”
อ๋อเหรอ -*-
“แย่เนอะ กูเบื่อความฮอตของกูจัง”
“อืม” ผมหัวเราะแห้งๆ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ไอ้เครย์เงียบไปแล้วเหล่สายตามองผมเหมือนรออะไรอยู่ แล้วโพล่งต่อ
“ที่มึงพูดขึ้นมานี่จะช่วยเขาจีบกูล่ะสิ อยากให้กูเข้าชมรมมึงใช่ไหม? จริงๆ กูก็ไม่ค่อยว่างหรอกนะเซฟ”
“งั้นก็ไม่เป็นไร” ผมเอ่ยหน้านิ่งเพราะรู้ว่าไอ้เครย์เป็นคนยังไง
“แต่กูเข้าชมรมมึงก็ได้ กูรักเพื่อน แฮ่” คำตอบของมันทำให้ผมหัวเราะร่าแล้วนึกประโยคก่อนหน้าของตัวเอง
‘กูจะโกหกไปเพื่อใคร?’
กูโกหกก็เพื่อตัวกูเนี่ยแหละไอ้เครย์... อิอิ