EP2.1 ll เป็นแฟนกันเลยได้ปะ? [1]

1547 คำ
Lin says… ตึกสูงระฟ้า กับบรรดาร้านอาหารข้างถนนติดกับโรงแรมเก่าๆ ใกล้จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่ ท้องถนนเรียบโล่งไม่มีรถยนต์แน่นขนัดเหมือนในเมืองใหญ่ทำให้อากาศสดใสกว่าปกติ ประจวบกับนัยน์ตาคู่คมที่มองตรงมายังฉันอย่างหมิ่นเหม่ทำให้ฉันเกร็งไปนิดหน่อย... ก็แค่นิดหน่อยน่า... ฉันปล่อยมือของร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรให้เป็นอิสระก่อนจะหันซ้ายหันขวาสำรวจภูมิทัศน์โดยรอบ แถวๆ นี้ใกล้กับโรงเรียนชายล้วนที่พึ่งเปลี่ยนเป็นสหศึกษาซึ่งฉันเคยเรียนสมัยมัธยมปลาย ตรงข้ามก็เป็นโรงเรียนสตรีล้วนที่เปลี่ยนเป็นสหศึกษาเหมือนกัน.... ฉันก็ยังสงสัยจนถึงทุกวันนี้ ว่าทำไมพ่อถึงไม่ให้ฉันเข้าโรงเรียนสตรีแทนที่จะเป็นโรงเรียนชาย -*- “ปกติ จะพาใครไปไหนก็ลากมาแบบนี้เหรอ?” คนถูกบังคับถอนหายใจพร้อมเอียงคอสี่สิบห้าองศามองหน้าฉันอย่างฉงน ฉันปรายนัยน์ตาขึ้นมองก่อนจะยักไหล่แทนคำตอบ ก็คงงั้น... ถ้าฉันอยากจะมา ใครก็ห้ามไม่ได้ ถ้าไม่ทุบหัวให้ตบฉันให้สลบ ฉันก็จะหาทางมาจนได้อยู่ดี นี่ไม่ได้เรียกดื้อนะ... เรียกว่าเอาแต่ใจโคตรๆ น่าจะถูกกว่า “เห็นบอกว่าจะพาไปโรงแรมเราก็ตกใจหมด นึกว่า...” เขาพูดอย่างสุภาพพร้อมยกมุมปากสีอ่อนส่งยิ้มบาดใจทะลุทะลวงเข้ามากลางอกจนฉันกลืนน้ำลายเอื๊อกเพราะรังสีหล่อวัวตายควายล้มกำลังปลุกระดมสัญชาตญาณความเป็นชะนีอย่างรุนแรง หลิน... อย่าพึ่งวูบ! ตั้งสติก่อน! “นึกว่าอะไร?” ฉันเลิกคิ้วสูงย้อนคำถามเขาอย่างเจ้าเล่ห์ คนถูกบังคับไหวไหล่ไม่ตอบพลางเสตามองไปทางอื่น ฉันรู้ว่าในกมลสันดาน เอ๊ย ในสมองของเขาคิดอะไรอยู่ ยังไงคนตรงหน้าก็ผู้ชาย จะไปคิดอะไรได้ล่ะ! “เราจะพานายมากินราชาบะหมี่ร้านใกล้ๆ โรงแรมต่างหาก” “บะหมี่?” “ใช่ เจ้านี้เด็ดมากกกกก” ฉันลากเสียงยาวๆ ย้ำความแซ่บของอาหารที่กำลังจะพาเขาไปกิน ก่อนจะขยับปลายนิ้วเข้าไปใกล้หวังจะแต๊ะอั๋งอีกสักนิด ร่างสูงทำตาใสแป๋วเหมือนเด็กอนุบาลถูกหลอกให้กินผัก “บะหมี่อะเหรอ?” “เปล่า เจ้าของร้าน” ฉันเอ่ยก่อนจะพยักเพยิดให้เขามองพี่โป้ง เจ้าของร้านราชาบะหมี่ที่ฮอตที่สุดในบรรดาละแวกร้านค้าแถวนี้ ผิวผุดผ่องเป็นยองใย ร่างกายกำยำดูภูมิฐานขัดกับภาพลักษณ์พ่อค้าบะหมี่ นัยน์ตาคู่หวานเลื่อนมาสบฉันก่อนจะยกยิ้มแล้วโบกมือไหวๆ เรียกฉันเข้าไปหา “เอ้า หมวย! ทำอะไรอยู่ มาช่วยพี่เร็ว!” ‘หมวย’ คือชื่อที่พี่โป้งเรียกแทนเด็กผู้หญิงทุกคนที่เขาเห็นหน้า ไม่ว่าจะซาร่า พัชราภา หรือญาญ่าจะมากินบะหมี่ที่นี่ ทุกคนโดนเรียกหมวยหมด ไม่มีข้อยกเว้น เขากำลังเรียกฉันให้ไปช่วยงานทั้งที่มีลูกมือคนอื่นๆ อีกสามสี่คน อาทิเช่น พี่อินท์ พี่ใหญ่สุดของครอบครัวเรา เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับส่งออกสินค้าเกษตรกรรมไปต่างประเทศ มาดนักธุรกิจใหญ่ภายใต้เสื้อสูทหรูหราสีดำสนิทในเวลาปกติถูกกลบและบดบังเป็นไอ้อินท์ที่ตอนนี้กำลังถูกพี่โป้งใช้ให้เช็ดโต๊ะไม้สนเคลือบเงาจนสะอาดเอี่ยมทุกซอกทุกมุม พี่ตี๋ หรือพี่รองของครอบครัวเรา เขาเรียนจบมาหลายปี ปกติทำงานที่ญี่ปุ่น เขาตั้งใจกลับบ้านมาเพื่อพักผ่อนแต่ตอนนี้กำลังเก็บจานไปล้างหลังบ้าน พี่โอ๊ต จบปริญญาตรีเอกนิติศาสตร์เกียตรินิยมอันดับหนึ่ง ที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ มือฉมังของบริษัทยักษ์ใหญ่... ถูกใช้ถูพื้นจนหมาลื่นหัวแตกตาย คนสุดท้าย พี่ปิง นักศึกษาแพทย์จบใหม่กำลังเตรียมไปต่อหมอเฉพาะทางโดนใช้เสิร์ฟบะหมี่ชามเบ้อเริ่มจนหัวหมุน ทุกคนที่กลับมาบ้านกลายเป็นลูกมือพ่อกันหมด ไม่สิ...ห้ามเรียกพ่อต้องเรียกพี่โป้ง แม้อายุอานามของลุงแกจะปาเข้าไปเกือบหกสิบ แต่ด้วยความแอ๊บใสวัยรุ่นว้าวุ่นหัวใจ พ่อจึงให้ทั้งบ้านเรียกตัวเองว่าพี่! บอกตรงๆ โคตรไม่เจียมตีนกาบนหนังหน้าตัวเองเลย -_____-^ เฮ้อ พ่อนะพ่อ ฉันอุตส่าห์พาว่าที่สวามีในอนาคตมาแนะนำถึงที่ ไม่รักษาภาพพจน์ของฉันเลย! “โธ่ วันนี้หนูมาในฐานะลูกค้านะ” ฉันอิดออดพร้อมกับกระตุกแขนเสื้อร่างสูงที่ถูกบังคับให้มาด้วยเพื่อเป็นสัญญาณ สมัยมัธยมฉันมักจะหลอกเพื่อนมากินบะหมี่ที่นี่ประจำ เพราะพ่อไม่ยอมให้เงินค่าไปโรงเรียนฉัน เขาเลยตั้งกฎว่า ถ้าฉันหาคนมากินบะหมี่ที่ร้านเขาได้ เขาจะให้เงินครึ่งนึง อย่างเช่น บะหมี่ชามละสี่สิบ ฉันจะได้ยี่สิบบาท ให้ตาย ปกติ พ่อเขาทำกับลูกแบบนี้เหรอ! =_=! ดูพ่อแม่คนอื่นสิ ไม่เห็นทำอะไรก็ได้ตังค์ไปกินขนม ฉันขอเงินทีแค่ห้าบาทสิบบาท ต้องเก็บจาน ถูพื้น แลกเงินจนเหงื่อไคลไหลย้อย ไม่มีเวลาห่วงสวยเหมือนชาวบ้านเขาเลย “ชอบแบบนี้เหรอ?” คนร่างสูงกระซิบกระซาบแล้วเหล่สายตาไปมองทางพี่โป้ง หรือพ่อของฉันอย่างสงสัย ทำให้ฉันหัวเราะร่วน “ไอ้ตี๋นี่ใคร?” เขายกกระบวยก๋วยเตี๋ยวชี้หน้าพร้อมสายตาหมิ่นเหม่ พ่อมักจะเรียกผู้ชายที่พึ่งเจอทุกคนว่าไอ้ตี๋ นั่นเป็นสาเหตุที่พี่ชายคนโตสุดชื่อไอ้ตี๋... คิดอะไรโคตรง่ายเลยเนอะ ว่ามั้ย? -*- “เซฟครับ” ร่างสูงตอบพร้อมกะพริบนัยน์ตากลมโตตาปริบๆ มือทั้งสองข้างประกบเข้าหากันตามสัญชาติญาณก่อนจะเสตามองลงต่ำเพราะสายตาดุๆ ของพี่โป้ง “แฟนหลินเอง” ฉันชิงตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างไม่สนหมูหมากาไก่ทำให้คนถูกแอบอ้างหันขวับมามองหน้าฉันอย่างอึ้งๆ แหม ถึงตอนนี้จะยังไม่ใช่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ปะว้า... “เหรอ จะเอาเท่าไหร่ล่ะสินสอด?” นั่นคือประโยคที่พ่อของฝ่ายเจ้าสาวถามเจ้าบ่าวหลังจากเจอหน้ากันไม่ถึงนาที... “พี่โป้ง สินสอดอ่ะผู้ชายต้องเป็นคนให้ ไม่ใช่ฝ่ายหญิง” พี่โอ๊ตขยับแว่นตากลม ในมือถือไม้ถูพื้นหันมาดึงสติผู้เป็นพ่อให้กลับเข้าสู่โลกความจริง “อ๋อเหรอ งั้นไม่คิดหรอก เอาไปเลยฟรีๆ แถมบะหมี่สองก้อน” คุณพี่โป้งเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “เกรงใจหน้าลูกนิดนึงมั้ยล่ะ -_-” ฉันเบะปาก “งั้นเดี๋ยวให้เกี๊ยวอีกห้าชิ้น” เดี๋ยวๆ ฉันว่ามันผิดประเด็น! “โอ๊ย ไร้สาระ ไม่คุยด้วยแล้ว เอาบะหมี่เกี๊ยวสองชาม ไม่อร่อยไม่จ่ายตังค์นะ” ฉันสยบสงครามก่อนที่คนมาด้วยจะมองฉันทุเรศทุรังไปกว่านี้ คิดดูสิ มีอย่างที่ไหนพ่อผลักไสไล่ส่งลูกสาวยังกับขี้ =___= ฉันดึงคนร่างสูงไปหย่อนก้นที่เก้าอี้ เขาตีหน้างงๆ กับชีวิต ก็คงไม่แปลกหรอก อยู่ดีๆ เขาก็โดนลากมาที่นี่ แถมมีแต่คนติ๊งต๊อง บ๊องๆ อีกต่างหาก ไอ้พี่โอ๊ตค่อยๆ ขยับก้นเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะนั่งลงข้างๆ แววตาระยิบระยับไปด้วยความสาระแน ตามมาด้วยพี่ปิงที่เดินถือแก้วน้ำมาเสิร์ฟพลางนั่งลงข้างๆ เซฟ พี่ปิงไม่ได้มาสาระแนเหมือนพี่โอ๊ต อย่างพี่ปิงเรียกว่ามาเสือก! เขาวางแขนไว้บนบ่าผู้ถูกอ้างว่าเป็นแฟนก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ “หมอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ คุณได้เจอโศกนาฏกรรมแล้ว” แล้วเขาก็ทำหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง... “ยังไงเหรอ?” พ่อคนใสซื่อที่ตามไม่ทันมุกหลอกด่าของพี่ฉันเลิกคิ้วสงสัย ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เออ ฉันคิดใหม่ดีไหม? เห็นเขาแล้วไม่มั่นใจว่าฉันจะได้สามีหรือลูกกันแน่! “ไอ้ปิง มันไม่ใช่โศกนาฏกรรมหรอก อย่างไอ้หลินเรียกมหันตภัย” “พี่โอ๊ต อยากไปยุโรปแบบไม่ต้องใช้เครื่องบินปะ?” ฉันยกเท้าขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาถลึงเป็นเชิงขู่ว่าลองสะเออะพูดมากกว่านี้ มีถีบกระเด็นข้ามทวีปแน่นอน “ไม่เป็นไร พี่อยากนั่งการบินไทย... บร๊ายส์” คนโดนขู่หัวเราะแหยๆ แล้วลุกพรวดวิ่งไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เหลือก็แต่อีพี่ปิงที่นั่งยิ้มหวานเยิ้มเริ่มจะลามปามกับว่าที่สามีฉันด้วยการไต่แตะฝ่ามือละไล้ไปตามแผงอก จนคนถูกกระทำกะพริบตาปริบๆ “แหม หน้าตาเรานี่น่ารักเนอะ ถ้าป่วยก็บอกหมอปิงได้นะ หมอพร้อมรักเรา... เอ๊ย รักษาทุกเวลาตลอดยี่สิบชั่วโมง” คำพูดจาอ้อล้อฉอเลาะทำเอาฉันเบะปากแรงก่อนจะหยิบส้อมคันใหญ่ปักเข้าไปกลางโต๊ะกะทันหันดังฉึบ! “สงสัยพี่ปิงจะอยากตัดไข่เจียวแบบไม่ใช้ยาสลบ ^_^” “...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม